กลุ่มธุรกิจห้างทอง-โรงแรมขยายไลน์ธุรกิจผุดคอนโดฯ “วันส์ พัทยา” (ONCE PATTAYA) มูลค่ากว่า 2,000 ล้านบาท หวังต่อยอดธุรกิจเดิม เดินหน้างัดแลนด์แบงก์รุกอสังหาฯพื้นที่EEC รองรับการเติบโตต่อเนื่อง ตั้งเป้า 10 เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ปี63-64 จ่อผุดคอนโดฯแบรนด์ “โมชั่น”อีก 2 โครงการ รวมมูลค่า 1,500 ล้านบาท
นางสาวธิดา เชิดสุริยา
นางสาวธิดา เชิดสุริยา ประธานคณะกรรมการบริหาร บริษัท ออเนอร์ เอสเตท จำกัด  ในเครือ ออเนอร์ กรุ๊ป  เปิดเผยว่า จากประสบการณ์ในการดำเนินธุรกิจของครอบครัวที่เริ่มจาก ธุรกิจร้านทอง ห้างทองทองสุกเยาวราช พัทยา กว่า 30 ปี และธุรกิจโรงแรม-รีสอร์ท ระดับ 4 ดาวในพื้นที่พัทยา จำนวน 5 แห่ง จำนวนกว่า 300 ห้องนัก  ที่ดำเนินการมาประมาณ 15 ปี  สร้างรายได้ปีละประมาณกว่า 100 ล้านบาท ทำให้มองว่าเพื่อเป็นการต่อยอดจากธุรกิจโรงแรมที่สร้างรายได้ระยะยาวให้กับครอบครัว และส่วนใหญ่ถึงจุดคุ้มทุนแล้ว จึงต้องการที่จะพัฒนาโครงการที่สามารถเอื้อกับธุรกิจโรงแรมได้ เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคให้ได้มากที่สุด จึงได้แตกไลน์ธุรกิจมาพัฒนาคอนโดมิเนียม ซึ่งเป็นธุรกิจที่สามารถรับรู้รายได้ในระยะสั้น จึงตั้งบริษัท ออเนอร์ วันส์ จำกัด ขึ้นมาด้วยทุนจดทะเบียน 152 ล้านบาท (ชำระแล้วเต็มจำนวน) เพื่อพัฒนาโครงการ “วันส์ พัทยา” (ONCE PATTAYA)

 

โครงการดังกล่าวตั้งอยู่บริเวณถนนเฉลิมพระเกียรติ พัทยา สาย3 บนพื้นที่ 2 ไร่เศษ จากทั้งหมด 4 ไร่ เป็นคอนโดมิเนียม สูง 32 ชั้น 1 อาคาร มีขนาดพื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 28.00-59.80 ตารางเมตร มีให้เลือก 4 รูปแบบ ด้วยการออกแบบฟังก์ชั่นใช้สอยพื้นที่ได้อย่างเต็มที่ รวมถึงพื้นที่ส่วนกลางที่สวยงาม รองรับการอยู่อาศัยทั้งระยะสั้น และระยะยาว ประกอบด้วย

  • ห้องแบบ Studio ขนาด 28.00-28.60 ตารางเมตร
  • ห้องแบบ 1 Bedroom + 1 Bathroom ขนาด 34.00-34.80 ตารางเมตร
  • ห้องแบบ 2 Bedroom + 1 Bathroom ขนาด 51.80 ตารางเมตร
  • ห้องแบบ 2 Bedroom + 2 Bathroom ขนาด 58.50-59.80 ตารางเมตร


ราคาขายเริ่มที่ 2.85-22 ล้านบาท  จำนวน 427 ยูนิต มูลค่าโครงการกว่า 2,000 ล้านบาท
กำหนดเงินดาวน์ 20% สำหรับลูกค้าคนไทย ส่วนลูกค้าชาวต่างชาติกำหนดเงินดาวน์ 50% โดยได้เริ่มพรีเซลไปเมื่อปลายเดือนมีนาคม 2562 ที่ผ่านมา ขณะนี้มียอดขายแล้ว 43% ซึ่งเป็นลูกค้าคนไทยประมาณกว่า 70% และต่างชาติกว่า 20% ส่วนใหญ่เป็นชาวรัสเซีย รองลงมาเป็น เกาหลี,เวียดนาม และไต้หวัน เป็นต้น  คาดว่าจนถึงปลายปี 2562 จะสามารถทำยอดขายได้ประมาณ 80% ด้านการก่อสร้างจะเริ่มดำเนินการได้ในไตรมาสที่ 4/2562 และคาดว่าจะแล้วเสร็จในไตรมาสที่ 2/2565

ที่ตั้งโครงการ ONCE PATTAYA เรียกได้ว่าเป็นทำเลไข่แดงของพัทยา บนถนนเฉลิมพระเกียรติ พัทยาสาย 3 โซนพัทยาเหนือ แวดล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกหลากหลายทั้งในด้านอุปโภคและบริโภค อีกทั้งยังเป็นย่านของนักท่องเที่ยวจากชาวต่างชาติได้แวะเวียนมาเที่ยวอยู่ตลอดเวลาทั้งช่วง High Season และ Low Season โดยโครงการได้รับการดูแลทั้งในเรื่องของการดีไซน์และออกแบบจากสถาปนิกมืออาชีพ เพื่อให้ได้มาตรฐานและสมบูรณ์แบบที่สุด โดยมีกลุ่มลูกค้าเป้าหมายทั้งจากชาวไทยและชาวต่างชาติ ที่ซื้ออยู่อาศัยหรือเป็นบ้านหลังที่สอง รวมทั้งกลุ่มนักลงทุน โดยเฉพาะจากคนไทยที่หันมาลงทุนโครงการคอนโดมิเนียมในพัทยา ซึ่งทางบริษัทฯ ก็พร้อมที่จะรับบริหารปล่อยเช่า สร้างผลตอบแทนจากการลงทุน (Yield) ให้กับลูกค้า โดยทำเลดังกล่าวสามารถปล่อยเช่าได้ประมาณ 15,000 บาท/เดือน  (ห้องแบบสตูดิโอ)

นอกจากนี้ จุดเด่นของพัทยาสาย 3 นั้นในอนาคตเขตทางจะขยายความกว้างเป็น 30 เมตรจากปัจจุบันกว้าง 20 เมตร  เป็นเส้นในข่ายพิจารณา แนวการรถไฟรางเบาชลบุรี-พัทยา ที่จะเชื่อมรถไฟความเร็วสูง ซึ่งที่ตั้งโครงการ ONCE PATTAYA ยังอยู่ใกล้กับสถานีของโครงการรถไฟความเร็วสูง อีกทั้งสามารถเดินทางเข้าออกได้สะดวกเพราะใกล้กับมอเตอร์เวย์  และจากที่ดินกว่า 4 ไร่นั้นบริเวณด้านหน้าโครงการบริษัทฯ ได้ทุ่มงบประมาณ 70 ล้านบาท สำหรับก่อสร้างอาคาร Sale Office ถาวร 5 ชั้น ซึ่งได้ก่อสร้างแล้วเสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

นางสาวธิดา กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันซัพพลายคอนโดฯในทำเลพัทยาเหนือนั้น มีน้อยมาก เพียงประมาณ 2-3 โครงการเท่านั้น ราคาขายอยู่ที่ประมาณ 100,000 กว่าบาท/ตารางเมตร  โดยสาเหตุที่ทำเลดังกล่าวไม่ค่อยมีการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยมากนักเนื่องจากแลนด์ลอร์ดส่วนใหญ่เป็นผู้มีฐานะทางการเงิน จึงไม่ค่อยปล่อยขายที่ดิน โดยในช่วงกว่า 1 ปีที่ผ่านมา ราคาที่ดินติดชายทะเลพุ่งสูงไปกว่า 1 ล้านบาท/ตารางวาแล้ว

อย่างไรก็ตาม บริษัทฯยังมีแผนที่จะนำที่ดินอีก 2 ไร่ พัฒนาโรงแรมระดับอินเตอร์แบรนด์ เป็นครั้งแรก ซึ่งเป็นการร่วมทุนกับพันธมิตรอีก 2 กลุ่ม ในนามบริษัท ออเนอร์ นอร์ธ พัทยา จำกัด สูงประมาณ 25 ชั้น ขนาดกว่า 300 ห้อง ราคาประมาณ 1,800-1,900 บาท/คืน มูลค่าการลงทุนประมาณ 1,000 ล้านบาท ขณะนี้อยู่ในระหว่างการพิจารณาเลือกเชนโรงแรมที่จะเข้ามาบริหารงาน คาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการได้ในปี 2566

โดยทิศทางการดำเนินธุรกิจของกลุ่มออเนอร์ กรุ๊ป นั้นต้องการที่จะเติบโตอย่างรวดเร็ว แต่มั่นคง ซึ่งจะพัฒนาโครงการในทุกเซกเมนต์ ทั้งนี้แล้วแต่จังหวะและโอกาส พร้อมกับเปิดโอกาสให้พันธมิตรเข้ามาร่วมทุน เพื่อการก้าวสู่เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในอีกประมาณ 10 ปีข้างหน้า  แต่ในระยะแรกนี้คงเน้นการพัฒนาในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor : EEC) เนื่องจากมองว่ายังมีทิศทางการเติบโตที่สูง เพราะภาครัฐยังมีการลงทุนด้านระบบสาธารณูปโภคอีกอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีนักลงทุนเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีความต้องการที่พักอาศัยมากขึ้น โดยเบื้องต้นวางแผนจะพัฒนาปีละประมาณ 2 โครงการ มูลค่าประมาณ 1,000-2,000 ล้านบาท

“ครอบครัวเรามีที่ดินสะสมอยู่ในพื้นที่พัทยาประมาณ 10 แปลง รวม 30 กว่าไร่ ที่ผ่านมาพัฒนาไปแล้ว 5 แปลง ส่วนอีก 5 แปลงที่เหลือ จำนวนทั้งหมดประมาณ 16 ไร่ จะทยอยนำมาพัฒนาอย่างต่อเนื่อง”นางสาวธิดา กล่าว

นางสาวธิดา กล่าวเพิ่มเติมว่า ในปี 2563 ทางครอบครัวมีแผนจะเปิดตัวใหม่อีกอย่างน้อย 1 โครงการภายใต้แบรนด์ “โมชั่น สุขุมวิท พัทยา” ซึ่งเป็นการร่วมทุนกับพันธมิตรร้านทองในพื้นที่พัทยา และก่อตั้งบริษัท ออเนอร์ โมชั่น ทู จำกัด ขึ้นมาดำเนินการ ด้วยทุนจดทะเบียน 65 ล้านบาท  ตั้งอยู่บริเวณถนนพรประภานิมิต บนพื้นที่กว่า 2 ไร่ เป็นคอนโดฯสูง 8 ชั้น จำนวน 2 อาคาร ขนาด 28-29 ตารางเมตร ราคา 1.9 ล้านบาทขึ้นไป จำนวน 259 ยูนิต มูลค่าโครงการเกือบ 700 ล้านบาท คาดว่าจะเปิดขายได้ในไตรมาสที่1/2563

ในปี 2564 ก็จะมีการพัฒนาคอนโดฯ แบรนด์ “โมชั่น”อีก 1 โครงการ คือ “โมชั่น เซ็นทรัล พัทยา” ตั้งอยู่บริเวณพัทยากลาง บนพื้นที่ประมาณ 4 ไร่ เป็นคอนโดฯ สูง 8 ชั้น 2 อาคาร ราคา 1.5 ล้านบาทขึ้นไป มูลค่าโครงการประมาณ 800 ล้านบาท ความคืบหน้าขณะนี้อยู่ในระหว่างการออกแบบ จึงยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*