อนันดาฯ ประกาศผลประกอบการไตรมาส 2/2562 มียอดขายกว่า 6,100 ล้านบาท สูงกว่าไตรมาสแรก 27% และมียอดขายสะสมครึ่งปีแรกกว่า 10,915 ล้านบาท แม้ว่าทางบริษัทฯจะมีการเปิดตัวโครงการใหม่เพียงสองโครงการ คิดเป็น 30% ของเป้าหมายยอดขายทั้งปี 2562 ที่ระดับ 36,000 ล้านบาท

 

ดร. ชัยยุทธ ชุณหะชา ประธานเจ้าหน้าที่สายงานการเงิน บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ ANAN กล่าวว่า บริษัทฯ สามารถทำยอดขายได้สูงต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงไตรมาส 2/2562 สามารถสร้างยอดขายกว่า 6,100 ล้านบาท เติบโต 27% จากไตรมาสแรก ส่งผลให้ช่วงครึ่งปีแรกบริษัทฯมียอดขายสะสมกว่า 10,915 ล้านบาท  โดยมาจากการขายโครงการเดิมที่มีอยู่ในมือเป็นหลัก ซึ่งมีการตอบรับที่ดีจากลูกค้าถือว่าเป็นผลการดำเนินงานที่น่าพอใจในสถานการณ์ตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่มีความท้าทายทั้งปัจจัยภายในประเทศและต่างประเทศ และเชื่อว่าความต้องการที่อยู่อาศัยโดยเฉพาะใกล้รถไฟฟ้ายังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง

ดร. ชัยยุทธ ชุณหะชา

ในไตรมาส 2 บริษัทฯได้เปิดตัว โครงการ ไอดีโอ คิว พหลฯ-สะพานควาย เป็นโครงการไฮไลท์ที่ร่วมทุนกับมิตซุย ฟูโดซัง  โดยสามารถสร้างยอดขายได้ถึง 39% ของจำนวนยูนิตที่เปิดขาย สะท้อนให้เห็นว่าคอนโดติดรถไฟฟ้านั้น ตลาดยังคงมีความต้องการอย่างต่อเนื่อง ผู้บริโภคพร้อมที่จะซื้อสินค้าหากสินค้านั้นสามารถตอบโจทย์การอยู่อาศัย นอกจากนี้ยังเปิดตัวโครงการยูนิโอ ทาวน์ ประชาอุทิศ 76 เป็นโครงการแนวราบ

จากยอดขายและกระแสตอบรับจากผู้บริโภคที่ยังคงมีอย่างต่อเนื่อง ทำให้บริษัทมีความมั่นใจในการเปิดโครงการใหม่ โดยทั้งนี้บริษัทฯมีที่ดินพร้อมพัฒนากว่า 10 แปลง สำหรับเตรียมเปิดโครงการคอนโดมิเนียมติดรถไฟฟ้าตอบสนองความต้องการของลูกค้าในราคาที่สามารถจับจองเป็นเจ้าของได้ ได้แก่ สามย่าน สุขุมวิท ทองหล่อ เป็นต้น และโครงการแนวราบแบรนด์ใหม่ที่พร้อมเปิดตัว “URBANIO แจ้งวัฒนะ” คาดว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีเหมือนที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม ความท้าทายของตลาดอสังหายังคงมีอยู่ ทั้งจากปัจจัยภายในประเทศและภายนอกประเทศ โดยบริษัทฯรับทราบและคอยติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง และเตรียมพร้อมปรับแผนธุรกิจหากมีความจำเป็นเพื่อรักษาเสถียรภาพในระยะยาวของบริษัทฯ ทั้งนี้แผนธุรกิจทั้งหมดของบริษัทฯนั้น ยังคงสนับสนุนการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และเน้นย้ำการเป็นผู้นำในตลาดคอนโดมิเนียมติดรถไฟฟ้าในประเทศไทย พร้อมทั้งยังคงรักษาวินัยทางการเงินไว้อย่างเข้มงวด โดยจะรักษาอัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยสุทธิต่อทุนไว้ที่ 1 เท่า เป็นเป้าหมายระยะยาว และต้องมั่นใจว่าการเติบโตของบริษัทจะไม่เพิ่มความเสี่ยงซึ่งมีผลกระทบต่อความมั่นคงของบริษัทในระยะยาว

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*