นายเฉิน ซื่อ ปิง

“เดอะวัน เอสเตทฯ” ลุยลงทุนอสังหาฯทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด ล่าสุดจับมือ “พรีโม เรียลเตอร์”ในเครือ ORI  เปิดตัวโครงการ Ken Attitude รัตนาธิเบศร์ ใกล้ MRT สถานีพระนั่งเกล้า มูลค่ากว่า 1,900 ล้านบาท

 

นายเฉิน ซื่อ ปิง ประธานกรรมการ บริษัท เดอะวัน เอสเตท ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทมีเป้าหมายที่จะลงทุนพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ใน 3-5 ปีข้างหน้าประมาณ 7-8 โครงการทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัด อาทิ เชียงใหม่ เชียงราย สระบุรี นคราชสีมา โดยโครงการที่จะลงทุนพัฒนาประเภท เวลเนส โฮม เจาะกลุ่มกลุ่มเป้าหมายวัยเกษียณ โดยเฉพาะโครงการที่อยู่ในจังหวัดเชียงใหม่และเชียงราย ที่ปัจจุบันรัฐบาลไทยกำหนดให้พื้นที่ดังกล่าวเป็นฮับ “ เวลเนสซิตี้” ซึ่งจะช่วยเพิ่มความน่าสนใจของตลาดต่างชาติมากยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายเฉิน ซื่อ ปิง เป็นนักธุรกิจและนักลงทุนชาวไต้หวัน ได้เข้ามาลงทุนในอสังหาฯประเทศไทยรูปแบบสร้างผลตอบแทนระยะสั้น จากนั้นมองเห็นโอกาสทางธุรกิจจึงค่อยๆขยายการลงทุนสู่การเป็นดีเวลลอปเปอร์ ปัจจุบันมีมูลค่าโครงการที่ดำเนินการอยู่คิดเป็นมูลค่าเกือบ 5,000 ล้านบาท พัฒนาคอนโดมิเนียมภายใต้แบรนด์ต่างๆ อาทิโครงการ ดิ ยูนีค เอกมัย รามอินทรา (The Unique Ekamai – Ramintra),โครงการ ดิ ยูนีค เท็น ไนน์ (The Unique 19)ดิ ยูนีค 10 (The Unique 10) และโครงการโททเนส เกษตร-นวมินทร์ (Totnes Kaset-Nawamin) เป็นต้น ซึ่งโครงการต่างๆดังกล่าวพัฒนาภายใต้บริษัท เท็น ไทย ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด จัดตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม  2547มีทุนจดทะเบียน 80 ล้านบาท (ชำระแล้วเต็มจำนวน)

นอกจากนี้นายเฉิน ซื่อ ปิง ยังมีธุรกิจอพาร์ตเม้นท์ให้เช่าในกรุงเทพฯจำนวน 3 อาคารเป็นอาคารสูง 5 ชั้น รวมทั้งสิ้น 125 ยูนิต  ภายใต้ชื่อ R 6 โดย 2 อาคารตั้งอยู่ซอยเสือใหญ่ ส่วนอีก 1 อาคารอยู่ย่านห้วยขวาง อัตราค่าเช่าตั้งแต่ 3,500-7,500 บาท ต่อเดือนต่อห้อง

สำหรับบริษัท  เดอะวัน เอสเตท ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด เป็นบริษัทที่จัดตั้งขึ้นด้วยทุนจดทะเบียน 200 ล้านบาท (ชำระแล้วเต็มจำนวน) “ผมถือหุ้นคนเดียว ซึ่งผมก็ได้รับสัญชาติไทยในปีนี้ ” นายเฉิน ซื่อ ปิง กล่าว พร้อมกับกล่าวว่า ล่าสุดบริษัท เดอะวัน เอสเตท ฯ ร่วมกับ บริษัท พรีโม เรียลเตอร์ จำกัดเปิดตัวโครงการ Ken Attitude รัตนาธิเบศร์ – MRT สถานีพระนั่งเกล้า บนเนื้อที่กว่า 3 ไร่ มี 3 อาคารประกอบด้วย

  • อาคาร A เป็นอาคารสูง 2 ชั้นสำหรับเป็นพื้นที่ค้าปลีกจำนวน 6 ยูนิต พื้นที่ใช้สอยกว่า 300 ตร.ม.
  • อาคาร B เป็นอาคารสูง 31 ชั้นคอนโดมิเนียม จำนวน 588 ยูนิต ขนาดพื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 27 – 78 ตารางเมตร (ตร.ม.) ราคาขายเริ่มต้นกว่า 60,000 บาทต่อตร.ม.หรือราคาเริ่ม 2.29 ล้านบาท
  • อาคาร C เป็นอาคารสูง 8 ชั้น สำหรับใช้เป็นอาคารสำหรับจอดรถ จำนวน 312 คัน หรือ 53%

ทั้งนี้ โครงการดังกล่าว รวมมูลค่าประมาณ 1,900 ล้านบาท เริ่มก่อสร้างแล้วในปี 2562 กำหนดก่อสร้างเสร็จทั้งโครงการภายใน 3 ปี ธนาคารเกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน)ให้การสนับสนุนสินเชื่อโครงการ

โครงการ Ken Attitude รัตนาธิเบศร์ กำหนดเปิดขายอย่างเป็นทางการในเดือนตุลาคาคม 2562 ตั้งเป้าปิดการขายภายใน 18 เดือน โครงการมีจุดเด่นเป็นโครงการคอนโดมิเนียมสุดหรูวิวแม่น้ำเจ้าพระยาที่มีจุดขายสำคัญได้แก่ เป็นโครงการที่ตั้งอยู่ใกล้จากสถานีรถไฟฟ้า MRT (สะพานพระนั่งเกล้า) เพียง 100 เมตร ห้องที่ขาย รูปลักษณ์ ดีไซน์ การออกแบบตัวตึกที่ทันสมัยมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ภายใต้แบรด์ THE ONE ตัวห้องส่วนใหญ่เน้นสไตล์ (LOFT) ที่ออกแบบพิเศษเน้นความสูงถึงเพดาน ถึง 4.9 เมตร จำนวนยูนิตต่อชั้นที่ไม่เยอะ ทำให้มีความเป็นส่วนตัวสูง (เพียง 21 ยูนิต) มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบ รายล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทั้งเซ็นทรัลพลาซ่า รัตนาธิเบศร์สินค้า , โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า, มหาวิทยาลัยราชมงคลสุวรรณภูมิ ฯลฯ เหมาะแก่อยู่อาศัย และ ซื้อไว้เพื่อการลงทุน โดยปัจจุบันมีนักลงทุนชาวไต้หวันมาซื้อเหมาชั้น 3 ชั้นคือ ชั้น 23,24 และ ชั้น 25 รวมจำนวน 70 ยูนิต มูลค่ารวม 200 ล้านบาท

นอกจากโครงการ Ken Attitude รัตนาธิเบศร์ แล้วบริษัท  เดอะวัน เอสเตทฯได้เตรียมเปิดตัวอีก 2 โครงการในอนาคต คือ ที่อยู่อาศัยแนวราบภายใต้ชื่อ โครงการ BIBURY VILLACE ย่านศรีนครินทร์ บนเนื้อที่กว่า 3 ไร่ เป็นบ้านเดี่ยว 4 ชั้นระดับ Super Luxury  5 ห้องนอน 6 ห้องน้ำ ขนาดพื้นที่ใช้สอย 500 – 710 ตร.ม.จำนวน 58 ยูนิต ราคาขายตั้งแต่ 34-50 ล้านบาท  ส่วนอีกโครงการที่จะเปิดตัวอยู่ในย่าน ซอยอารีย์ ซอย 5

นางสาวพิมพ์ชญา ธนาวัชรวิวัฒน์

ด้านนางสาวพิมพ์ชญา ธนาวัชรวิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พรีโม เรียลเตอร์ จำกัด ดำเนินธุรกิจให้คำปรึกษาด้านการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจรและเป็นบริษัทในเครือ ออริจิ้น ฯหรือ ORI ได้กล่าวถึงการวางแผนการตลาดสำหรับโครงการ KEN ATTITUDE รัตนาธิเบศร์จะมีการใช้สื่อออนไลน์และออฟไลน์ ที่มีประสิทธิภาพ ทำการตลาดไปยังกลุ่มเป้าหมายอย่างผู้ปกครองนักศึกษา ข้าราชการ พนักงานเอกชนที่มีทั้งที่ซื้อเพื่ออยู่อาศัยเอง และเพื่อการลงทุนในระยะยาว เนื่องจากโครงการตั้งอยู่ในทำเลศักายภาพ มีจุดขายที่สำคัญต่างๆเหล่าจะสามารถดึงดูดทั้งกลุ่มที่อยู่อาศัยเองและกลุ่มลงทุน ทั้งในพื้นที่และนอกพื้นที่ได้

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*