แบรนด์จระเข้  เผยภาพรวมตลาดวัสดุก่อสร้างปี62 ยังโตตามการลงทุนภาครัฐ รับตลาดกาวซีเมนต์ยาแนว ชะลอตัว หันปรับแผนรับมือเจาะกลุ่มรับเหมาเฉพาะด้านมากขึ้น ทั้งรุกขยายสินค้าพื้นที่EECรองรับเมกะโปรเจกต์ พร้อมรุกขยายฐานตลาดภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
นายนรวีร์ เศรษฐิน ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารการตลาด บริษัท จระเข้ คอร์ปอเรชั่น จำกัด เปิดเผยถึงภาพรวมตลาดวัสดุก่อสร้างปี 2562 ว่า ยังมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง เพราะภาครัฐมีการลงทุนโครงการเมกะโปรเจกต์อย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะส่งผลให้ตลาดวัสดุก่อสร้างและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องมีอัตราการเติบโตตามไปด้วย ขณะที่ตลาดกาวซีเมนต์ยาแนว ในปี2562 นี้จะมีอัตรการเติบโตที่ลดน้อยลง เนื่องจากปัจจุบันมีวัสดุก่อสร้างที่เป็นทางเลือกใหม่เพิ่มมากขึ้น ดังนั้นในปีนี้บริษัทฯจึงต้องปรับตัวด้วยการขยายตลาดในประเทศไทยมากขึ้น จากเดิมที่เน้นการขายปลีกผ่านลูกค้าโดยตรง หันมาเน้นเจาะกลุ่มผู้รับเหมาที่มีความเชี่ยวชาญงานเฉพาะด้าน ซึ่งได้ทยอยเริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2561 ที่ผ่านมาแล้ว

สำหรับแผนการดำเนินงานในปีนี้ จะรุกขยายสินค้าในพื้นที่โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor :EEC)มากขึ้น เพื่อสนองการลงทุนเมกะโปรเจกต์ของภาครัฐ รวมไปถึงขยายฐานตลาดต่างประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มากขึ้น โดยจะเป็นการขายผ่านตัวแทนจำหน่ายที่เป็นพันธมิตรในท้องถิ่น แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้

ทั้งนี้ที่ผ่านมาบริษัทฯได้เข้าไปทำตลาดในประเทศเมียนมา,เวียดนาม,ลาวและกัมพูชาแล้ว โดยเฉพาะเมียนมา ได้รับผลตอบรับดีมียอดขายเป็นอันดับ1 มีส่วนแบ่งตลาด 45-50% เนื่องจากพฤติกรรมชาวเมียนมาเปลี่ยนจากการใช้ปูนขาวมาใช้กาวซีเมนต์-ยาแนวมากขึ้น ส่งผลให้ยอดขายรวมจากต่างประเทศที่ผ่านมามีสัดส่วน 12% จากยอดขายรวม 2,700 ล้านบาท ในปี 2561 ที่ผ่านมา และสัดส่วนดังกล่าวเป็นยอดขายจากผลิตภัณฑ์กาวซีเมนต์-ยาแนว ประมาณ 2,000 ล้านบาท อย่างไรก็ตามในปีนี้คาดว่ายอดขายรวมจะมีอัตราการเติบโตที่ 5%

อย่างไรก็ตามหลังจากที่บริษัทได้รีแบรนด์ ชื่อเดิมจากบริษัท เซอรา ซี-เคียว จำกัด เป็น บริษัท จระเข้ คอร์ปอเรชั่น จำกัด เมื่อปลายเดือนมีนาคม 2560 ที่ผ่านมา  ปรากฏว่าลูกค้าให้การตอบรับดี เนื่องจากจดจำแบรนด์ได้ง่ายกว่า

ส่วนความคืบหน้าการนำบริษัทฯเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์(SET)นั้นยังเป็นไปตามแผนคือปี 2564 แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้

ปัจจุบันที่สินค้าของบริษัทฯมีทั้งสิ้น 3 กลุ่ม คือ1. นวัตกรรมปูกระเบื้อง คิดเป็นสัดส่วนยอดขาย 60-70% 2.เคมีภัณฑ์ สัดส่วนยอดขาย 20 % และ3.คัลเลอร์อีโนเวชั่น  สัดส่วนยอดขายประมาณ 10%