กลุ่มธุรกิจพฤกษา ฯ-แวลู ลุยตลาดบ้านกรุงเทพฯโซนตะวันออกคิดเป็นสัดส่วน 40 % ของพอร์ตรายได้และยอดขายทั้งหมด ตุนที่ดินในมือกว่า 400 ไร่เกาะแนวถนนวงแหวน หวังบุกตลาดบ้านทุกระดับราคา เจาะกลุ่มเป้าหมายทุกเซ็กเมนต์ ล่าสุดเปิดตลาดไฮเอนด์แนวราบ แบรนด์ “เดอะปาล์ม” บ้านเดี่ยวลักซ์ชัวรี่ ระดับราคา10-20 ล้านบาท

 

นายปิยะ ประยงค์  ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจพฤกษา เรียลเอสเตท – แวลู บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ PS เปิดเผยว่า เพื่อปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์เศรษฐกิจและตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่ในภาวะชะลอตัวกลุ่มธุรกิจพฤกษา เรียลเอสเตท – แวลู ได้ปรับลดจำนวนการเปิดตัวโครงการใหม่ในปีนี้ลง 30-40% เหลือ 15 โครงการจากกว่า 20 โครงการที่ประกาศไว้ในช่วงต้นปี 2562 และโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่เปิดจะเน้นทำเลที่มีศักยภาพและความต้องการของตลาดที่สูง กลุ่มลูกค้ามีความเสี่ยงต่ำ โดยเฉพาะกรุงเทพฯโซนตะวันออกที่ปัจจุบันคิดเป็นสัดส่วน 40 % พอร์ตยอดขายหรือรายได้ต่อปีบริษัทฯ ซึ่งในปีนี้คาดว่าจะมีไม่น้อยกว่า 15,000 ล้านบาท

นายปิยะ ประยงค์ 

ทั้งนี้ ในย่านกรุงเทพฯโซนตะวันออกนอกจากจะมีโครงการที่กระจายในพื้นที่แล้วมีขนาดที่ดินที่พัฒนา 20-30 ไร่แล้ว บริษัทฯยังมีที่ดินแปลงใหญ่ที่เกาะแนวถนนวงแหวนอยู่ 2 แปลงรวมกว่า 400 ไร่ คือ แปลงกว่า 100 ไร่ที่อยู่ใกล้กับถนน ศรีนครินทร์-ร่มเกล้า (กรุงเทพกรีฑาตัดใหม่) และอีกแปลงเนื้อที่กว่า 300 ไร่อยู่ใกล้ๆกับนิคมอุตสาหกรรม อัญธานี เจโมโปลิส ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาในการพัฒนา 7 ปีมีที่อยู่อาศัยครบทุกเซกเม้นต์ ทุกแบรนด์ของสินค้าแนวราบ ตั้งแต่ 3 ล้านบาทขึ้นไปเมื่อพัฒนาเสร็จสมบูรณ์จะมีมูลค่าไม่น้อยกว่า 10,000 ล้านบาท

ส่วนที่ดินแปลงกว่า 100 ไร่อยู่ใกล้กับถนน ศรีนครินทร์-ร่มเกล้า (กรุงเทพกรีฑาตัดใหม่)นั้นใช้เวลาในการพัฒนา 4 ปีรวมมูลค่าโครงการกว่า 4,000 ล้านบาท ล่าสุดบริษัทฯ เปิดตัวโครงการ “เดอะปาล์ม กรุงเทพกรีฑา-วงแหวน” บ้านเดี่ยวหรูระดับลักซ์ชัวรี่ มูลค่าโครงการ 1,400 ล้านบาท  โดยแบรนด์ “เดอะปาล์ม” อยู่ในเซ็กเมนต์ 10-20 ล้านบาท พัฒนาเพื่อรองรับกลุ่มผู้บริหารและนักธุรกิจรุ่นใหม่ระดับรายได้ประมาณ 100,000 บาท(+,-) โดยก่อนหน้านี้ได้เปิดขายโครงการเดอะปาล์ม พัฒนาการ 38 มูลค่า 2,000 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันปิดการขาย 100% แล้ว ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างมากในการรุกตลาดไฮเอนด์แนวราบ  โดยปัจจุบันพฤกษาเป็นเจ้าตลาดบ้านเดี่ยวในระดับ 3-5 ล้านบาท ภายใต้แบรนด์เดอะแพลนท์ และระดับราคา 5-10 ล้านบาท ภายใต้แบรนด์ภัสสร

ทั้งนี้เพื่อให้ Portfolio ของบ้านเดี่ยวพฤกษาแข็งแรงขึ้น จึงขยายฐานลูกค้าไปยังระดับบน โดยแบรนด์ “เดอะปาล์ม” จะเป็นกุญแจสำคัญที่จะช่วยผลักดันให้พฤกษาครองตลาดบ้านเดี่ยวได้อย่างต่อเนื่อง ในอนาคตตั้งเป้าติด Top 3 บ้านเดี่ยวระดับบน สำหรับจุดเด่นของโครงการเดอะปาล์ม กรุงเทพกรีฑา-วงแหวนคือ การเลือกใช้วัสดุตกแต่งระดับ World Class  พื้นที่ใช้สอยกว้างขวางโอ่อ่า สะดวกสบาย ตอบสนองการใช้ชีวิตแบบลักซ์ซัวรี่  ท่ามกลางสังคมเอ็กคลูซีฟส่วนตัวเพียง 91 ครอบครัว  อยู่บนทำเลที่เชื่อมต่อเข้าเมืองได้สะดวก โดยเปิดให้ชมโครงการแล้ววันนี้ พิเศษสุดเปิดจอง Exclusive Zone ราคาเริ่มต้น 10.5 ล้านบาท

นอกจากนี้ยังมีแผนจะเปิดเดอะปาล์มโครงการใหม่เพิ่มอีก 2 โครงการ คือ เดอะปาล์ม ชัยพฤกษ์ – แจ้งวัฒนะ มูลค่า 1,680 ล้านบาท และ The Palm บางนา-วงแหวน มูลค่าโครงการ 1,370 ล้านบาท

นายนิมิตร พูลสวัสดิ์ (คนแรกซ้ายมือ)

ด้านนายนิมิตร พูลสวัสดิ์ กรรมการผู้จัดการ กลุ่มธุรกิจบ้านเดี่ยว บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า โครงการ “เดอะปาล์ม กรุงเทพกรีฑา-วงแหวน” เป็นบ้านเดี่ยวระดับลักซ์ชัวรี่โครงการใหม่ของพฤกษาที่เกิดจากความละเมียดพิถีพิถันทุกรายละเอียดของบ้าน ออกแบบภายใต้แนวคิด A Refined Living in Perfection งามสง่าทุกองศา สัมผัสรายละเอียดเลอค่าของการใช้ชีวิต”  มีจำนวน 91 ยูนิต มีแบบบ้านให้เลือกทั้งหมด 3 แบบพร้อมห้องสำหรับแม่บ้าน ได้แก่

  • บ้านแบบ ARECA พื้นที่ใช้สอย 222 ตารางเมตร (ตร.ม.)บนที่ดินเริ่มต้น 66 ตารางวา( ตร.ว.)
  • บ้านแบบ IVISTONA พื้นที่ใช้สอย 253 ตร.ม.บนที่ดินเริ่มต้น 72 ตร.ว.
  • และบ้านแบบ LATANIA พื้นที่ใช้สอย 292 ตร.ม.บนที่ดินเริ่มต้น 80 ตร.ว.

บ้านทุกแบบ ได้ออกแบบมาพร้อมกับนวัตกรรมการอยู่อาศัย Pruksa Living Tech อาทิ ระบบ Smart Living Security ที่ช่วยยกระดับความอุ่นใจให้กับเจ้าของบ้านด้วยเทคโนโลยีระดับมาตรฐานสากล  ใส่ใจสุขภาพของผู้อยู่อาศัยด้วย  “Air Tightness Protection ” ซึ่งเป็นระบบเฟรมอะลูมิเนียมป้องกันฝุ่นละอองจากแบรนด์ TOSTEM ที่เป็นแบรนด์ระดับไฮเอนด์ได้รับรองมาตรฐานอุตสาหกรรม JIS จากประเทศญี่ปุ่น อีกทั้งยังใช้วัสดุตกแต่งระดับ World Class อาทิ พื้นไม้คุณภาพ Hybrid Engineered Floor จากแบรนด์ Quickstep   ผลิตจากประเทศเบลเยี่ยม นอกจากดีไซน์ที่สวยงามมีลวดลายเสมือนไม้จริง สามารถทนรอยขีดข่วนบนพื้นได้มากกว่าพื้นไม้ทั่วไปถึง 10 เท่า และเป็นพื้นกันน้ำง่ายต่อการดูแลรักษาอีก

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*