BAM มั่นใจภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างไม่กระทบNPA หลังสนช.แก้กฎหมายให้ยกเว้นการถือครองระยะ 5 ปี คาดส่งผลดีต่อระบบสถาบันการเงิน ไม่กระทบต่อลูกค้าที่จะซื้อทรัพย์ 
นายบรรยง วิเศษมงคลชัย ประธานคณะกรรมการบริหาร บริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ บสก.หรือ BAM เปิดเผยถึงนโยบายมาตรการควบคุมสินเชื่อที่อยู่อาศัย (Loan to Value : LTV) ของธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ว่า ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อลูกค้าของ BAM เนื่องจาก BAM มีโปรแกรมในเรื่องการผ่อนชำระ หรือโครงการเช่าซื้อ  แต่ที่จะส่งผลกระทบต่อ BAM และสถาบันการเงินนั้นจะเป็นเรื่อง พ.ร.บ.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ….มากกว่า  ซึ่งที่ผ่านมา สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ได้แก้กฎหมายให้มีการยกเว้นทรัพย์ สินรอการขาย ((Non Performing Asset : NPA) เป็นเวลา 5 ปี เพียงแต่ขณะนี้ ยังไม่มีกฎหมายลูกออกมารองรับ เนื่องจากมีหลายละเอียดปลีกย่อยที่ต้องอาศัยกฎหมายมาดำเนินการ ทั้งนี้ระยะเวลา 5 ปี ถือเป็นช่วงเวลาที่พอดำเนินการได้ ช่วยในเรื่องการระบายNPA และต้นทุนไม่เป็นภาระของผู้ซื้อ

สำหรับการบริหารทรัพย์ NPA  ซึ่งปัจจุบัน BAM มีมูลค่าทรัพย์กว่า  47,000 ล้านบาท โดยกว่า 30% เป็นที่ดินเปล่าทั่วประเทศ  ซึ่งทางบริษัทฯได้นำที่ดินเหล่านี้ มาสร้างมูลค่าเพิ่ม เพื่อให้ทรัพย์มีสภาพคล่อง ซึ่งหลายโครงการที่ผ่านมา BAM ได้ให้ความสำคัญในด้านสุขภาพ รวมถึงการพัฒนาความเป็นอยู่ของคนในสังคมที่ดีขึ้น โดยเริ่มจากในปี 2552 ได้เปิดตัวโครงการ พออยู่ พอกิน กับที่ดินบสก. จากนั้นในปี 2554 ต่อยอดด้วยโครงการ ทำกิน 1 ไร่ ทำได้ 100,000 ซึ่งทั้งสองโครงการ ได้น้อมนำโครงการเกษตรทฤษฎีใหม่ ตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช  มาเป็นแบบอย่างในการดำรงชีวิต ล่าสุดได้เริ่มเปิดโครงการ “บ้านสวนสุขใจกับสมุนไพรในบ้านเราจาก BAM” เป็นการสร้างที่อยู่อาศัย โดยการประยุกต์และผสมผสานระหว่างการเกษตรอินทรีย์ที่เน้นเรื่องสุขภาพ และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยได้คัดทรัพย์และที่ดินเปล่าซึ่งเหมาะสมสำหรับทำเป็นบ้านสวนสุขใจกับสมุนไพรในบ้านเราจาก BAM ทั่วประเทศ จำนวน 4,468 รายการ รวมมูลค่าประมาณ 27,980 ล้านบาท ให้ลูกค้าและผู้สนใจได้เลือกซื้อ โดยเป็นทรัพย์ประเภทที่ดินเปล่า ราคาไม่เกิน 5 ล้านบาท มีจำนวนรวม 3,247 รายการ มูลค่ารวม 22,823 ล้านบาท ในส่วนของทรัพย์ประเภทบ้านเดี่ยว เนื้อที่ 80 ตาราวาขึ้นไป ระดับราคาไม่เกิน 20 ล้านบาท มีจำนวนรวม 1,401 รายการ มูลค่ารวม 5,157 ล้านบาท เป็นบ้านที่ปรับปรุงแล้ว จำนวน 47 รายการ มูลค่า 210 ล้านบาท

 

 

“ลูกค้าที่ซื้อไปถึงตอนนี้ ราคาที่ดินปรับสูงขึ้น เนื่องจากทรัพย์เดิมของ BAM อยู่ตามชานเมืองมีมาก  แต่ด้วยความเจริญของเมือง และระบบสาธารณูปโภค โครงข่ายรถไฟฟ้า ได้ผลักดันให้มูลค่าที่ดินขยับขึ้นมาก ล่าสุด กรมทางหลวง มีนโยบายที่จะทำโครงการถนนวงแหวนรอบที่ 3 เพื่อเสริมสร้างระบบโครงข่ายถนนในเขตพื้นที่ปริมณฑลให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น และลดปริมาณการจราจรที่จะผ่านเข้า-ออกใจกลางเมืองกรุงเทพฯ ซึ่ง BAM มีทรัพย์อยู่ตามโครงข่ายวงแหวน เช่น บางปะอิน พระนครศรีอยุธยา นครปฐม และสมุทรปราการ เป็นต้น ราคาที่ดินขึ้นแน่นอน ถ้าใครลงทุน มีแต่ราคาขึ้น เหมือนเช่นโซนบางบัวทอง ซึ่งเราก็เชื่อว่า วงแหวนรอบที่ 3 ก็จะมีแนวโน้มราคาที่ดินสูงเช่นกัน” นายบรรยง กล่าวในที่สุด

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*