สมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชูปถัมภ์ จัดงาน ASA Real Estate Forum 2019 (อาษา เรียลเอสเตท ฟอรัม 2019) ชวนทุกภาคส่วนร่วมวางรากฐานสร้างเมืองอัจฉริยะเมืองนวัตกรรม ชูการสร้างเอกลักษณ์เมือง (City Identity) เน้นความต่างเป็นจุดขายเพื่อพัฒนาเมืองแห่งอนาคตที่ยั่งยืน
 
นายอัชชพล ดุสิตนานนท์ นายกสมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชูปถัมภ์ หรือ ASA  เปิดเผยว่า ในการสร้างเมืองอัจฉริยะและเมืองนวัตกรรมมีจุดมุ่งหมายเพื่อยกระดับคุณภาพของประชาชนอย่างตรงจุด โดยการนำเทคโนโลยีเข้าไปปรับใช้ พร้อมกับการออกแบบโครงสร้างอาคาร ที่อยู่อาศัยให้เกิดประโยชน์การใช้สอยอย่างเต็มประสิทธิภาพ และตอบสนองความต้องการของประชาชนในแต่ละพื้นที่ เนื่องจากในแต่ละพื้นที่ มีอาชีพและวิถีชีวิตที่ต่างกัน ในการพัฒนาเมืองอัจฉริยะและเมืองนวัตกรรม จึงต้องสร้างเมืองที่มีความโดดเด่นเฉพาะตัว (City Identity) กำหนดทิศทางที่ชัดเจนและสอดรับกับความต้องการในพื้นที่ ซึ่งที่ผ่านมาภาครัฐได้มีการวางองค์ประกอบของเมืองอัจฉริยะใน 7 ด้าน ที่ช่วยให้แต่ละพื้นที่ มีทิศทางการพัฒนาที่ชัดเจนยิ่งขึ้น ประกอบด้วย

1.Smart Environment สิ่งแวดล้อมอัจฉริยะ

2.Smart Government การปกครองอัจฉริยะ

3.Smart Mobility การสัญจรอัจฉริยะ

4.Smart Energy พลังงานอัจฉริยะ

5.Smart Economy เศรษฐกิจอัจฉริยะ

6.Smart Living การใช้ชีวิตอัจฉริยะ

7.Smart People ประชาชนอัจฉริยะ

เมืองอัจฉริยะและเมืองนวัตกรรมจะเป็นส่วนสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจมหภาค โดยที่ผ่านมาภาครัฐก็ได้มีการกำหนดให้มีการพัฒนาเมืองอัจฉริยะระยะแรก ในพื้นที่เขตโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor : EEC) กรุงเทพฯ เชียงใหม่ ขอนแก่น ภูเก็ต และจะขยายสู่ 100 เมืองใน 77 จังหวัดทั่วประเทศภายในปี 2565 ซึ่งโครงการ EEC นั้นก็ถือเป็นต้นแบบของการพัฒนาเมืองควบคู่กับการพัฒนาเศรษฐกิจ โดยกำหนดพื้นที่ 3 จังหวัด คือ ชลบุรี ระยอง และฉะเชิงเทรา เพื่อสร้างการขับเคลื่อนเศรษฐกิจอย่างเป็นระบบ ด้วยการใช้ City Identity ค้นหาและสร้างจุดเด่นที่แตกต่างกันของแต่ละพื้นที่ อาทิ

จังหวัดชลบุรี ได้มีการดำเนินการให้เป็นเมืองอัจฉริยะ ในพื้นที่ แหลมฉบัง วางแผนพัฒนาในด้าน Smart Living การใช้ชีวิตอัจฉริยะในด้านความปลอดภัย ด้วยระบบวิเคราะห์ตรวจจับใบหน้าอัจฉริยะ คัดกรองอาชญากร ซึ่งเป็นการพัฒนาที่สอดสล้องกับการเป็นเมืองท่องเที่ยว ทำให้การท่องเที่ยวในพื้นที่มีความปลอดภัยน่าอยู่อาศัยน่าเที่ยว ส่งเสริมเศรษฐกิจในพื้นที่ให้มีความคึกคักเพิ่มขึ้น ด้วยความร่วมมือจากทั้งภาครัฐและเอกชนในการลงทุนด้านเทคโนโลยีความปลอดภัย

ส่วนในพื้นที่เมืองบางแสน มีการพัฒนาในด้านของ  Smart Living การใช้ชีวิตอัจฉริยะที่รองรับผู้สูงอายุ เน้นเรื่องบริการสุขภาพ เพื่อดึงดูดการท่องเที่ยวผู้สูงอายุและชาวต่างชาติมาพักผ่อนระยะยาวในประเทศไทย เทศบาลเมืองบางแสนจึงได้มีการพัฒนาวางระบบติดตามตัว เพื่อสร้างความมั่นใจแก่ผู้สูงอายุต่างชาติให้เข้ามาพำนักระยะยาวในไทย ถือเป็นโมเดลในการพัฒนาเมืองอัจฉริยะและเมืองนวัตกรรมที่จะเป็นต้นแบบให้แก่เมืองอื่นๆ ในประเทศไทยได้ค้นหาและพัฒนาเมืองสู่การเป็นเมืองอัจฉริยะและเมืองนวัตกรรมที่มีเอกลักษณ์เฉพาะเป็นของตนเอง

ดังนั้นการออกแบบเมืองอัจฉริยะและเมืองนวัตกรรม จะต้องสอดคล้องกับจุดเด่น และสามารถแก้ไขจุดด้อยในแต่ละพื้นที่ได้ โดยอาศัยทุกภาคส่วนในการร่วมหารือและร่วมมือพัฒนาเมืองไปในทิศทางเดียวกันเพื่อการพัฒนาเมืองได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ด้วยเหตุนี้สมาคมสถาปนิกสยามฯ จึงขอเป็นส่วนหนึ่งในการมีส่วนร่วมสร้างเมืองอัจฉริยะและเมืองนวัตกรรม ผ่านการจัดงาน ASA Real Estate Forum 2019 (อาษา เรียลเอสเตท ฟอรัม 2019) ครั้งที่ 2 ภายใต้แนวคิด Smart & Innovative Cities for all” ประสานทุกภาคส่วนร่วมถกปัญหาและสร้างแนวทางสู่การเป็นเมืองอัจฉริยะและเมืองนวัตกรรม ถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์ผ่านงานสัมมนา จากองค์กรต่างๆ และผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาเมืองอัจฉริยะและเมืองนวัตกรรม เพื่อเป็นการพัฒนาองค์ความรู้ให้แก่ผู้ที่ทำงานในวิชาชีพสถาปนิก สร้างกำลังสำคัญในการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ

และเพื่อเป็นการพัฒนาองค์ความรู้ให้แก่ผู้ที่ทำงานในวิชาชีพสถาปนิก สร้างกำลังสำคัญในการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ ยังได้มีการมอบรางวัล ASA Real Estate Awards 2019 รางวัลแห่งเกียรติยศและคุณค่า เชิดชูบุคคลคุณภาพของอสังหาริมทรัพย์แห่งปี โดยมอบรางวัลให้แก่โครงการอสังหาริมทรัพย์ที่มีคุณค่าและรางวัลประกาศเกียรติคุณโดดเด่น เป็นการคัดเลือกผลงานโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่มีคุณภาพดีเยี่ยม ส่งเสริมให้เกิดความรู้ ความเข้าใจในด้านคุณค่า และประโยชน์ของงานออกแบบโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ มีคุณภาพดีต่อการพัฒนาความเป็นอยู่ของประชาชน

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*