แสนสิริฯ เปิดตัว “Sansiri Backyard”นำร่องที่ดินรอการพัฒนา 2 โครงการ จาก “T77 ณ สุขุมวิท77” และ “ลา ฮาบานา หัวหิน”เนรมิตเป็นฟาร์มผักปลอดสาร คาดเริ่มดำเนินการต.ค.62 นี้ ลั่นไฟาร์มผักปลอดสาร และสิ่งปลูกสร้างฯ คาดช่วยดึงคนเมืองรุ่นใหม่สนใจ 3 โครงการใหม่ มูลค่ากว่า 10,000 ล้านบาท  ที่เปิดตัวอีก 1-3 ปี

นางจริยา จันทร์เจิดศักดิ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายงานพัฒนาผลิตภัณฑ์ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน)หรือ SIRI เปิดเผยว่า   ปัจจุบันคนหันมาสนใจเรื่องการใช้ชีวิตที่ดีต่อทั้งสุขภาพกาย สุขภาพใจ และเป็นมิตรกับโลกมากยิ่งขึ้น  ประกอบกับธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ well-being มีอัตราการเติบโตอย่างรวดเร็วและต่อเนื่องในทุกปี  เพราะประเด็นสุขภาพเป็นสัญลักษณ์ใหม่สำหรับกลุ่มคนเมืองและชาวมิลเลนเนียล สำหรับประเทศไทย ตลาดกลุ่มสินค้าและธุรกิจบริการสุขภาพมีการขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและยังได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐให้ในการพัฒนาประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติให้ได้ภายในปี 2569 รวมทั้งคาดว่าจะมีรายได้หมุนเวียนในประเทศไม่ต่ำกว่า 100,000 ล้านบาท โดยมีสัดส่วนรายได้จากผู้รับบริการชาวไทยและชาวต่างชาติคิดเป็น 75:25  และคาดว่าจะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องหลังการเปิดการค้าเสรีของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (Asean Economics Community:AEC) ขณะที่เรื่องการใช้ชีวิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมก็อยู่ในกระแสความสนใจในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง

ซึ่งแสนสิริฯเล็งเห็นเทรนด์การใช้ชีวิตของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปและกระแสรักษ์โลกที่กำลังมาแรง จึงได้สานต่อวิสัยทัศน์ For Greater Well-being ที่ใส่ใจสุขภาพและสิ่งแวดล้อมเพื่อตอบโจทย์ความต้องการคุณภาพชีวิตที่ดีของคนเมือง ผ่านการเปิดตัว Sansiri Backyard (แสนสิริ แบคยาร์ด) คอมมูนิตี้สีเขียวในเมืองที่สร้างนิยามใหม่แห่งการใช้ชีวิตแบบยั่งยืน เพื่อโลก เพื่อเรา ภายหลังประสบความสำเร็จจากการสร้างจุดเปลี่ยนสำคัญในด้านสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืนของวงการอสังหาริมทรัพย์ไทยผ่านโมเดลธุรกิจเปลี่ยนโลก Sansiri Green Mission ที่นำแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียนมาประยุกต์เข้ากับแบรนด์ดีเอ็นเอและ Sansiri Tree Story การเก็บรักษาและดูแลต้นไม้เพื่อส่งมอบคุณค่าให้อยู่ตลอดไปในช่วงที่ผ่านมา

โดยแสนสิริฯได้นำพื้นที่ว่างเปล่าที่ไม่ได้ใช้งาน และให้ทีมงานนำพืชผักไปปลูกให้เป็นพื้นที่สีเขียวแห่งสังคมเมือง เช่น บริเวณดาดฟ้าคอนโดฯ,อาคารนิติบุคคล เป็นต้น เพื่อให้ลูกบ้านได้มีส่วนร่วมและสัมผัสมากขึ้น โดยทางโครงการจะนำผลผลิตที่ได้ไปแจกจ่ายลูกค้าในโครงการ ซึ่งที่ผ่านมาได้ดำเนินการไปแล้วประมาณ 20 โครงการ และเพื่อให้ลูกค้าในโครงการได้มีส่วนร่วมมากขึ้น บริษัทฯได้นำร่องด้วยการนำที่ดินรอการพัฒนาจาก 2 โครงการ พื้นที่รวมกว่า 14 ไร่ แบ่งเป็นโครงการ T77 ณ สุขุมวิท77 จำนวน 11 ไร่ และโครงการลา ฮาบานา หัวหิน จำนวน 3 ไร่ ให้เป็นฟาร์มผักปลอดสาร เพื่อกระตุ้นให้ผู้คนในเมืองใหญ่เห็นความสำคัญการใช้ชีวิตใกล้ชิดธรรมชาติและคุณภาพชีวิตที่ดีที่มาจากการทานอาหารสดใหม่ ปลอดสารและไม่ปรุงแต่งอันเป็นแนวคิดเบื้องต้นของ well-being

“แนวคิดนี้แสนสิริได้ดำเนินการมาประมาณ 3 ปีแล้ว ซึ่งไม่เกี่ยวกับการเลี่ยงกฎหมายภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างฯ แต่อย่างใดซึ่ เพราะที่ดินที่รอการพัฒนานั้นเราต้องมานำมาใช้ให้เป็นประโยชน์ด้วยการปลูกพืชระยะสั้นและระยะยาว ซึ่งขึ้นอยู่กับที่ดินในแต่ละโครงการ เพราะที่ดินแต่ละแปลงหากจะนำมาพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยก็ต้องใช้ระยะเวลาถึง 1 ปี โดยโครงการนำร่องทั้ง 2 โครงการนี้คาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ประมาณเดือนตุลาคม 2562 นี้ ซึ่งบุคคลภายนอกสามารถเข้าร่วมกิจกรรมได้ และเมื่อผลผลิตสามารถเก็บเกี่ยวได้ ทางแสนสิริฯได้คิดไว้ 2 แนวทางคือ นำไปขายและนำเงินไปมอบให้กับมูลนิธิต่างๆ หรือนำไปแจกจ่ายให้กับชุมชนใกล้เคียง ซึ่งโมเดลนี้เรามีแผนที่จะนำไปใช้ในโครงการที่กรุงเทพกรีฑาและทุกๆโครงการทั้งแนวสูง-แนวราบในอนาคต ด้วย”นางจริยา กล่าว

 อย่างไรก็ตามบริษัทฯมั่นใจว่าจะสามารถทำยอดขายรวมกว่า 10,000 ล้านบาท เมื่อเปิดตัว 2 โครงการใหม่ภายใต้แบรนด์ HAUS (เฮาส์) บนที่ดินเปล่าที่ทำ Sansiri Backyard@T77 และอีก 1 คอนโดฯใหม่บนที่ดิน Sansiri Backyard@Huahin ในอีก 1-3 ปีข้างหน้าได้อย่างแน่นอน นอกจากนั้น แสนสิริฯจะนำโมเดลนี้ไปต่อยอดพัฒนาพื้นที่รอการพัฒนาโครงการอื่นๆให้เป็น Sansiri Backyard เพื่อใช้ประโยชน์จากพื้นที่สูงสุดและทำให้เกิดความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้าเป้าหมายในแต่ละทำเลในอนาคตอีกด้วย

 

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*