นายณ์ เอสเตทฯ มั่นใจครึ่งปีหลัง62ตลาดอสังหาฯฟื้นตัว เดินหน้ารุกอสังหาฯระดับลักชัวรี่ต่อเนื่อง จ่อเปิดตัว “เปรม ร่วมฤดี”มูลค่า 2,000 ล้านบาท ภายใน1-2 เดือนนี้  แย้มความคืบหน้าโครงการร่วมทุน MINT ย่านสีลม ปรับเพิ่มมูลค่าเป็น 20,000 ล้านบาท ภายใต้แบรนด์ “พาร์ค สีลม” ส่วน “คราม สุขุมวิท 26”ยอดขายพุ่งแล้วเกือบ 80%
นายสุธี ลิมปนชัยพรกุล ประธานอำนวยการ บริษัท นายณ์ เอสเตท จำกัด เปิดเผยถึงภาพรวมตลาดอสังหาฯในครึ่งปีหลัง 2562 ว่า ภายหลังจากที่มีการเลือกนายกรัฐมนตรีและจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่เชื่อว่าภาพรวมตลาดจะค่อยๆฟื้นตัวดีขึ้น ซึ่งบริษัทฯยังคงมีการลงทุนอย่างต่อเนื่อง ทั้งการพัฒนาเอง และร่วมทุนกับพันธมิตร ซึ่งจะเน้นกลุ่มที่มาช่วยเสริมความแข็งแกร่งในการพัฒนาและบริหารการตลาดร่วมกัน ซึ่งที่ผ่านมาก็ได้มีการร่วมทุนกับพันธมิตรคนไทยหลายกลุ่มในรูปแบบโครงการซูเปอร์ลักชัวรี่

สำหรับแผนการลงทุนของบริษัทฯในครึ่งปีหลัง 2562 จะมีการเปิดตัวโครงการระดับลักชัวรี่อีก 1 โครงการ คือ “เปรม ร่วมฤดี” ตั้งอยู่บนพื้นที่เกือบ 2 ไร่  เป็นคอนโด Low-Rise ความสูง 7 ชั้น จำนวน 2 อาคาร ขนาดเริ่มต้นที่ 28 ตารางเมตร จำนวน 176 ยูนิต ราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 6 ล้านบาทขึ้นไป มูลค่าโครงการ 2,000 ล้านบาท คาดว่าจะเปิดขายภายในระยะเวลา 1-2 เดือนนี้

ด้านโครงการร่วมทุนกับบริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด(มหาชน)หรือ MINT ที่เช่าที่ดินใจกลางสีลม จากบริษัท สิวะดล จำกัด  สัญญาเช่า 50 ปี เพื่อพัฒนาเป็นอาคารสำนักงาน และร้านค้าเชิงพาณิชย์ ระดับพรีเมี่ยม ในเบื้องต้นคาดว่าจะพัฒนาภายใต้แบรนด์ “พาร์ค สีลม” สูงประมาณ 40 ชั้น ซึ่งได้มีการปรับมูลค่าโครงการเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 20,000 ล้านบาท จากเดิมที่ประมาณการไว้ 16,000 ล้านบาท  หรือคิดเป็นมูลค่าการลงทุนประมาณกว่า 8,000 ล้านบาท คาดว่าการก่อสร้างจะแล้วเสร็จประมาณปลายปี 2565

ส่วนความคืบหน้าโครงการ “คราม สุขุมวิท 26” (KRAAM Sukhumvit 26) เป็นคอนโดมิเนียมไฮไรซ์ (High Rise) ระดับลักชัวรี่ ตั้งอยู่บนที่ดินเกือบ 2 ไร่ เป็นคอนโดฯ สูง 29 ชั้น จำนวน 1 อาคาร ขนาดตั้งแต่ 61-188 ตารางเมตร จำนวน 128 ยูนิต รวมมูลค่าโครงการ 3,500 ล้านบาท ปัจจุบันมียอดขายแล้วเกือบ 80% คาดว่าจะสามารถปิดการขายได้ภายในปี2562 นี้ โดยลูกค้าที่ซื้อส่วนใหญ่ 70% เป็นการซื้อเพื่ออยู่อาศัยเอง และที่เหลือเป็นการซื้อเพื่อให้ลูก-หลานอยู่อาศัย ส่วนต่างชาติที่ซื้อส่วนใหญ่มีเพียง 15% เป็นกลุ่มที่ดำเนินธุรกิจและทำงานในประเทศไทย

อย่างไรก็ตามคาดว่าในปี2562 นี้บริษัทฯจะทำยอดขายรวมได้ 1,500 ล้านบาท และรับรู้รายได้ที่ 1,000 ล้านบาท

 

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*