สะใภ้ตระกูลโสภณพนิช กางแผนรุก Villa Residence หรูริมชายหาดหัวเมืองท่องเที่ยว เล็งขยายตลาดไปอินโดฯ/เมียนมา และภาคใต้-ตะวันออกของไทย เล็งผุด 2 ปี/โครงการ ล่าสุดเปิดตัว “เวลา นาใต้ เรสซิเดนเซส” มูลค่ากว่า 1,200 ล้านบาท เปิดพรีเซล 2 วัน ยอดขายพุ่ง 6 หลัง คาดก่อสร้างแล้วเสร็จเม.ย.63
นางประภาวดี โสภณพนิช ผู้ก่อตั้งและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอเดียส์ 1606 จำกัด เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่ประสบความสำเร็จจากการพัฒนาโครงการ “เวลา เขาเต่า เรสซิเดนเซส” และ “เวลา ชะอำ เรสซิเดนเซส” ส่งผลให้ราคาที่ดินใน 2 ทำเลดังกล่าวปรับตัวขึ้นสูงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งแผนการดำเนินงานของบริษัทฯยังคงเน้นการพัฒนาโครงการในรูปแบบของ Villa Residence ในทำเลหัวเมืองท่องเที่ยวติดชายทะเล ซึ่งนับจากนี้ไปจะพัฒนา 2 ปีต่อ 1 โครงการ ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ ซึ่งขณะนี้สนใจที่จะไปลงทุนพัฒนาโครงการบนที่ดินติดชายหาดในประเทศอินโดนีเซีย และเมียนมา ซึ่งคงเป็นในรูปแบบของการร่วมทุนกับผู้ประกอบการในท้องถิ่น โดยขนาดของโครงการจะไม่ใหญ่มากนัก แต่มีเอกลักษณ์ ขณะนี้ยังไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลได้ว่าจะสามารถพัฒนาในช่วงปีไหน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับจังหวะและโอกาสในการได้ครอบครองที่ดิน
นางประภาวดี โสภณพนิช ผู้ก่อตั้งและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอเดียส์ 1606 จำกัดส่วนตลาดในประเทศไทยก็ให้ความสนใจพัฒนาในพื้นที่ในจ.กระบี่ ด้วย ซึ่งปัจจุบันส่วนใหญ่จะพัฒนาในรูปแบบของโรงแรม แต่ยังไม่ค่อยมีการพัฒนาในรูปแบบของวิลล่าเพื่อขาย นอกจากนี้ยังให้ความสนใจพัฒนาโครงการทำเลหาดแม่พิมพ์ จ.ระยอง ด้วย ขณะนี้อยู่ในระหว่างการศึกษาข้อมูล
ล่าสุดเมื่อปี 2561 ที่ผ่านมาได้ซื้อที่ดินทำเล ต.นาใต้ อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา พื้นที่ 5.8 ไร่ ติดกับโครงการ “บาบา บีช คลับ ภูเก็ต” ซึ่งเป็นโครงการร่วมทุนของบริษัท ชาญอิสสระ ดีเวล็อปเมนท์ จำกัด(มหาชน)หรือCI กับบริษัท จุนฟา เรียล เอสเตท จำกัด โดยที่ดินแปลงดังกล่าวนำมาพัฒนาในรูปแบบของวิลล่าภายใต้แบรนด์ “เวลา นาใต้ เรสซิเดนเซส” (Veyla Natai Residences) สูง 2-3 ชั้น ขนาดตั้งแต่ 93-195 ตารางวา ราคาเริ่มต้นที่ 67-89 ล้านบาท จำนวน 15 หลัง มูลค่าโครงการกว่า 1,200 ล้านบาท โดยมอบหมายให้บริษัท ซีบีอาร์อี(ประเทศไทย) จำกัด เป็นที่ปรึกษาและบริหารการขายโครงการ ซึ่งได้เปิดพรีเซลไปเมื่อวันที่ 22-23 มิถุนายน 2562 ที่ผ่านมา ขณะนี้มียอดขายแล้ว 6 หลัง หรือคิดเป็น 40% โดยลูกค้าที่ซื้อเป็นกลุ่มนักธุรกิจคนไทย ด้านการก่อสร้างจะเริ่มดำเนินการได้ในเดือนกรกฎาคม 2562 นี้ และแล้วเสร็จในเดือนเมษายน 2563
“เราดูที่ดินที่นาใต้มาประมาณ 6-7 ปีแล้ว แต่เมื่อเห็นกลุ่มชาญอิสสระฯพัฒนา บาบา บีชฯขึ้นมา จึงทำให้ตัดสินใจได้เร็วขึ้น และได้ซื้อที่ดินแปลงดังกล่าวขึ้นมาเมื่อปีที่ผ่านมา ซึ่งทุกโครงการที่พัฒนาจะต้องเข้าคอนเซ็ปต์ของบริษัทฯคือ ติดชายหาด โครงการขนาดไม่ใหญ่มาก แต่มีเอกลักษณ์” นางประภาวดี กล่าว
ด้านนางสาวอลิวัสสา พัฒนถาบุตร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีบีอาร์อี (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า จากการสำรวจตลาดอสังหาริมทรัพย์ในภูเก็ตในช่วง 2-3 ปีทีผ่านมา พบว่ามีโครงการวิลล่าระดับไฮเอนด์ออกมาขายไม่มากนัก เนื่องจากที่ดินริมทะเลเริ่มหายากและมีราคาสูง โดยวิลล่าที่เปิดขายส่วนใหญ่จะอยู่กระจายไปตามทำเลต่างๆของเกาะภูเก็ต และส่วนมากจะอยู่ทำเลทิศตะวันตกของเกาะ เนื่องจากน้ำทะเลมีสีสวยกว่า เพื่อมีการพัฒนาโครงการมาก ความหนาแน่นก็เพิ่มมากตามขึ้นมา ทำให้ราคาที่ดินสูง ประกอบกับการพัฒนาต้องถูกต้องตามกฎหมายที่กำหนด ขณะที่ทำเลหาดนาใต้ ยังไม่ค่อยมีการพัฒนาอสังหาฯและมีแนวโน้มที่จะเพิ่มมูลค่าได้ในอนาคต จึงมองว่าโครงการ “เวลา นาใต้ เรสซิเดนเซส” จะได้รับการตอบรับที่ดี เพราะลูกค้าสามารถซื้ออยู่อาศัยเองได้ หรือซื้อเพื่อขายต่อ หรือปล่อยเช่าได้ซึ่งมีผลตอบแทนที่ดี
“ทำเลหาดนาใต้ขณะนี้มีผู้ประกอบการที่พัฒนาโครงการเพื่อขายเพียง 2 โครงการเท่านั้น คือ “เวลา นาใต้ เรสซิเดนเซส” และ “บาบา บีช คลับ ภูเก็ต” ส่วนที่เหลือจะเป็นการพัฒนาในรูปแบบโรงแรม ซึ่งมีประมาณ 3-4 แห่ง และในปี 2563 จะมีเพิ่มอีก 1 แห่ง คือ Santhiya ซึ่งทำเลนาใต้นั้นยังสามารถพัฒนาได้อีกมาก และราคาที่ดินยังอยู่ในเรทที่รับได้คือประมาณ 30 กว่าล้านบาท/ไร่” นางสาวอลิวัสสา กล่าวในที่สุด
