“อนันดา” เปิดตัว 4 โครงการใหม่ มูลค่ารวมกว่า 13,000 ล้านบาท

เตรียมเขย่าแผนใหม่รอบ 2 ปรับลดยอดขาย-รายได้ตามสถานการณ์

 

 “อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์”  หรือ ANAN เป็นอีกหนึ่งผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ที่มีการปรับตัวให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบันที่ได้รับรับผลกระทบทั้งที่เกิดจากภายในประเทศและต่างประเทศ ที่ล่าสุด อนันดาฯ ได้ปรับลดเป้าหมายการเปิดตัวโครงการใหม่จาก 10 โครงการที่ประกาศไว้เมื่อช่วงต้นปี 2562 เหลือเป็น 6 -7 โครงการ และในช่วงไตรมาส 4 ปีนี้ เตรียมเปิดตัว 4 โครงการใหม่ ทำเล พร้อมพงษ์ / พระโขนง / จุฬา-สามย่าน และ จรัญสนิทวงศ์  พร้อมเผยแนวคิด ANANDA URBAN WELLNESS ในราคาที่คุ้มค่าและดีที่สุด มูลค่ารวมกว่า 13,000 ล้านบาท เริ่ม 1.59 – 5.73 ล้านบาท หรือคิดเป็นราคาขายต่อตารางเมตรอยู่ที่  62,000 – 149,000 บาทต่อ ตารางเมตร (ตร.ม.) ส่วนที่เหลืออีก 3 โครงการจะเปิดในช่วงต้นปี 2563

โครงการที่เปิดใหม่ ยังเน้นการพัฒนาที่อยู่อาศัยที่มีคุณภาพบนทำเลศักยภาพสูงติดรถไฟฟ้า ซึ่งยังมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่องจาก 109 สู่ 319 สถานีในอนาคต สามารถตอบสนองความต้องการของคนเมืองยุคใหม่ที่ต้องการความสะดวกสบายพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน

นายชานนท์ เรืองกฤตยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ ANAN เปิดเผยว่า ทั้ง 4 โครงการ มั่นใจว่าสามารถจะสร้างยอดขายรวมในช่วงเปิดตัวโครงการได้กว่า 40 % หรือได้กว่า 5,200 ล้านบาท  ได้แก่ 1. โครงการ ไอดีโอ จุฬา-สามย่าน (IDEO CHULA – SAMYAN) โครงการคอนโดมิเนียม High Rise สูง 34 และ 35 ชั้น จำนวน 773 ยูนิต  มูลค่าโครงการ 4,846 ล้านบาท ราคาเริ่มต้น 3.59 ล้านบาท   กำหนด Pre sales วันที่ 9-10 พ.ย. 2562 นี้ ที่ Sales Gallery   เริ่มก่อสร้าง ปี 2563 คาดก่อสร้างแล้วเสร็จปี 2565

2.โครงการ ไอดีโอ สุขุมวิท – พระราม 4 (IDEO SUKHUMVIT – RAMA 4) โครงการคอนโดมิเนียม High Rise สูง 32 ชั้น จำนวน 642 ยูนิต มูลค่าโครงการ 4,087 ล้านบาท ราคาเริ่มต้น 3.59 ล้านบาท ใกล้ BTS พระโขนง เพียง 350 เมตร ห้องพักเพดานสูง 2.9 เมตร Courtyard สูง 6 ชั้น พื้นที่สีเขียวกว่า 2,500 ตร.ม. พร้อม Lobby ลอยฟ้าที่ชั้น 6 และเป็นคอนโดมิเนียมที่สามารถรองรับไลฟ์สไตล์ได้ทั้ง 3 Gen กำหนด Pre sales วันที่ 16-17 พ.ย. 2562 นี้ ที่ Sales Gallery เริ่มก่อสร้าง ปี 2563 คาดก่อสร้างแล้วเสร็จปี 2565

3.โครงการ ไอดีโอ จรัญฯ 70 – ริเวอร์วิว (IDEO CHARAN 70 – RIVERVIEW) โครงการคอนโดมิเนียม High Rise สูง 38 ชั้น จำนวน 1,421 ยูนิต มูลค่าโครงการ 3,500 ล้านบาท ราคาเริ่มต้น 1.59 ล้าน เพียง 295 เมตร จาก MRT สถานีบางพลัด วิวแม่น้ำทุกยูนิต (ตั้งแต่ชั้น 10) และพื้นที่ส่วนกลางชั้นบนสุดวิวแม่น้ำ พร้อมห้อง HYBRID (เพดานสูง 4.5 เมตร) เปิดจองผ่าน Online Booking วันที่ 5 พ.ย. นี้ และเปิดจองที่ Sales Gallery วันที่ 16-17 พ.ย.นี้

4.โครงการ คิว ประสานมิตร (Q PRASARNMIT) โครงการคอนโดมิเนียม Low Rise สูง 7 ชั้น จำนวน 76 ยูนิต มูลค่าโครงการ 712 ล้านบาท ราคาเริ่มต้น 149,000 บาทต่อตร.ม. ใกล้มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร เพียง 120 เมตร ให้ความรู้สึกเป็นส่วนตัวสูง ด้วยจำนวนยูนิตน้อย  สร้างเสร็จก่อนขาย พร้อมเข้าอยู่ สามารถชมห้องจริง บรรยากาศจริง พบกันที่งาน VIP Date วันที่ 8-10 พ.ย. นี้ ที่ Sales Gallery

“อนันดา เรามีกระแสเงินสดกว่า 15,000 ล้านบาท อยู่ชิลล์ๆก็ได้” นายชานนท์ กล่าวพร้อมกับระบุว่า บริษัทฯได้เตรียมความพร้อมและความยืดหยุ่นในการปรับตัวให้สอดคล้องกับสถานการณ์ต่างๆได้อย่างเหมาะสม

จ่อปรับลดเป้ายอดขายและรายได้ทั้งปี

นายคมสัน อัตถพลพิทักษ์ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ กล่าวว่า โครงการใหม่ที่เปิดขายจะช่วยหนุนยอดขายให้ปรับตัวสูงขึ้นได้ และเพื่อให้สอดรับกับการปรับแผนการเปิดโครงการที่ลดลงและสถานการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้น โดยในเดือนพ.ย.นี้บริษัทฯจะลดเป้ายอดขายและยอดรับรู้รายได้ใหม่อีกครั้งเป็นรอบที่ 2 ในปีนี้ ส่วนจะปรับลดลงนั้นจะมาก-น้อยแค่ไหนอย่างไรนั้นไม่สามารถระบุได้ในตอนนี้

ทั้งนี้ เมื่อกลางปี 2562  ที่ผ่านมาบริษัทฯได้ปรับลดเป้ายอดขายจากเดิม 33,000 ล้านบาท ปรับเป็น 28,000 ล้านบาท ส่วนเป้ายอดรายได้ จากยอดโอนเดิม 36,000  ล้านบาท ปรับเป็น 29,000 ล้านบาท

ปัจจุบัน บริษัทฯมียอดขายรอโอน (Backlog) ราว 33,200 ล้านบาท โดยในปีนี้จะรับรู้ยอดโอนจาก Backlog ดังกล่าวราว 12,240 ล้านบาท และในปี 63 จะรับรู้รายได้ราวๆ 16,219 ล้านบาท และในปีถัดไปจะรับรู้รายได้ ราว 4,734 ล้านบาท และมีสินค้าพร้อมขาย(พร้อมโอน)คิดเป็นมูลค่า 15,000 ล้านบาท

ทั้งนี้ สำหรับแนวคิด ANANDA URBAN WELLNESS เป็นแนวคิดในการพัฒนาคุณภาพชีวิตที่พัฒนาขึ้นมาจากความตั้งใจ ที่ไม่เพียงมุ่งพัฒนาแค่ที่อยู่อาศัย โดยมุ่งหวังเพื่อยกระดับคุณภาพการอยู่อาศัยของชีวิตคนเมือง และคุณภาพชีวิตที่ยั่งยืน สร้างชีวิตที่ดีให้กับคนเมือง และยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม  ซึ่งประกอบไปด้วย 3 แนวคิดหลัก  ดังนี้ คือ

1.Active Well Being : การออกแบบที่สร้างสภาพแวดล้อมที่เป็นมิตรกับผู้อยู่อาศัย พร้อมทั้งให้ความสำคัญกับการออกแบบสำหรับผู้อยู่อาศัยทุกวัยและรวมถึงผู้พิการ ไม่ว่าจะเป็นการใช้พื้นที่ส่วนกลางหรือการเข้าถึงสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ( Universal Design )

2.Sustainability Design with Zero Pollution : การออกแบบด้วยแนวคิดแบบ Passive design ที่ประหยัดทั้งพลังงานและยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

3.Tech Smart Living Solutions : นวัตกรรมการออกแบบโดยใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยี

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*