กลุ่มเจ้าสัวเจริญเซ็นสัญญากลุ่มแมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล เข้าบริหารโรงแรมหรูระดับ 6 ดาว “เดอะ ริทซ์-คาร์ลตัน”เจาะลูกค้าต่างชาติถึง 70% ส่วนคอนโดฯระดับอัลตร้าลักชัวรี่ พร้อมเปิดขายปลายปีนี้ คาดอาคารแรกแล้วเสร็จพร้อมเปิดบริการปี 66 และแล้วเสร็จทั้งโครงการปี68 

นายปณต สิริวัฒนภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ลิมิเต็ด เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการลงทุนโครงการ “วัน แบงค็อก” (One Bangkok)ว่าเป็นการร่วมทุนระหว่าง บริษัท ทีซีซี แอสเซ็ทส์ และบริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้  โฮลดิ้งส์ (ประเทศไทย)ลิมิเต็ด โดยมีเป้าหมายที่จะพลิกโฉมพื้นที่ 104 ไร่ บริเวณหัวมุมถนนพระราม4-วิทยุ ให้เป็นเมืองแห่งความครบครันเพื่อการใช้ชีวิตที่สมบูรณ์แบบแห่งแรกของประเทศไทย เป็นศูนย์กลางของกรุงเทพฯ ที่จะดึงดูดบริษัททั้งในประเทศและบริษัทข้ามชาติชั้นนำจากต่างประเทศให้เข้ามาตั้งสำนักงานใหญ่ประจำภูมิภาคประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(AEC) ประกอบด้วยอาคารสำนักงาน โรงแรม ที่พักอาศัย พื้นที่ค้าปลีก และศูนย์ศิลปะและวัฒนธรรม คิดเป็นมูลค่าลงทุนประมาณ 120,000 ล้านบาท   ขณะนี้การก่อสร้างอาคารแรก ซึ่งมีความสูง 50 ชั้น โดยชั้น 1-25 จะเป็นในส่วนของโรงแรมหรู ล่าสุดได้ลงนามสัญญากับ แมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล เพื่อบริหารโรงแรม ภายใต้แบรนด์ “เดอะ ริทซ์-คาร์ลตัน” ระดับ 6 ดาว จำนวน 259 ห้อง ใช้งบลงทุนกว่า 5,000 ล้านบาท ด้านราคาเข้าพักขณะนี้อยู่ในระหว่างการศึกษา จึงยังไม่สามารถเปิดเผยได้ โดยจะเน้นลูกค้าต่างชาติในสัดส่วน 70% และลูกค้าไทย 30% 

ส่วนชั้น 26-50 จะเป็นพัฒนาเป็นที่อยู่อาศัย คอนโดฯหรูระดับอัลตร้าลักชัวรี่ ขนาด 2-4 ห้องนอน พื้นที่เริ่มต้นตั้งแต่  130 ตารางเมตรต่อยูนิต จำนวน 110 ยูนิต โดยทางบริษัทจะดำเนินการบริหารเอง จะมีการเปิดตัวช่วงปลายในปี 2562 นี้ ด้านการก่อสร้างได้เร่ิมดำเนินการไปเมื่อปี 2561 ที่ผ่านมา โดยงานเสาเข็มจะแล้วเสร็จภายในเดือนมิถุนายน 2562 ส่วนงานโครงสร้างใต้ดิน ขณะนี้อยู่ในระหว่างการกำลังดำเนินการเช่นกัน และเป็นไปตามแผนงานที่วางไว้  คาดว่าจะแล้วเสร็จและเปิดให้บริการได้ในปี 2566 นอกจากนี้จะมีการเปิดตัวอาคารอื่นๆ ในปีนี้ และคาดแล้วเสร็จทั้งโครงการปี 2568 

ด้านนางสาวซู หลิน ซูน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารโครงการ วัน แบงค็อก กล่าวว่า สถานการณ์เศรษฐกิจและการเมืองไทยขณะนี้ ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของชาวต่างชาติที่จะเข้ามาลงทุนในไทย เพราะเป็นประเทศที่ฟื้นตัวเร็ว และด้วยศักยภาพในการเป็นผู้นำการท่องเที่ยว การลงทุนทางธุรกิจ เป็นประตูสู่กลุ่มประเทศกัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม (CLMV)และเป็นศูนย์กลางการขนส่งของอาเซียน จึงมีศักยภาพที่จะลงทุนต่อเนื่องในระยะยาว 

สำหรับภาพรวมตลาดพื้นที่ย่านพระราม4 นั้นในอนาคตจะมีโครงการมิกซ์ยูส อีกเป็นจำนวนมาก  ในขณะเดียวกันโครงการ “วัน แบงค็อก” ก็เป็นการพัฒนาโครงการแบบผสมผสาน(มิกซ์ยูส) ซึ่งเป็นรูปแบบการพัฒนาในเมืองใหญ่ โดยในโครงการจะมีการร่วมพัฒนากับพันธมิตรหลายหลายจากต่างชาติ แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ในขณะนี้