โจนส์ แลง ลาซาลล์ฯนำโครงการ “อีเด็น” ของกลุ่ม Immobel  เปิดตัวในไทย หวังดึงดูดนักลงทุนซื้อที่อยู่อาศัยหรูในเยอรมนี ระบุห้องแบบสตูดิโอนและ1 ห้องนอน ได้รับความนิยมสุด ผลตอบแทนการลงทุนอยู่ระหว่าง 3-4% ต่อปี เผยราคาที่พักอาศัยในแฟรงก์เฟิร์ตปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง ซัพพลายยังไม่เพียงพอดีมานด์ มั่นใจนักลงทุนไทยให้การตอบรับดี
นางสาวณปภัช วานิชรัตน์ ผู้อำนวยการฝ่ายขายที่พักอาศัยต่างประเทศ บริษัท โจนส์ แลง ลาซาลล์ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ JLL เปิดเผยว่า โดยทั่วไป ชาวไทยส่วนใหญ่ที่มองหาโอกาสการลงทุนซื้อที่พักอาศัยในต่างประเทศ มักนึกถึงอังกฤษ อเมริกา และญี่ปุ่นเป็นอันดับแรกๆ เนื่องจากเป็นตลาดที่ค่อนข้างเป็นที่คุ้นเคยมากกว่าประเทศอื่นๆ ดังนั้นการที่บริษัทฯนำโครงการอีเด็นเข้ามาเปิดตัวครั้งนี้ จะทำให้นักลงทุนชาวไทยได้เห็นถึงศักยภาพสูงของตลาดที่พักอาศัยในแฟรงก์เฟิร์ตของเยอรมนี และเป็นหนึ่งในตลาดการลงทุนที่มีความเสี่ยงต่ำที่สุดในโลก

 

“อีเด็น” เป็นหนึ่งในโครงการคอนโดมิเนียมที่มีการกล่าวถึงมากที่สุดในแฟรงก์เฟิร์ต จากการตั้งอยู่ในทำเลที่ดีในใจกลางเมือง รายล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายและมีรูปแบบสถาปัตยกรรมที่แปลกตา ผู้พัฒนาโครงการคือ Immobel หนึ่งในบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่เติบโตอย่างรวดเร็วที่สุดของยุโรป โดยโครงการอีเด็นเป็นโครงการแรกที่ Immobel ขยายธุรกิจเข้ามาพัฒนาโครงการในเยอรมนี ซึ่งเป็นประเทศที่มีความมั่นคงและขนาดของเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในยุโรป มีสัดส่วนจีดีพีคิดเป็น 20% ของจีดีพีของทั้งอียู

โครงการ “อีเด็น”ประกอบด้วยอาคารความสูง 27 ชั้น รวมทั้งสิ้น 263 ยูนิต ขนาดพื้นที่ใช้สอยอยู่ระหว่าง 30-194 ตารางเมตร ราคาเสนอขายต่อยูนิตอยู่ระหว่าง 358,200 ยูโร หรือประมาณ 12 ล้านบาท ไปจนถึง 3.13 ล้านยูโร หรือประมาณ 105.3 ล้านบาท กำหนดจะก่อสร้างเสร็จในปี 2563

นางสาวณปภัช กล่าวว่า ผู้ซื้อในตลาดที่พักอาศัยของแฟรงก์เฟิร์ต ประกอบด้วย ทั้งชาวเยอรมนี และชาวต่างชาติ ไม่ว่าจะเป็นการซื้อเพื่ออยู่เอง หรือเพื่อลงทุน โดยยูนิตที่นักลงทุนนิยมซื้อมากที่สุด เป็นห้องชุดสตูดิโอ และยูนิตขนาด 1 ห้องนอน ซึ่งเป็นที่ต้องการมากที่สุดในหมู่ผู้เช่าที่พักอาศัยในย่านธุรกิจของแฟรงก์เฟิร์ตขณะนี้

 

“สำหรับผู้ที่ซื้อยูนิตในโครงการอีเด็นเพื่อปล่อยเช่า จะสามารถได้รับผลตอบแทนการลงทุนอยู่ระหว่าง 3-4% ต่อปี อย่างไรก็ดี นักลงทุนส่วนใหญ่คาดหวังถึงกำไรจากราคาที่จะปรับสูงขึ้นในระยะยาวมากกว่า” นางสาวณปภัช กล่าว

ผลการศึกษาของ JLL แสดงให้เห็นว่า ราคาที่พักอาศัยในแฟรงก์เฟิร์ตปรับตัวสูงขึ้นในตลอดทศวรรษที่ผ่านมาและมีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นต่อไปอีก เนื่องจากที่พักอาศัยที่มีอยู่ไม่เพียงพอรองรับความต้องการของประชากรในเมือง โดยในปัจจุบัน มีผู้อยู่อาศัยในแฟรงก์เฟิร์ตรวมทั้งสิ้นราว 736,000 คน และยังมีที่พักอาศัยที่ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการอีกรวมประมาณ 50,000 ยูนิต ส่วนที่พักอาศัยที่มีให้เช่าอยู่ในขณะนี้มีอัตราว่างเพียง 1.5%

“จากสถานการณ์ความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้นทั่วโลก ประกอบกับการลงทุนซื้อคอนโดในกรุงเทพฯ มีความท้าทายมากขึ้นมาก และเงินบาทแข็งค่าในขณะนี้ เชื่อว่า โครงการอีเด็นจะได้รับการตอบรับที่ดีจากชาวไทยที่กำลังมองหาโอกาสการลงทุนในตลาดที่มีความผันผวนต่ำของแฟรงก์เฟิร์ต เมืองศูนย์กลางทางการเงินที่สำคัญที่สุดของเยอรมันนีและยุโรป” นางสาวณปภัช กล่าวในที่สุด

 

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*