ไซมิสฯเตรียมยืนไฟลิ่ง ไตรมาส3/2562 นี้ พร้อมเปิดขายIPO ภายในครึ่งปีแรก63 หวังนำเม็ดเงินขยายตลาดอสังหารูปแบบคอนโดฯมีLicenceโรงแรมหัวเมืองท่องเที่ยว ตั้งเป้า 3 ปีสัดส่วนรายได้จากการเช่าเพิ่มเป็น 10% ทั้งเซ็นสัญญากลุ่มกรีนแลนด์ นำแบรนด์รร.เข้าบริหาร 10 โครงการ ล่าสุดเปิดตัวบิ๊กโปรเจกต์ “SIAMESE RAMA 9”รวมมูลค่า 10,000 ล้านบาท
นายขจรศิษฐ์ สิ่งสรรเสริญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไซมิส แอสเสท จำกัด เปิดเผยถึงการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ว่า อยากให้มีความมั่นคง และไม่ต้องการให้เกิดความขัดแย้งกันระหว่างคนรุ่นเก่า-รุ่นใหม่ และคาดการณ์ว่าตลาดอสังหาฯในครึ่งปีหลัง 2562 จะฟื้นตัวดีขึ้น ไม่เลวร้ายเหมือนในช่วงที่ผ่านมา

สำหรับความคืบหน้าในการนำบริษัทฯเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET)นั้นจะเตรียมยื่นแบบแสดงรายการสินทรัพย์ (Filing)ในไตรมาส3/2562 นี้ โดยมีบริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด(มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และคาดว่าจะขายหุ้นเพิ่มทุนให้กับประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO)ประมาณไตรมาส1 หรือ ไตรมาส2 ปี 2563 นี้ โดยเม็ดเงินที่ได้จากการระดมทุนจะนำไปขยายตลาดอสังหาฯในต่างจังหวัดที่เป็นหัวเมืองท่องเที่ยว อาทิ เชียงใหม่ พัทยา ภูเก็ต หาดใหญ่ และหัวหิน เป็นต้น ในรูปแบบของคอนโดฯที่ขอใบอนุญาตโรงแรม (Licence) โดยที่ผู้ซื้อคอนโดฯต้องให้การยินยอมตั้งแต่เริ่มต้น โดยแต่ละโครงการจะมีการพัฒนาอย่างน้อย 2 อาคาร มูลค่าโครงการละประมาณ 3,000-4,000 ล้านบาท  คาดว่าจะสามารถเริ่มดำเนินการได้ในปี 2563

อย่างไรก็ตามภายในระยะเวลา 3 ปีนับจากนี้บริษัทฯจะมีรายได้จากธุรกิจให้เช่าในสัดส่วนประมาณ 10% จากปัจจุบันที่มีไม่ถึง 1% และที่เหลือจะเป็นรายได้จากธุรกิจการขายอสังหาฯ โดยด้มีการเซ็นสัญญากับกลุ่มกรีนแลนด์ ซึ่งเป็นกลุ่มบริหารโรงแรมจากจีน นำแบรนด์เข้าบริหารโครงการคอนโดฯที่เปิดเป็นโรงแรมในพื้นที่กทม. จำนวน 10 แห่ง ระยะเวลา 5 ปี  ซึ่งเริ่มจากโครงการบลอสซั่ม คอนโด แอท แฟชั่น บียอนน์ (Blossom Condo @ Fashion Beyond) ด้วยการนำแบรนด์ Q Box เข้ามาบริหาร ซึ่งได้เริ่มดำเนินการไปเมือง 2-3 เดือนที่ผ่านมา โดยขณะนี้ได้จัดโปรโมชั่นลด 50% ในราคา 800 บาท/คืน ขณะนี้มีอัตราการเข้าพักประมาณ 20-30% คาดว่าภายในปลายเดือนมิถุนายน 2562 นี้จะมีอัตราการเข้าพักที่ 60%


ล่าสุดได้เปิดตัวโครงการ SIAMESE RAMA 9 ตั้งอยู่บนเนื้อที่กว่า 13 ไร่ ซึ่งเป็นการซื้อที่ดินมาจากเจ้าของเดิม จำนวน 2 แปลงๆแรกราคา 150,000 บาท/ตารางวา แปลงที่2 ราคา 250,000 บาท/ตารางวา  พัฒนาเป็นโครงการมิกซ์ยูส (Mixed-Use) ภายใต้คอนเซ็ปต์ “WHY CHOOSE, WHEN YOU CAN HAVE IT ALL” ที่รวมทุกความสะดวกสบายไว้ภายในโครงการ ทั้งส่วนกลางเเละสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างครบครัน อาทิเช่น อาคารสำนักงาน Retail stores และที่พักอาศัย รวมมูลค่าโครงการ 10,000 ล้านบาท  มีทั้งสิ้น 4 อาคาร มีจำนวนรวมในเบื้องต้นประมาณ 2,101 ยูนิต แบ่งเป็น

อาคาร A สูง 18 ชั้น เป็นคอนโดฯ จำนวน 276 ยูนิต ซึ่งบริษัทฯจะขอใบอนุญาตประกอบการกิจการในรูปแบบโรงแรม ซึ่งบริษัทฯเป็นเจ้าของเองทั้งหมด

อาคาร B สูง 38 ชั้น(Siamese Tower) จำนวน 1,143 ยูนิต ประกอบด้วยคอนโดฯเพื่ออยู่อาศัย-ลงทุนปล่อยเช่าเป็นโรงแรม,อาคารสำนักงานและพื้นที่ค้าปลีก จะเปิดพรีเซลในวันที่ 20 กรกฎาคม 2562 นี้

อาคาร C สูง 29 ชั้น ( Siamese Residence) จำนวน 561 ยูนิต ประกอบด้วยคอนโดฯ ที่เน้นเพื่อการอยู่อาศัย  โดยแยกส่วนคนไทย-ต่างชาติอย่างชัดเจน,อาคารสำนักงานและพื้นที่ค้าปลีก  จะเปิดพรีเซลในวันที่ 15 มิถุนายน 2562 นี้

อาคาร D สูง 2 ชั้น ซึ่งเป็นงานระบบทั้งหมด

โดยแต่ละยูนิตจะมีขนาดพื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 27 – 205 ตารางเมตร  ราคาขายเริ่มต้นที่ 2.9 ล้านบาทขึ้นไป โดยตั้งเป้ายอดขายที่ 70% ในช่วงแรกของการเปิดตัว และส่วนที่เหลือจะเปิดการขายในช่วงการก่อสร้าง และหลังการก่อสร้าง ที่คาดว่าจะแล้วเสร็จในไตรมาส2/2565

“โครงการนี้จะได้รับการตอบรับจากกลุ่มลูกค้าเป้าหมายทั้งกลุ่มชาวไทยและต่างชาติ โดยเฉพาะต่างชาติที่เราเน้นกับตัวแทนขายให้ขายราคาเดียวกับคนไทย ซึ่งขณะนี้โควตาต่างชาติขายหมดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว   สำหรับในส่วนที่จะเปิดให้บริการเป็นโรงแรมนั้นขณะนี้อยู่ในระหว่างการยื่นขอ Licence ในอาคารA และ B ซึ่งอาจจะมีการนำแบรนด์โรงแรมของกลุ่มกรีนแลนด์ เข้ามาบริหาร หรืออาจจะเป็นเชนจากประเทศอื่น ซึ่งขณะนี้มีทั้งจากออสเตรเลีย ฮ่องกง สิงคโปร และญี่ปุ่นเข้ามาเจรจา ”ขจรศิษฐ์ กล่าว

นอกจากนี้ยังได้นำแบรนด์โรงแรมของกลุ่มกรีนแลนด์ เข้าไปบริหารในคอนโดฯอีก 2 โครงการ คือ โครงการ Siamese Exclusive Ratchada (ไซมิส เอ๊กซ์คลูซีพ รัชดา) ภายใต้แบรนด์ Qube และโครงการ THE COLLECTION (เดอะ คอลเลคชั่น) สุขุมวิท 16 ภายใต้แบรนด์ Primus ซึ่งทั้ง 2 โครงการจะก่อสร้างแล้วเสร็จภายในระยะเวลา 3 ปีนี้

นายขจรศิษฐ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากนี้เมื่อปี 2561 ที่ผ่านมาบริษัทฯได้เข้าเทกโอเวอร์โครงการAbove Sukhumvit 39 (อโบฟ สุขุมวิท 39) จากบริษัท แอสเซท ไบร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ ABC ด้วยเม็ดเงิน 850 ล้านบาท ซึ่งจะนำมาพัฒนาเป็นโรงแรมระดับ 4 ดาว มีความสูง 20 ชั้น จำนวน 270 ห้อง ขณะนี้อยู่ในระหว่างการปรับปรุง โดยจะใช้เม็ดเงินในการลงทุนเพิ่มอีกประมาณ 500 ล้านบาท และอยู่ในระหว่างการเลือกแบรนด์โรงแรมที่จะเข้ามาบริหาร คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในปลายปี 2563 นี้

 

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*