แสนสิริฯ ดึง 5 ดีไซน์เนอร์ระดับโลกร่วมออกแบบห้องชุดระดับลักชัวรี่-ซูเปอร์ลักชัวรี่ จำนวน 11 ยูนิต จาก 3 โครงการ หวังสร้างการรับรู้แบรนด์ระดับนานาชาติ คาดยูนิตแรกพร้อมเปิดโฉมในโครงการ “THE MONUMENT Thong Lo” ก.ค.นี้ คาดดันยอดขายกลุ่มระดับพรีเมียมโต 5%

นายนพปฎล พหลโยธิน ประธานผู้บริหารฝ่ายสร้างสรรค์ บริษัทแสนสิริ จำกัด (มหาชน)หรือ SIRI เปิดเผยว่า จากรายงานของ The Wealth Report โดย Knight Frank ประจำปี 2562 พบว่าจำนวนของอสังหาริมทรัพย์ระดับลักชัวรี่ และซูเปอร์ลักชัวรี่พัฒนาขึ้นในจำนวนจำกัดและหายากในยุคปัจจุบัน ทำให้กลุ่มบุคคลที่มีสินทรัพย์ในระดับสูงทั่วโลก (UHNW) ซึ่งมีจำนวนเพิ่มขึ้น 150,000 คน/ปี วางแผนลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ระดับลักชัวรี่มากขึ้น เปรียบเสมือนลงทุนในของรักของสะสมที่มาจากความรักและความหลงใหลที่สร้างมูลค่าเหนือกาลเวลา ด้วยมูลค่าการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ส่วนตัวทั่วโลกถึง 289,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2561  ซึ่งโครงการระดับลักชัวรี่จะนิยมเจาะกลุ่มเป้าหมายที่เป็นลูกค้าระดับ UHNW ที่มีทรัพย์สินเกิน  1,600 ล้านบาท (50 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ)

สำหรับในประเทศไทย จากรายงานของบริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด พบว่ามูลค่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ระดับลักชัวรี่ปี2555-2561 มีการเติบโตค่าเฉลี่ยปีละ7% โดยเฉพาะกลุ่มคอนโดฯระดับลักชัวรี่มียอดการตอบรับเฉลี่ยจากปี 2557-2561 เฉลี่ยสูงถึง 70% และอุปสงค์มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และกว่า31% ของโครงการลักชัวรี่ทั้งหมดในตลาดสามารถขายหมดได้อย่างรวดเร็วภายในระยะเวลาไม่เกิน 1 ปี ขณะที่โครงการทั่วไปจาก 417 โครงการจะมีเพียง 20% เท่านั้นที่สามารถขายหมดได้เร็วกว่า 1 ปี อสังหาริมทรัพย์ในกลุ่มลักชัวรี่ยังให้อัตราผลตอบแทนการลงทุนเฉลี่ยสูงถึง 7-10% โดยเฉพาะโซนสุขุมวิทชั้นในจนถึงทองหล่อมีอัตราผลตอบแทนการลงทุนระดับสูงที่ราว 9.5%


ทั้งนี้แสนสิริฯมองเห็นถึงศักยภาพจากปัจจัยส่งเสริมหลาย ๆ ด้านที่มีต่อตลาดอสังหาริมทรัพย์ระดับลักชัวรี่และซูเปอร์ลักชัวรี่ จึงเปิดตัว “Sansiri Luxury Collection” เพื่อยกระดับแบรนด์สู่การเป็น “Global Luxury Brand” ขยายภาพลักษณ์แบรนด์ระดับลักชัวรี่ในตลาดต่างประเทศ และพลิกโฉมใหม่ของวงการอสังหาฯและวงการออกแบบตกแต่งในฐานะผู้นำในตลาดอสังหาริมทรัพย์ของประเทศไทย ซึ่งปัจจุบันแสนสิริฯมี 4 โครงการ ประกอบด้วย ซูเปอร์ลักชัวรี่ 2 โครงการ คือ 98 Wireless (ไนน์ตี้เอท ไวร์เลส) แฟล็กชิพคอนโดมิเนียมระดับซูเปอร์ลักชัวรี่ ,Baan Sansiri Pattanakarn (บ้านแสนสิริ พัฒนาการ) แฟล็กชิพบ้านเดี่ยวระดับซูเปอร์ลักชัวรี่  และคอนโดมิเนียมระดับลักซ์ชัวรี่ 2 โครงการ คือ  THE MONUMENT Thong Lo (เดอะ โมนูเมนต์ ทองหล่อ)  และ KHUN by YOO Inspired by Starck (คุณ บาย ยู อินสไปร์ บาย สตาร์ค) จากแนวคิดภายใต้ 4 ปรัชญา คือ World-Class / Iconic Design งานดีไซน์ระดับเวิลด์คลาสหรือระดับไอคอนิก,Finest Materials วัสดุในการสรรค์สร้างโครงการอันทรงคุณค่าเหนือกาลเวลา, Craftsmanshipความประณีตบรรจงดั่งงานศิลป์ในทุกรายละเอียด และ Curated Services การยกระดับบริการที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ระดับไฮเอนด์

นอกจากนี้ แสนสิริ ยังให้ความสำคัญในการสร้างมูลค่าเพิ่มในการอยู่อาศัย ที่มีความโดดเด่นของดีไซน์ในระดับเวิลด์คลาส ด้วยการยกระดับมาตรฐานเพื่อสร้างความแตกต่างในตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยให้เป็นแบรนด์ที่ยอมรับในระดับโลก โดยร่วมมือกับInternational Design Talents” ที่ติดอันดับTop100 ระดับโลก มีผลงานในการออกแบบโรงแรมและไพรเวทเรสซิเดนท์ดังทั่วโลก มาร่วมออกแบบโครงการระดับลักชัวรี่และซูเปอร์ลักชัวรี่ ของแสนสิริฯ จำนวน 3 โครงการ รวม 11 ยูนิต ได้แก่ THE MONUMENT Thong Lo คือแบบขนาด 2 ห้องนอน 2 ยูนิต,ขนาด 4 ห้องนอน 2 ยูนิต และเพนท์เฮาส์ 2 ยูนิต จากที่เปิดขายทั้งหมด 127 ยูนิต รวมมูลค่าโครงการ 6,500 ล้านบาท  ,บ้านแสนสิริ ขนาด 548 ตารางเมตร จำนวน 1 ยูนิต  และ KHUN by YOO จำนวน 4 ยูนิต คือแบบขนาด 2 ห้องนอน,4 ห้องนอน และเพนท์เฮาส์ ส่วนมูลค่ารวมยังไม่สามารถเปิดเผยได้ ซึ่งต้องรอให้การออกแบบแล้วเสร็จก่อน

โดยInternational Design Talents”  ประกอบด้วย 1.Gert Voorjans (เกิร์ท วอร์จานส์) ดีไซเนอร์นักตกแต่งจาก Antwerp ประเทศเบลเยียม ที่เคยออกแบบหน้าร้านให้กับแฟล็กชิปสโตร์แบรนด์ไฮเอนด์แฟชั่นระดับโลก Dries Van Noten ในสไตล์การตกแต่งแบบ “Eclectic” (อิเคลคทิค) โดยจะมาออกแบบห้องชุดยูนิตพิเศษในโครงการTHE MONUMENT Thong Lo

 

2.Lorenzo Castillo (โลเรนโซ คาสติลโญ) ดีไซเนอร์นักตกแต่งชาวสเปนกับการตกแต่งสไตล์Classic with Modern Spirit ที่สร้างสรรค์ผลงานมากมายทั่วโลกรวมถึงการตกแต่งร้านให้กับแบรนด์แฟชั่นไฮเอนด์ระดับโลก LOEWE ที่สเปน เซี่ยงไฮ้ และฮ่องกง ซึ่งจะมาร่วมตกแต่งภายในห้องชุดและเพนท์เฮาส์ในโครงการ THE
MONUMENT Thong Lo

 

3.Hutton Wilkinson (ฮัตตัน วิลคินสัน) ดีไซเนอร์นักตกแต่งชาวอเมริกันกับสไตล์การตกแต่งที่ผสมผสานแอนทีคเฟอร์นิเจอร์เข้ากับสีสันและลวดลายที่ฉูดฉาด รวมถึงพรสวรรค์ในการออกแบบจิวเวลรี่ โดยฮัตตันจะมาร่วมตกแต่งภายในห้องชุดและเพนท์เฮ้าส์ที่โครงการ THE MONUMENTThong Lo

 

4.Mary Fox Linton (แมรี่ ฟอกซ์ ลินตัน) นักออกแบบและตกแต่งชื่อดังชาวอังกฤษที่โดดเด่นด้วยสไตล์การออกแบบที่เรียบหรู Modern Contemporary โดยไม่ทิ้งกลิ่นอายความงดงามตามแบบฉบับผู้ดีอังกฤษ ซึ่งจะมาตกแต่งบ้านที่โครงการบ้านแสนสิริ

 

และ5.Philippe Starck (ฟิลิปป์ สตาร์ค) ดีไซเนอร์และนักออกแบบผลิตภัณฑ์ชาวฝรั่งเศสผู้สร้างชื่อในแวดวงการออกแบบผลิตภัณฑ์การตกแต่งภายใน และความร่วมมือล่าสุดกับแสนสิริและYOO Design Studio พัฒนาคอนโดมิเนียม KHUN by YOO inspired by Starck

ทั้งนี้ International Design Talents” ทั้ง 5 ได้ร่วมดำเนินการออกแบบแล้วตั้งแต่ไตรมาส3/2561 ที่ผ่านมา โดยค่าออกแบบของดีไซน์เนอร์ทั้ง 5 รายนั้นจะอยู่ระดับราคาที่ใกล้เคียงกัน เฉลี่ยต่อโครงการจะเป็นตัวเลข 7 หลัก คาดว่าออกแบบตกแต่งจะเริ่มทยอยแล้วเสร็จตั้งแต่เดือนกรกฎาคม-ธันวาคม 2562 นี้ โดยยูนิตแรกที่จะแล้วเสร็จคือห้องแบบขนาด 2 ห้องนอน ในโครงการ THE MONUMENTThong Lo  และในอนาคตยังมีแผนจะดึงInternational Design Talents” ระดับโลกรายอื่นมาร่วมออกแบบโครงการในอนาตอย่างต่อเนื่อง

“การร่วมมือกับดีไซน์เนอร์ระดับโลก จะช่วยสร้างแบรนด์ให้กับแสนสิริฯในการขยายตลาดต่างประเทศได้เป็นอย่างมาก ซึ่งจะสร้างความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์ โดยสัดส่วนลูกค้า 80%จะเป็นคนไทยและอีก 20% เป็นชาวต่างชาติ ที่ส่วนใหญ่ยังนิยมซื้ออสังหาฯในประเทศไทย เนื่องจากมองว่ายังมีศักยภาพในการลงทุน” นายนพปฎล กล่าว

ปัจจุบัน แสนสิริฯ มีพอร์ตโฟลิโอโครงการภายใต้ Sansiri Luxury Collection ซึ่งประกอบด้วยอสังหาริมทรัพย์เซกเมนต์ S และ A ทั้งหมด 4 โครงการรวมมูลค่ากว่า 22,000 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นกลยุทธ์สำคัญที่แสนสิริฯจะนำมาใช้ในการสร้างเอกลักษณ์และการจดจำเกี่ยวกับคุณภาพของแบรนด์ให้กับกลุ่มลูกค้าในระดับลักชัวรี่และซูเปอร์ลักชัวรี่ในกลุ่มลูกค้าต่างชาติและรักษาความเป็นผู้นำในตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทย โดยคาดว่าความสำเร็จจากกลยุทธ์ Sansiri Luxury Collection จะช่วยผลักดันให้บริษัทสามารถบรรลุเป้าหมายการขายในเซกเมนต์ S และ A ด้วยมูลค่ารวมกว่า 4,500 ล้านบาท ในปี 2562 ได้อย่างแน่นอน หรือเติบโตประมาณ 5% จากปีที่ผ่านมา