นายอุตตม สาวนายน

ขุนคลัง “อุตตม สาวนายน” ยืนยันเศรษฐกิจไทยไม่วิกฤติ เร่งรัดให้รัฐวิสาหกิจกว่า 50 แห่ง เดินหน้าการลงทุนให้ได้ภายในไตรมาส 4/2562 เพื่อให้เม็ดเงินลงทุนกว่า  1 แสนล้านบาทเข้าสู่ระบบช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจในปีนี้ หากจำเป็นพร้อมพิจารณาออกชุดมาตรการกระตุ้นอีก สร้างความเชื่อมั่นทุกภาคส่วนต้องช่วยกัน

เมื่อวันที่ 11 ธ.ค. 2562 นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวปาฐกถาพิเศษในงาน Go Thailand ปลุกกำลังซื้อ ฟื้นพลังเศรษฐกิจ จุดพลุอสังหาฯ พาไทยติดปีก” จัดโดยหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ว่า เศษฐกิจของประเทศไทยยังไม่ได้ถึงขั้นถดถอยหรือไม่เกิดวิกฤติ เพียงแค่ชะลอตัวเท่านั้น แต่ยอมรับว่าได้รับผลกระทบจากภาวะของเศรษฐกิจโลกที่ถดถอย “ข้างนอกไม่ดี ทำอะไรไม่ได้ เราก็ต้องมาดูแลกันเอง รัฐบาลมองเป็นระบบยึดโยงกัน ไม่ได้มองเฉพาะส่วน” ซึ่งที่ผ่านมารัฐบาลได้ออกมาตรการต่างๆ มา อาทิ  มาตรการชิมช้อปใช้ รวมถึงมาตรการอื่นๆเพื่อสนับสนุนให้เกิดการใช้จ่ายมาดูแลเพื่อให้ระบบเศรษฐกิจกลับมาเติบโตอย่างเต็มตามศักยภาพหรือให้สามารถเดินหน้าต่อไปได้

“หลายคนพูดว่าเศรษฐกิจไทยปีนี้เผาหลอก ปีหน้าเผาจริง ผมไม่เชื่อ เศรษฐกิจไทยยังไม่ใกล้เมรุ ไม่เฉียดด้วย เพียงแต่ต้องสร้างความเชื่อมั่นให้เกิดขึ้น” นายอุตตม กล่าวพร้อมระบุว่า รัฐบาลยังได้เร่งรัดให้รัฐวิสาหกิจกว่า 50 แห่ง เดินหน้าการลงทุนให้ได้ภายในไตรมาส 4/2562 เพื่อให้เม็ดเงินลงทุนกว่า  1 แสนล้านบาทเข้าสู่ระบบให้มากที่สุดซึ่งจะช่วยให้เศรษฐกิจเกิดการหมุนเวียนและขับเคลื่อนไปข้างหน้าในปีนี้ได้

ส่วนมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ที่ออกมานั้น ถือเป็นอีกหนึ่งแนวทางในการดูแลเศรษฐกิจ และจากข้อมูลนั้นพบว่าตลาดผู้บริโภคยังมีความต้องการที่อยู่อาศัยเป็นจำนวนมาก แต่ก็ยังไม่กล้าตัดสินใจ การที่รัฐบาลออกมาตรการมาช่วยเสริมนี้จะเป็นประโยชน์ซึ่งนอกจากจะสนับสนุนให้ประชาชนมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง ซึ่งเป็นปัจจัยพื้นฐานและเป็นตัวชี้วัดหนึ่งแล้ว ยังส่งผลดีกับธุรกิจทั้งระบบเพราะธุรกิจอสังหาฯนั้นมีการเชื่อมโยงหรือเกี่ยวเนื่องกับหลายอุตสาหกรรมหรือหลายภาคธุรกิจ

สำหรับในปี 2563 นายอุตตม เชื่อว่าเศรษฐกิจไทยจะเติบโตได้ดีกว่า 2562  โดยรัฐบาลจะมีการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และหากมีความจำเป็น หรือเห็นว่ามีความเหมาะสม รัฐบาลก็พร้อมที่จะพิจารณาออกชุดมาตรการเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมอีก เพื่อดูแลเศรษฐกิจและในภาวะแบบนี้เราต้องกล้าสร้างความเชื่อมั่นให้เกิดขึ้นภายในประเทศ ประเทศอื่นๆเศรษฐกิจติดลบแล้ว ซึ่งปัจจัยลบต่างๆที่เกิดขึ้นภายนอกประเทศนั้นเราไม่สามารถควบคุมได้ การมีชุดมาตรการกระตุ้นจำเป็นต้องมี รวมถึงการสร้างความเชื่อมั่น ว่า“เรามีอนาคต อย่าหดหู่” การสร้างความเชื่อมั่นนั้น ทุกภาคส่วนต้องช่วยกัน ทำฝ่ายเดียวหรือฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่ได้

 

 

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*