CPN แจงพื้นที่ก่อสร้าง “เซ็นทรัล วิลเลจ”ดำเนินการถูกต้องตามกฎหมาย เป็นไปตามกฎหมายผังเมือง ทั้งได้รับอนุญาตจากหน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่รับผิดชอบ ปลอดภัยตามหลักการบิน วอนภาครัฐคลี่คลายสถานการณ์ เพื่อเปิดให้บริการตามกำหนดเดิม 31 ส.ค.62

ฝ่ายสื่อสารองค์กร บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด(มหาชน)หรือ CPN ของตระกูล “จิราธิวัฒน์” ผู้บริหารและพัฒนาโครงการเซ็นทรัลวิลเลจ ได้ส่งหนังสือชี้แจงประเด็นข่าวเกี่ยวกับพื้นที่การก่อสร้างโครงการเซ็นทรัล วิลเลจ ลักชัวรี่เอาท์เล็ตระดับโลกแห่งแรกในประเทศไทย เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2562 ที่ผ่านมว่า บริษัทฯได้ดำเนินการทุกขั้นตอนเป็นไปอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ทุกประการ โดยได้รับอนุญาตจากหน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่รับผิดชอบ ซึ่งไม่ตรงกับข้อกล่าวอ้างที่สื่อ ต่างๆ ได้รับแต่อย่างใด โดยมีรายละเอียดต่อไปนี้

 

1.บริษัทฯ ได้รับใบอนุญาตก่อสร้างถูกต้องตามกฎหมายและปฏิบัติตามข้อกำหนดการก่อสร้างบน พื้นที่ตั้งของโครงการ รวมทั้งเป็นไปตามกฎหมายผังเมืองปัจจุบันอย่างเคร่งครัด

2.บริษัทฯ ได้รับใบอนุญาตการเชื่อมทางเข้าออกโครงการอย่างถูกต้องจากหน่วยงานที่มีอำนาจในการอนุมัติ

3.บริษัทฯ ได้รับอนุญาตในการเชื่อมต่อและขยายเขตวางท่อประปาและไฟฟ้ าอย่างถูกต้องจาก หน่วยงานผู้มีอำนาจ ซึ่งการขอใช้น้ำประปา ไฟฟ้ า ถือเป็นสิทธิการเข้าถึงการให้บริการสาธารณูปโภคพื้นฐานตามปกติของประชาชนทั่วไป 

บริษัทฯ หวังเป็นอย่างยิ่งว่า จะได้รับการแข่งขันอย่างเป็นธรรม และบริษัทฯ มีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาให้ โครงการเซ็นทรัล วิลเลจ เป็นลักชัวรี่เอาท์เล็ตในระดับสากล (International Luxury Outlet) จากฝี มือคนไทย เป็นที่แรกในประเทศไทย เพื่อเชิดชูอัตลักษณ์ความเป็ นไทย สร้างความภาคภูมิใจในการเป็นจุดหมาย ปลายทางแห่งการช้อปปิ้งระดับโลก พร้อมส่งเสริมการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจของประเทศ เพื่อให้ย่าน สนามบินสุวรรณภูมิและพื้นที่โดยรอบเป็นเมืองสนามบินที่ดีที่สุดอีกแห่งหนึ่งของโลก โดยโครงการมีกำหนดการเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในวันเสาร์ ที่ 31 สิงหาคม 2562 นี้

ล่าสุดเมื่อเย็นวันที่ 26 สิงหาคม 2562 ทางCPN ได้ส่งหนังสือชี้แจงมาอีก 1 ฉบับ ประกาศยืนยันว่า ตลอดระยะเวลา5 ปีที่ผ่านมา(.. 2558-2562) ในการพัฒนาโครงการเซ็นทรัล วิลเลจ บริษัทฯได้ดำเนินการทุกอย่างตามขั้นตอนอย่างถูกต้อง และได้รับอนุญาตอย่างถูกต้องตามกฎหมาย จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และมีอำนาจรับผิดชอบโดยตรง มีความโปร่งใส พร้อมให้ตรวจสอบดังนี้

ในปี.. 2558 บริษัทฯได้ทำการตรวจสอบที่ดินว่าที่ดินดังกล่าวนั้นสามารถพัฒนาโครงการเซ็นทรัลวิลเลจได้ตาม ...ผังเมือง และที่ดินติดถนนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข370 ไม่ใช่ที่ดินตาบอดแต่อย่างใด

ในวันที่22 ธันวาคม 2559 บริษัทฯได้รับหนังสือรับรองการใช้ประโยชน์ที่ดินตาม ... ผังเมือง ว่าพื้นที่สีเขียวบริเวณ 1-10 ของผังเมืองสมุทรปราการ ยังมีพื้นที่เพียงพอให้บริษัทฯสร้างโครงการนี้ได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย

ในวันที่30 มกราคม 2560 และ 25 กรกฎาคม 2562 บริษัทฯได้รับใบอนุญาตก่อสร้างและแบบปรับปรุงภายในเขตปลอดภัยในการเดินอากาศจากสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย(กพท.)

ในวันที่24 เมษายน 2561 ได้ใบอนุญาตการก่อสร้างอาคาร(1) จากอบต. บางโฉลง

ในวันที่24 เมษายน 2561 บริษัทฯได้แถลงข่าวเปิดตัวครั้งแรกโครงการต่อสาธารณชน

ในวันที่10 เมษายน  2562 กรมทางหลวงได้อนุญาตให้การประปาใช้พื้นที่ไหล่ทางในการดำเนินการวางท่อเข้าโครงการเซ็นทรัลวิลเลจ

ในวันที่24 กรกฎาคม  2562 กรมทางหลวงได้อนุญาตให้ทำทางเชื่อมเข้าออกขยายผิวจราจร และปรับปรุงทางเท้า ซึ่งรวมไปถึงไหล่ทางด้วยเช่นเดียวกับที่เคยได้อนุมัติเชื่อมทางให้กับผู้ร้องขอรายอื่นบนถนนสายนี้ทั้งสิ้น 37 ราย รวมถึงบริษัทท่าอากาศยานไทยจำกัด(มหาชน) หรือ ทอท. ก็เป็นหนึ่งในผู้ที่เคยขออนุญาตจากกรมทางหลวงมาโดยตลอด และล่าสุดเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2562 ได้มีหนังสือจากกรมทางหลวง อนุญาตให้ทอท. เดินท่อร้อยสายไฟฟ้าใต้ดิน และบ่อพัก ทั้งนี้ไม่ปรากฏว่าเคยมีผู้ใช้ประโยชน์รายใดยื่นขออนุญาตเชื่อมทางจาก ทอท. เลย

ในวันที่14 สิงหาคม 2562 บริษัทฯได้รับใบอนุญาตเปิดใช้อาคาร(6) จาก อบต. บางโฉลง

ในวันที่ 22 สิงหาคม 2562 ทอท. มาปิดกั้นทางเข้าออกหน้าโครงการเซ็นทรัลวิลเลจ

ในวันที่ 31 สิงหาคม 2562 มีกำหนดเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการ

ดังนั้นบริษัทฯได้ใบอนุญาตอย่างถูกต้องทุกขั้นตอนตลอด5 ปีที่ผ่านมา สำหรับประเด็นที่อาจมีความเข้าใจผิด ทางCPN ขอชี้แจงให้เกิดความเข้าใจอย่างถูกต้อง 3 ประเด็น ได้แก่

1. พื้นที่โครงการมีการเชื่อมทางเข้าออกอย่างถูกต้อง ไม่มีการรุกล้ำที่ดินของภาครัฐ(ที่ดินราชพัสดุ  ลำรางสาธารณะ) และไม่ได้เป็นที่ดินตาบอด

ที่ดินที่ราชพัสดุได้จัดหา และมอบให้กรมทางหลวงสร้างเป็นทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 370 และให้กรมทางหลวงเป็นผู้ดูแลเป็นพื้นที่คนละส่วนกับที่ดินที่เวนคืนของสนามบินสุวรรณภูมิที่ ทอท. ดูแล

โดยโครงการเซ็นทรัล วิลเลจ ตั้งอยู่บนที่ดินที่ติดกับทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 370 จึงมีการขออนุญาตโดยตรงจากกรมทางหลวง ซึ่งมีอำนาจเต็มในการอนุมัติการเชื่อมทางแต่ผู้เดียวเท่านั้น

และพื้นที่ที่กรมทางหลวงดูแลรับผิดชอบ หมายรวมถึงเขตทาง และไหล่ทาง ซึ่งติดกับที่ดินของเอกชน 2 ข้างถนน ซึ่งที่ดินของโครงการมีแนวเขตแนบสนิทต่อเนื่องกับเขตทางของทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 370 ดังนั้นที่ดินของโครงการจึงไม่ใช่ที่ดินตาบอด

 2. บริษัทฯได้ปฏิบัติตามกฎหมายผังเมืองอย่างเคร่งครัด

โครงการนี้ได้ปฏิบัติตามและได้รับอนุญาตอย่างถูกต้องในการก่อสร้างในพื้นที่สีเขียวบริเวณ 1-10 ไม่เกินร้อยละ 10 ของที่ดินพื้นที่สีเขียวบริเวณดังกล่าว โดยโครงการได้รับอนุญาตจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามกฎหมายผังเมืองไม่ได้มีการขอปรับผังเมืองแต่อย่างใด

3. บริษัทฯได้ขออนุญาตก่อสร้างในบริเวณพื้นที่เขตปลอดภัยในการเดินอากาศ จากสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทยอย่างถูกต้อง

มีความปลอดภัยต่อการบินไม่ได้ละเมิดกฏใดๆ ทั้งความสูงไม่มีกิจกรรมใดๆที่จะส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานสนามบิน หรือรบกวนการบินแต่อย่างใด โดยแบบมีความสูงที่ถือว่าต่ำกว่ามาตรฐานที่กำหนด ซึ่งเป็นไปตามมาตรฐานองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ(ICAO) จึงไม่เกี่ยวข้องใดๆกับการติดธงแดงตามที่มีการกล่าวอ้าง

 จากที่ได้กล่าวข้างต้นเป็นข้อมูลที่ได้มีการเปิดเผย และยินดีให้มีการตรวจสอบจากภาครัฐเพื่อแสดงความจริงใจ และ CPN ยินดีให้ความร่วมมือชี้แจงในทุกประเด็น บริษัทฯมั่นใจว่าภาครัฐจะสามารถช่วยคลี่คลายสถานการณ์นี้ เพื่อให้การร่วมมือครั้งนี้นำไปสู่ประโยชน์ทางเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยวของประเทศเพื่อร่วมกันเดินหน้าประเทศไทย และเพื่อให้บริษัทฯร้านค้ากว่า 170 ร้านค้า และพนักงานกว่า 1,000 คน พร้อมเปิดให้บริการตามกำหนดการเดิม

 

อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวย การใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. ได้ออกมากล่าวว่า เมื่อวันที่ 23 ส.ค.2562 ที่ผ่านมา ได้นำเอาแนวกั้นถนนมากั้นขวางถนนทางเข้าออกของโครงการเซ็นทรัล วิลเลจ เอาต์เลต ของกลุ่มจิราธิวัฒน์  เนื่องจากโครงการดังกล่าวก่อสร้างบนที่ดินตาบอดติดกับสนามบิน  และมีการรุกล้ำที่ราชพัสดุที่มีราชกิจจานุเบกษามอบให้ ทอท.เพื่อประโยชน์ในการดำเนินกิจการสนามบินสุวรรณภูมิ มีผลทำให้พนักงานของสำนักงานการประปาสาขาสุวรรณภูมิ ไม่สามารถเข้าไปวางท่อประปาในพื้นที่ของโครงการนี้ได้นอกจากนี้ยังมีพื้นที่อีกจำนวนหนึ่งของโครงการรุกล้ำเข้ามาในพื้นที่ของสนามบินด้วย โดย ทอท.ได้ขอให้โครงการรื้อถอนสิ่งก่อสร้างที่รุกล้ำพื้นที่เข้ามาแล้ว แต่เจ้าของโครงการเพิกเฉยมิได้ดำเนินการใดๆ แม้ ทอท.จะได้มีการไปแจ้งความไว้ยังสถานีตำรวจแล้วก็ตาม แต่คำร้องดังกล่าวไม่เคยมีการดำเนินการ ทอท.จึงจำเป็นต้องใช้วิธีปิดถนนห้ามสำนักงานการประปา สาขาสุวรรณภูมิเข้าไปยังพื้นที่ดังกล่าว
โครงการดังกล่าวมีการก่อสร้างทางเข้าออกอยู่ 2-3 ทาง นอกจากทางรุกล้ำที่ของ ทอท.แล้ว ยังมีทางเข้าที่กั้นลำรางสาธารณะ อีกทั้งโครงการนี้ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าดำเนินการอย่างถูกกฎหมาย ทั้งในเรื่องของการก่อสร้างบนพื้นที่สีเขียว และการก่อสร้างโครงการใกล้กับพื้นที่สนามบิน มีการตรวจสอบด้านความปลอดภัยตามหลักองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ไอเคโอ) แล้วหรือไม่ ดังนั้น ทอท.อยากให้ทางโครงการแก้ไขปัญหาทางกฎหมายให้ชัดเจนก่อน อย่างไรก็ดี หากทางโครงการเซ็นทรัล วิลเลจ มีหลักฐานที่ดำเนินโครงการถูกต้องตามกฎหมาย ทอท.ก็ยินดีที่จะรับคำขอต่างๆของทางโครงการไว้พิจารณา เพราะ ทอท.ในฐานะผู้ดูแลพื้นที่จากกรมธนารักษ์ ต้องทำถูกต้องตามกฎหมาย หากโครงการที่พัฒนาไม่ถูกต้อง และ ทอท.เข้าไปมีส่วนร่วม ก็อาจจะเข้าข่ายกระทำผิดร่วมกันไปด้วย โดยเรื่องนี้ตนได้หารือร่วมกับนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม แล้ว และเน้นย้ำให้ดำเนินการทุกอย่างตามกฎหมาย

ด้านนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า จากกรณีดังกล่าวได้เน้นย้ำให้ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด(มหาชน) หรือ ทอท.ดำเนินการทุกอย่างให้ถูกต้องตามกฎหมาย  หน่วยงานใดมีส่วนรับผิดชอบก็ต้องเข้าไปดู  ผิดก็ผิด ถูกก็ถูก ผิดก็ว่าไปตามผิด อะไรที่ไม่ดีก็อย่าไปทำ กฎหมายบังคับใช้กับประชาชนทุกคนอย่างเท่าเทียมกันหมด ดังนั้นต้องดูข้อเท็จจริง และกฎหมายให้ครบถ้วนในการดำเนินการ

 

 

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*