“เมทริส พัฒนาการ – เอกมัย”โอเอชิสโซนใหม่ ผสานไลฟ์สไตล์คนเมืองในดีไซน์ “Mid-Century Modern”

 

เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ ปรับตัวตามสภาพเศรษฐกิจและธุรกิจอสังหาฯชะลอตัว ลดเป้ารายได้ปีนี้ลง 20% จากปีก่อนที่มีรายได้ 5,600 ล้านบาท ล่าสุด เตรียมเปิดขาย “เมทริส พัฒนาการ – เอกมัย”คอนโดมิเนียม High Rise 29 ชั้น จำนวน 341 ยูนิต ราคาเริ่ม 2.5 ล้านบาท ระหว่างวันที่ 16-17 พ.ย.นี้

 นางสาวเพชรลดา พูลวรลักษณ์ กรรมการบริหาร บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จํากัด (มหาชน)  เปิดเผยว่า จากสภาพเศรษฐกิจโดยรวมภายในประเทศที่ชะลอตัวนั้นส่งผลกระทบต่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์รวมถึงบริษัทฯด้วยเช่นกันทำให้ต้องปรับตัวตามสถานการณ์ของตลาดด้วยการระมัดระวังเรื่องการลงทุนในโครงการใหม่ มีความยืดหยุ่นในการดำเนินธุรกิจ ในขณะเดียวกันก็ได้ปรับลดเป้ารายได้ทั้งปีลง 20% จากรายได้ปี 2561 ที่ได้ 5,600 ล้านบาท โดยในช่วง 6 เดือนแรกของปี2562 มีรายได้อยู่ที่กว่า 2,500 ล้านบาท

ล่าสุด เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ ได้เปิดตัวโครงการ “เมทริส พัฒนาการ – เอกมัย” ซึ่งเป็นโครงการคอนโดมิเนียมแบบ High Rise ภายใต้แบรนด์ METRIS” ในย่านธุรกิจใหม่ทำเลพัฒนาการ ฝั่งขาเข้าเมือง ตั้งอยู่บนทำเลที่โดดเด่นติดถนนพัฒนาการ ซอย 12 ทำให้สามารถเข้า-ออกเมืองได้ง่ายขึ้น 5 นาทีถึงเอกมัย ใกล้ทางด่วน รามอินทรา – อาจณรงค์ เพียง 100 เมตร ห่าง Airport Link รามคำแหงเพียง 900 เมตร ด้วยมูลค่าโครงการกว่า 1,350 ล้านบาท จำนวน 341 ยูนิต เน้นพื้นที่ใช้สอย พร้อมพื้นที่ส่วนกลางหลากหลายและสามารถเลี้ยงสัตว์ได้ในราคาเริ่มต้น 2.5 ล้านบาท

โครงการเมทริส พัฒนาการ – เอกมัย ยึดแนวคิดเพื่อตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ด้วยดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ ภายใต้คอนเซปต์ Mid-Century Modern” ผสมผสานความคลาสสิคและความทันสมัยเข้าด้วยกัน เพื่อให้เข้ากับทุกยุคสมัยอยู่เสมอ รวมถึงใช้โทนสีเหลือง มัสตาร์ด ทำให้ตัวโครงการมีจุดเด่นและน่าสนใจมากยิ่งขึ้น บนพื้นที่ใช้สอยในโครงการขนาด 2-4-65 ไร่ ทำให้โครงการมีพื้นที่สวนขนาดใหญ่ เหมาะกับการพักผ่อน และหายใจรับอากาศดีๆ ให้เต็มปอด

นอกจากนี้ยังแวดล้อมไปด้วยแหล่งไลฟ์สไตล์ที่เต็มไปด้วยร้านแฮงค์เอาท์สำหรับช้อป ชิม ชิลล์ ในช่วงวันหยุด หรือวันทำงาน ใกล้ห้างสรรพสินค้า คอมมูนิตี้มอลล์มากมาย อาทิ เดอะ ไนน์ พระราม 9, เดอะมอลล์ รามคำแหง, ฟู้ดแลนด์ และเทสโก้โลตัส อีกทั้งยังสามารถเข้าถึงโรงพยาบาลได้อย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นโรงพยาบาลเพชรเวช, โรงพยาบาลกรุงเทพ และใกล้สถานศึกษา อาทิ โรงเรียนเอกมัยอินเตอร์ หรือโรงเรียนนานาชาติเซนต์แอนดรูว์ส

สำหรับรายละเอียดโครงการเป็นคอนโดมิเนียม High Rise 29 ชั้น 1 อาคาร จำนวน 341 ยูนิต มีแบบห้อง 2 แบบ ได้แก่ ขนาด 1 ห้องนอน พื้นที่ 30-31.5 ตร.ม. จำนวน 250 ยูนิต และขนาด 2 ห้องนอน พื้นที่ 53.5-62 ตร.ม. จำนวน 91 ยูนิต แต่ละห้องเพดานสูงถึง 2.60 เมตร ให้ความรู้สึกโล่งโปร่งสบาย และตามมาด้วยความเป็นส่วนตัวสูงสุดในจำนวนยูนิตเพียง 15 ยูนิตต่อชั้น พร้อมเทคโนโลยีสาย Neutron ทุกยูนิต เพื่อรองรับระบบ Home Automation ด้วยราคาเริ่มต้น 2.5 ล้านบาท หรือเฉลี่ย 83,000 บาท/ตร.ม.

สำหรับพื้นที่ใช้สอยส่วนกลางออกแบบไว้อย่างทันสมัย พร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกแบบ super facilities ไม่ว่าจะเป็น ฟิตเนส สระว่ายน้ำ สวนหย่อมรอบโครงการ ห้อง Co-working Space / Meeting Room ได้ฟิลเหมือนอยู่บ้านจริง ๆ ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ยิ่งขึ้น ปัจจุบันอยู่ระหว่างการก่อสร้างโครงการ คาดว่าจะแล้วเสร็จปี 2564

นางสาวเพชรลดา กล่าวเสริมว่า เมเจอร์ฯ รุกขยายตลาดผ่านโซเชียลคอมเมิร์ซ โดยนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในการทำ Marketing เพื่อสร้างประสบการณ์การซื้อที่อยู่อาศัยได้ง่ายขึ้นด้วยการทำ Online Booking สำหรับ โครงการ Matris พัฒนาการ- เอกมัย ผ่านฟีเจอร์ Messenger Chatbot ที่ทำให้การซื้อคอนโคฯ เป็นเรื่องง่าย ครบ จบ ในที่เดียว สร้าง Customer Experience ที่เหนือกว่าใคร รวมทั้งที่ผ่านมาทางบริษัทฯ ได้เปิดรอบโควตาสำหรับชาวต่างชาติ และรอบ VVIP โดยได้รับกระแสตอบรับค่อนข้างดี ลูกค้าลงทะเบียนจองกว่า 40 ยูนิต สะท้อนว่ามีนักลงทุนให้ความสนใจในทำเลพัฒนาการเป็นจำนวนมาก

ทั้งนี้บริษัทฯ ได้เตรียมจัดงานขาย (Pre-Sale ) ในวันที่ 16-17 พ.ย.นี้ ซึ่งจะได้พบกับปรากฏการณ์เอาใจชาว มิลเลนเนียลด้วย “โชว์เคสเพ้นท์กราฟฟิตี้ จาก อเล็ก เฟส (Alex Face)” ที่มาเล่าเรื่องราวผ่านลวดลายสตรีทอาร์ตสนุกๆ  ในคาแรคเตอร์ของน้องมาร์ดี (Mardi) บริเวณหน้า Sale Gallery  และยังได้ลิ้มรสความอร่อยของร้านอาหาร Food Truck ชื่อดังที่มาเสิร์ฟเมนูเด็ดให้ลอง พร้อมร่วมลุ้นรับโชคกับโปรโมชั่นสุดโดน รางวัลสุดพิเศษมากมาย อาทิ iPhone 11 Pro วันละ 2 เครื่อง, ที่พัก Centra Maris Resort Jomtien จำนวน 2 คืน,  ทุกยูนิตที่จองในงานรับติดตั้งระบบ Home Automation สั่งงานพร้อมควบคุมอุปกรณ์ภายในห้องอย่างอัจฉริยะ และยังสามารถแลกซื้อชุดเฟอร์นิเจอร์ครบเซตในราคาพิเศษอีกด้วย

สำหรับปี 2563 บริษัทฯได้เตรียมลงทุนโครงการใหม่ประมาณ 3-5 โครงการ มีทั้งแนวสูงและแนวราบมูลค่ารวมกว่า 10,000-15,000 ล้านบาท ปัจจุบันมียอดขายรอโอนกว่า 10,000  ล้านบาท รองรับรายได้ 2-3 ปี

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*