บลูสกาย แอสเสทพลัสฯเผยภาพรวมตลาดอสังหาฯพัทยาแนวโน้มสดใส รับอานิสงส์จากEEC ผู้ประกอบการหลากธุรกิจแห่ลงทุนต่อเนื่อง ด้านราคาที่ดินย่านนาจอมเทียนรอบ 3 ปี พุ่งสูง 3 เท่าตัว เปิดแผนปี63 รุกผุดอีก 1 โครงการ มีที่ดินรองรับแล้ว 10 ไร่ ส่วน “แกรนด์ ฟลอลิดา บีชฟ้อนต์ คอนโดฯ พัทยา” มียอดขายแล้ว 80% คาดปิดขายได้ภายในกลางปีหน้า
 
นายทศพร ศักดิ์สงวนมนูญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บลูสกาย แอสเสทพลัส จำกัด ในเครือกลุ่มบลูสกาย (BSG : Blue Sky Group) เปิดเผยถึงภาพรวมตลาดอสังหาฯในพัทยาว่ายังมีทิศทางที่ดี โดยได้รับอานิสงส์จากการที่รัฐบาลให้การสนับโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor : EEC)ทำให้มีผู้ประกอบการในหลากหลายธุรกิจก็เข้ามาลงทุนอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันก็มีดีมานด์ที่ต้องการที่อยู่อาศัยในพัทยาและพื้นที่โดยรอบอย่างต่อเนื่องเช่นกัน ส่วนราคาที่ดิน โดยเฉพาะทำเลนาจอมเทียน ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาปรับสูงขึ้นถึง 3 เท่าตัว ซี่งที่ดินติดริมชายหาดในอดีต ราคาไม่ถึง 100,000 บาท/ตารางวา ปัจจุบันอยู่ที่ราคา 300,000 บาท/ตารางวา

“พัทยาเมื่อเทียบกับกรุงเทพฯการแข่งขันก็ยังไม่สูงเท่าอย่างแน่นอน ซึ่งมีบทพิสูจน์ได้จากระยะเวลา 6 ปี พัฒนามาแล้ว 5 โครงการ โดยทุกโครงการของกลุ่มบลูสกาย ล้วนประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี เนื่องจากจะทราบความต้องการของลูกค้าว่าต้องการที่อยู่อาศัยแบบใด จึงสามารถพัฒนาโครงการที่ตอบโจทย์ลูกค้าได้เป็นอย่างดี” นายทศพร กล่าว

สำหรับแผนการดำเนินงานของบริษัทฯยังมีการพัฒนาโครงการใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2563 มีแผนจะพัฒนาอีกอย่างน้อย 1 โครงการ ซึ่งมีที่ดินรองรับแล้ว พื้นที่ประมาณ 10 ไร่ ในทำเลนาจอมเทียน ใกล้กับโครงการ “แกรนด์ ฟลอลิดา บีชฟ้อนต์ คอนโดฯ พัทยา” ความคืบหน้าขณะนี้อยู่ในระหว่างการออกแบบ จึงยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้

ส่วนความคืบหน้าโครงการ “แกรนด์ ฟลอลิดา บีชฟ้อนต์ คอนโดฯ พัทยา” ซึ่งตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 16 ไร่ ริมทะเลนาจอมเทียน ระหว่างนาจอมเทียน 14 และ 18 พัฒนาในรูปแบบของอาคารชุดพักอาศัย และห้องชุดเพื่อการพาณิชย์ สูง 7 ชั้น จำนวน 8 อาคาร และสูง 5 ชั้น 1 จำนวน 1 อาคาร  ขนาดตั้งแต่ 36-122 ตารางเมตร ราคาขายเริ่มต้นที่ 4-18 ล้านบาท จำนวน 1,056 ยูนิต มูลค่าโครงการกว่า 5,000 ล้านบาท ขณะนี้มียอดขายแล้วประมาณ 80% แบ่งเป็นลูกค้าชาวไทย 75% และต่างชาติ 25% ในจำนวนดังกล่าวเป็นลูกค้าชาวจีนมากสุด รองลงมาเป็นรัสเซีย โดยได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2562 (รอบVIP) และวันที่ 7 ธันวาคม 2562 (รอบลูกค้าทั่วไป) คาดว่าจำนวนยูนิตที่เหลือจะสามารถปิดการขายได้ภายในกลางปี 2563

“โครงการนี้เปิดพรีเซลเมื่อประมาณปี 2560 จนถึงปัจจุบันได้ปรับราคาขายขึ้นมา 40-50% แล้ว และลูกค้าที่ซื้อส่วนใหญ่ซื้อจริง ไม่มีปัญหาเรื่องมาตรการกำกับสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย (Loan to Value: LTV) แต่อย่างใด เพราะเราให้ลูกค้าวางเงินดาวน์ 35% ซึ่งจะเริ่มทยอยโอนกรรมสิทธิ์ให้ลูกค้าได้ในปลายเดือนมกราคม 2563 นี้” นายทศพร กล่าวในที่สุด

 

 

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*