เอสซีจี อัพเดต 3 เทรนด์บ้านมาแรงปี 2563 ตอบโจทย์การอยู่อาศัยแห่งอนาคต

 

เมื่อก้าวเข้าสู่ศักราชใหม่ ผู้คนทั่วโลกต่างก็ให้ความสนใจกับการอัพเดตเทรนด์ฮิตรอบๆ ตัว เพื่อให้ตัวเองไม่ตกเทรนด์ และมีการปรับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตเพื่อให้ก้าวทันการเปลี่ยนแปลงของโลกยุคใหม่ ไม่ว่าจะเป็นเทรนด์แฟชั่น เทรนด์สุขภาพ เทรนด์เทคโนโลยี รวมถึงเทรนด์บ้านและที่อยู่อาศัย เป็นต้น วันนี้ “เอสซีจี” ในฐานะผู้นำนวัตกรรมวัสดุก่อสร้างครบวงจร จึงได้รวบรวม 3 เทรนด์บ้านมาแรงปี 2563 ที่จะมาตอบโจทย์การอยู่อาศัยในอนาคตระยะยาว เพราะ “บ้าน” ไม่ใช่แค่ที่อยู่อาศัยแต่เป็นพื้นที่ในการใช้ชีวิต จึงควรสร้าง หรือปรับเปลี่ยนพื้นที่ภายในบ้าน ให้สามารถรองรับการเปลี่ยนแปลงด้านการอยู่อาศัยของสมาชิกทุกคนในระยะยาว

นายเจือ คุปติทัฬหิ

นายเจือ คุปติทัฬหิ Consult and Design Solution Business Lead จากเอสซีจี กล่าวว่า พฤติกรรมการอยู่อาศัยและการใช้ชีวิตของคนในปัจจุบันนั้น เปลี่ยนแปลงไปตามกระแสของโลกที่กำลังก้าวสู่ยุคดิจิทัลอย่างเต็มตัว หรือยุคที่เทคโนโลยีเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินชีวิตประจำวัน รวมถึงกระแสการเปลี่ยนแปลงของประชากรโลกที่มีอัตราการเกิดน้อยลง แต่มีอัตราผู้สูงอายุเพิ่มขึ้น ซึ่งประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่กำลังจะก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุแบบเต็มรูปแบบในระยะเวลาอันใกล้นี้ จากกระแสการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว บ้านของคนยุคดิจิทัลจึงไม่ได้เป็นเพียงที่พักอาศัย แต่จะเป็นพื้นที่ในการใช้ชีวิต และสามารถมอบคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่สมาชิกทุกคน เอสซีจี จึงได้รวบรวมและอัพเดตเทรนด์บ้าน ที่ไม่เพียงมีดีไซน์ของบ้านที่สวยโดนใจ แต่ยังตอบโจทย์เรื่องฟังก์ชันการใช้งานของสมาชิกทุกคนภายในบ้าน และรองรับพฤติกรรมการอยู่อาศัยของคนยุคใหม่ได้เป็นอย่างดี ได้แก่ เทรนด์บ้านอีโค เทรนด์บ้านสำหรับทุกคนในครอบครัว และเทรนด์บ้านอัจฉริยะ

เทรนด์บ้านอีโค (Eco and Sustainable Living)

เทรนด์บ้านอีโค (Eco and Sustainable Living) คนทั่วโลกต่างให้ความสำคัญกับเทรนด์ด้านสิ่งแวดล้อม พร้อมนำแนวคิดนี้มาใช้ในการปรับบ้านให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม  ประหยัดพลังงาน และมอบคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับสมาชิกภายในบ้าน โดยเทรนด์นี้เจ้าของบ้านสามารถนำเทคโนโลยีต่างๆ มาเสริมให้บ้านมีความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ได้แก่

  • บ้านพลังงานทางเลือก ติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ เพื่อใช้พลังงานสะอาดแทนการใช้ไฟฟ้า
  • บ้านประหยัดพลังงานและลดมลพิษในอากาศ โดยติดตั้งนวัตกรรมระบบถ่ายเทอากาศ Active AIRflow™ System ที่ช่วยสร้างกลไกการถ่ายเทอากาศ และระบายความร้อนออกจากตัวบ้าน และโถงใต้หลังคา
  • บ้านสีเขียว เลือกใช้วัสดุก่อสร้างที่มีส่วนประกอบของวัสดุเหลือใช้ ซึ่งวัสดุก่อสร้างเหล่านี้ไม่เพียงเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม แต่ยังคงมีมาตรฐานความปลอดภัยและเป็นมิตรกับผู้อยู่อาศัยด้วย

เทรนด์บ้านสำหรับทุกคนในครอบครัว (Universal Living)

เทรนด์บ้านสำหรับทุกคนในครอบครัว (Universal Living) เป็นเทรนด์ที่ตอบแนวโน้มสังคมผู้สูงอายุ และการอยู่ร่วมกันของคนหลายเจนเนอเรชัน จึงเป็นบ้านที่มีดีไซน์ หรือการปรับพื้นที่ใช้สอยให้รองรับไลฟ์สไตล์ของคนหลากหลายวัย  เช่น จัดสรรพื้นที่ส่วนตัวให้เหมาะกับสมาชิกภายในบ้าน โดยเฉพาะบ้านที่มีเด็กและผู้สูงอายุ ปรับพื้นที่บ้านให้ราบเสมอกัน,  ติดตั้ง DoCare Protect อุปกรณ์ Smart Home เพื่อการดูแลผู้สูงอายุที่อยู่บ้านตามลำพัง, ติดตั้งลิฟท์บันได,ติดราวทรงตัวในห้องน้ำ รวมถึงภายในบ้านควรปูพื้นด้วยไวนิลลดแรงกระแทก และใช้เฟอร์นิเจอร์แบบมุมมน เพื่อลดการชนกระแทก  สร้างพื้นที่ส่วนกลางเพื่อให้คนหลายเจนเนอเรชันอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข  เป็นต้น

เทรนด์บ้านอัจฉริยะ (Smart Living)

เทรนด์บ้านอัจฉริยะ (Smart Living) ปัจจุบันเริ่มมีการนำนวัตกรรม และเทคโนโลยีล้ำสมัยมาใช้เพื่อเพิ่มฟังก์ชันให้กับบ้าน ยกระดับการอยู่อาศัยภายในบ้านให้สะดวกสบาย และปลอดภัยยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็น ระบบสั่งการอัตโนมัติผ่านแอปพลิเคชัน ระบบสั่งการด้วยเสียง ระบบเปิดปิดไฟ และเครื่องใช้ไฟฟ้าอัตโนมัติ ระบบล็อคอัตโนมัติ กล้องตรวจจับความเคลื่อนไหว หรือหุ่นยนต์ต้อนรับ เป็นต้น

นอกจากเทรนด์บ้านเหล่านี้ ยังสำรวจพบว่าเจ้าของบ้านยุคดิจิทัลเกือบ 100% เริ่มต้นหาข้อมูลจากโลกออนไลน์ ทั้งหาเทรนด์บ้าน ผู้รับเหมา ประเมินราคา ข้อมูลวัสดุก่อสร้าง ควบคู่ไปกับการไปหน้าร้านขายวัสดุก่อสร้างเพื่อหาสินค้าที่ต้องการ หรือเจ้าของบ้านบางคนอาจสั่งซื้อวัสดุก่อสร้างผ่านช่องทางออนไลน์ด้วยตัวเอง โดยพบว่าการตัดสินใจ 1 ครั้ง จะใช้ระยะเวลาหาข้อมูล และไปหน้าร้านรวมแล้วนานกว่า 6 เดือน เพราะอาจเกิดความลังเล ไม่รู้ว่าจะเลือกใช้วัสดุอะไร เลือกแล้วจะติดตั้งกับบ้านหลังเดิมอย่างไร เป็นต้น อีกทั้งเมื่อตัดสินใจรีโนเวทบ้านแล้ว ก็ยังพบปัญหาต่างๆ เช่น ช่างทิ้งงาน ช่างขาดความเชี่ยวชาญ ใช้งบประมาณเกินที่ตั้งไว้ เป็นต้น

จากข้อมูลดังกล่าว  เอสซีจี จึงนำผลสำรวจ และปัญหาข้างต้น มาพัฒนาบริการรูปแบบเซอร์วิสโซลูชันให้สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ โดยผสานประสบการณ์การช้อปปิ้งช่องทางออฟไลน์ และออนไลน์เข้าด้วยกันอย่างไร้รอยต่อ ด้วยเว็บไซต์ และแอปพลิเคชัน SCG HOME พร้อมจัดเตรียมทีมผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำปรึกษา แนะนำวัสดุก่อสร้าง ออกแบบ ประเมินราคา และยังลงพื้นที่ติดตั้งให้แบบครบวงจร

 

 

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*