เฮเฟเล่ฯเผยแม้สภาวะทางการตลาดทั่วโลกยังมีความผันผวนสูง แต่การลงทุนปี62ยังเดินหน้าตามแผน ทุ่มงบ 73 ล้านยูโร เพิ่มประสิทธิภาพการขนส่ง-การจายสินค้า-ระบบไอที-การผลิต พร้อมตั้งเป้ายอดขายรวมโต 4-6% ปลื้มสาขาประเทศไทยกวาดยอดขายกว่า 3,700 ล้านบาท โตอันดับ3 ของโลก อัดงบกว่า 350 ล้านบาท เพิ่มพื้นที่คลังสินค้ามากกว่าเท่าตัว  คาดปีนี้ยอดขายแตะ 4,000 ล้านบาท

 

นางซิบิลี เธียเรอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เฮเฟเล่ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ยังคงมองเห็นความเสี่ยงต่างๆทั้งด้านอัตราแลกเปลี่ยนและตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ที่มีความผันผวนสูง ตลอดจนเหตุการณ์ความไม่สงบทางการเมืองในหลายประเทศ สำหรับแผนการดำเนินงานของบริษัทฯในปี 2562 นั้น ได้วางเป้าหมายการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และยังคงเดินหน้าลงทุนในตลาดใหม่ๆ การพัฒนาสินค้าใหม่ พร้อมกับยกระดับกระบวนการสร้างคุณค่าจากการผลิตสินค้าไปจนถึงกระบวนการขนส่งและกระจายสินค้า โดยเฮเฟเล่มีแผนลงทุนประมาณ 73ล้านยูโรในด้านการตลาด การขนส่งและกระจายสินค้า ระบบไอที และการผลิต ซึ่งการลงทุนครั้งนี้จะช่วยสร้างความมั่นคงในอนาคตท่ามกลางสภาพแวดล้อมทางตลาดที่ท้าทายมากขึ้น โดยในปีนี้ เฮเฟเล่ตั้งเป้าการเติบโตของยอดขายในระดับ 4-6%

“ในปีที่ผ่านมา หลายประเทศมีเสถียรภาพทางเศรษฐกิจที่ตกต่ำลง ความหวังที่จะได้ข้อยุติในการเจรจาทางการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกากับจีนก็ลดลง ในขณะที่ประเทศตุรกีและอาร์เจนติน่าก็ประสบกับภาวะวิกฤติค่าเงิน ส่วนบราซิลก็มีปัญหากับสภาพเศรษฐกิจภายในประเทศ ส่วนทางฝั่งยุโรปตะวันตก บรรยากาศทางเศรษฐกิจแทบจะไม่เปลี่ยนแปลง และการถอนตัวออกจากสหภาพยุโรปของสหราชอาณาจักรหรือ Brexit ก็ยังคงส่งอิทธิพลต่อสภาวะตลาด ส่วนในเอเชียและยุโรปตะวันออก ตลาดยังไปได้ดี”นางซิบิลี กล่าว

 

สำหรับผลการดำเนินงานในปี 2561 บริษัทลูกของเฮเฟเล่ในต่างประเทศรวม 37 แห่ง มีการเติบโต 2.3% ทำให้ภาพรวมของบริษัทเป็นบวก บริษัทแม่ในประเทศเยอรมนีและบริษัทลูกทั้ง 5 แห่ง ที่เป็นบริษัทผู้ผลิต มีการเติบโตเล็กน้อยที่ 0.4% จากธุรกิจส่งออก

“เฮเฟเล่เน้นขยายบริการด้านโลจิสติกส์ ซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยหลักสู่ความสำเร็จของบริษัท และจากการเข้าซื้อกิจการของ Nimbus ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบไฟ ซึ่งเป็นผู้บุกเบิกการออกแบบไฟห้องระบบ LED คุณภาพสูงของประเทศเยอรมนีเมื่อช่วงต้นปี และยังอยู่ระหว่างการขยายธุรกิจให้กว้างกว่าระบบไฟเฟอร์นิเจอร์ ซึ่งได้รับการยอมรับในตลาดทางด้านระบบไฟ LED ภายใต้แบรนด์ Loox และในอนาคต เฮเฟเล่จะนำเสนอระบบไฟ LED ที่ตอบโจทย์แบบองค์รวม สำหรับการติดตั้งในอาคาร และโครงการต่างๆ ให้กับพันธมิตรและคู่ค้าของเรา”นางซิบิลี กล่าว

ด้านนายโฟลเคอร์  เฮลสเติร์น  กรรมการผู้จัดการ บริษัท เฮเฟเล่ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า สำหรับเฮเฟเล่(ประเทศไทย) มียอดขายเป็นอันดับที่ 3 ของ เฮเฟเล่ ทั่วโลก รองจากสหรัฐอเมริกา และอังกฤษ โดยมียอดขายมากที่สุดเมื่อเทียบกับประเทศต่างๆในเอเชีย และเป็นหนึ่งในบริษัทชั้นนำ ในกลุ่มของบริษัทเฮเฟเล่ทั่วโลก ซึ่งตลอดระยะเวลา 25 ปี เฮเฟเล่ประเทศไทย เติบโตและมียอดขายเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2561 มียอดขายเพิ่มขึ้น เป็น 3,700 ล้านบาท  มีพนักงานเพิ่มขึ้น มากกว่า 1,500 คน มีสินค้าคงคลังจำนวนมาก มูลค่ามากกว่า 1,700 ล้านบาท  จากสินค้ามากกว่า 20,000 รายการ และมีสินค้าที่พร้อมส่งจากประเทศเยอรมนีภายใน 7 วันทำการทางเครื่องบินมากกว่า 50,000 รายการ

 

โดยในไตรมาสที่ 1/2562 มียอดขายเติบโตเป็นตัวเลข 2 หลัก ซึ่งเป็นไปตามทิศทางการดำเนินธุรกิจในปี 2562   ที่คาดว่าจะทำยอดขายถึง 4,000 ล้านบาท โดยเฉพาะสินค้าในหมวดอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ และยอดขายจากตัวแทนจำหน่ายจะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เช่นเดียวกับยอดขายของสินค้ากลุ่มอื่นๆ  เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมา

“ในปีนี้ เฮเฟเล่ มีการขยายคลังสินค้าที่ศูนย์กระจายสินค้า บางนา-ตราด กม.22 โดยใช้เงินลงทุนมากกว่า 350 ล้านบาท เพื่อเพิ่มพื้นที่คลังสินค้าอีก  มากกว่าหนึ่งเท่าตัว รวมเป็นพื้นที่ 24,000 ตารางเมตร ซึ่งการขยายคลังสินค้านี้ เราพยายามอย่างเต็มที่เพื่อผลักดันให้พร้อมสำหรับการฉลองครบรอบปีที่ 25 ของเฮเฟเล่ ที่จะจัดขึ้นในปลายปีนี้ นอกจากนี้เฮเฟเล่ได้ออกแบบและปรับปรุง เฮเฟเล่ ดีไซน์ สตูดิโอ ในกรุงเทพฯ ที่ซอยสุขุมวิท 64 และอัพเกรดเฮเฟเล่ ดีไซน์ สตูดิโอ สาขาอื่น ๆ ด้วยเงินลงทุนมากกว่า 40 ล้านบาท อีกด้วย”นายโฟลเคอร์   กล่าวในที่สุด

 

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*