ทีค ดีเวลลอปเม้นท์ฯวอนรัฐเร่งออกมาตรการกระตุ้นภาคอสังหาฯ เปิดแผนปี62 ผุด 4 โครงการ รวมมูลค่า 1,600 ล้านบาท เตรียมเปิดพรีเซล “เดอะ ทีค รัชดา19” 11-12 พ.ค.62 นี้ คาดปิดการขายได้ภายใน 6 เดือน เล็งขยายฐานตลาดแนวราบ ย่านบางนา ระบุจบดีลซี้อที่ดินเร็วพร้อมพัฒนาทันที ตั้งเป้ารับรู้รายได้แตะ 300 ล้านบาท
นายวรุตม์ ภาณุพัฒนพงศ์ กรรมการบริหาร บริษัท บิวเดอสมาร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ BSM และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีค ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด บริษัทในเครือ BSM เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)มีการประกาศใช้มาตรการกำกับสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย Loan to Value (LTV) เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2562 ที่ผ่านมา ต้องยอมรับว่ามีผลกระทบกับภาคธุรกิจอสังหาฯในภาพรวม โดยเฉพาะคอนโดฯ แต่ก็ถือว่าเป็นมาตรการควบคุมการเก็งกำไรที่ดี แต่การพัฒนาคอนโดฯของบริษัทฯไม่มีผลกระทบแต่อย่างใด เนื่องจากเน้นพัฒนาเพื่อเจาะกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการซื้ออยู่อาศัยจริง  แต่ขณะเดียวกันก็อยากให้ภาครัฐออกมาตรการออกมากระตุ้นเพื่อช่วยเหลือภาคอสังหาฯบ้าง อาทิ การลดภาษีการโอน ภาษีธุรกิจเฉพาะ เป็นต้น

 

สำหรับแผนการดำเนินงานของบริษัทฯในปี 2562 จะเปิดตัวทั้งหมด 4 โครงการ รวมมูลค่าประมาณ 1,600 ล้านบาท  ซึ่งเป็นการพัฒนาคอนโดฯโลว์ไรส์ภายใต้แบรนด์ “เดอะ ทีค”(The TEAK) สูง 8 ตั้งอยู่บนพื้นที่ตั้งแต่ 200-400 ตารางวา จำนวน 79 ยูนิต ราคาเฉลี่ยไม่เกิน 100,000 บาท/ตารางเมตร ซึ่งไตรมาส1/2562 ได้เปิดตัวไปแล้ว 1 โครงการ คือ “เดอะ ทีค สาทร-ลุมพินี”ขณะนี้มียอดขายแล้วประมาณ 70%

และในไตรมาส2/2562  นี้เตรียมเปิดตัวโครงการ “เดอะ ทีค รัชดา19” ตั้งอยู่บนพื้นที่ 270 ตารางวา ขนาด 30.40-38.82 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้นที่ 3.99-6 ล้านบาท หรือราคาเฉลี่ย 140,000 บาท/ตารางเมตร จำนวน 79 ยูนิต มูลค่าโครงการ 400 ล้านบาท โดยจะเปิดพรีเซลในวันที่ 11-12 พฤษภาคม 2562 นี้ คาดว่าจะสามารถทำยอดขายได้เกิน 50% และสามารถปิดการขายได้ภายในระยะเวลา 6 เดือน

ส่วนอีก 2 โครงการคือ “เดอะ ทีค อารีย์”จะเปิดตัวในไตรมาส3/2562 และ “เดอะ ทีค นางลิ้นจี่”จะเปิดในไตรมาส4/2562

“เราเลื่อนการเปิดตัวโครงการ “เดอะ ทีค สาทร-ลุมพินี”และ “เดอะ ทีค รัชดา19” จากปี2561 มาเปิดตัวในปี 2562 แทน เนื่องจากต้องรอให้การก่อสร้างสำนักงานขายแล้วเสร็จก่อน และคอนโดฯที่เราพัฒนาจะไม่มีห้องขนาด 2 ห้องนอน แต่จะมี 1 ห้องนอน และ 1 ห้องนอน PLUS เท่านั้น เนื่องจากเน้นกลุ่มเป้าหมายที่เป็นคนรุ่นใหม่ อยู่อาศัยเพียง 1-2 คนเท่านั้น ซึ่งที่ผ่านมาก็ได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดี”วรุตม์ กล่าว

 

นายวรุตม์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในอนาคตบริษัทฯยังมีแผนที่จะขยายไลน์ธุรกิจไปยังตลาดแนวราบด้วย ซึ่งให้ความสนใจที่ดินทำเลย่านบางนา เนื่องจากมีแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งอยู่ใกล้พื้นที่โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor:EEC)โดยสนใจที่จะพัฒนาในรูปแบบของทาวน์เฮาส์ หรือบ้านแฝด 3 ชั้น ใช้พื้นที่ประมาณ 10 ไร่ขึ้นไป ขณะนี้อยู่ในระหว่างการเจรจาซื้อที่ดิน หากการเจรจาประสบความสำเร็จก็จะพัฒนาในปีนี้ ซึ่งจะเป็นการสร้างแบรนด์ใหม่ขึ้นมาพัฒนา แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้

 

อย่างไรก็ตามในปี 2562 บริษัทฯได้ตั้งเป้ารายได้อยู่ที่ 300 ล้านบาท เนื่องจากในปัจจุบันมียอดขายรอโอน (backlog) อยู่ที่ 600 ล้านบาท โดยบริษัทคาดว่าในปีนี้จะมีการรับรู้รายได้จากโครงการ เดอะ ทีค สุขุมวิท 39 และโครงการ เดอะ ทีค สาทร-ลุมพินี ประมาณ 300-400 ล้านบาท ที่จะเริ่มทยอยรับรู้รายได้ตั้งแต่ไตรมาส 2/2562 เป็นต้นไป และที่เหลือจะมีการรับรู้รายได้อย่างต่อเนื่อง