ระหว่างรอการจัดตั้งรัฐบาลที่ลงตัวและอย่างเป็นทางการ prop2morrow จึงขอนำเสนอนโยบายที่เอื้อต่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ของ 4 พรรคการเมืองใหญ่ที่ได้เคยประกาศไว้ในช่วงหาเสียงก่อนการเลือกตั้งว่าแต่ละพรรคที่จัดตั้งรัฐบาลขึ้นมา จะสามารถดำเนินการได้ตามที่ประกาศไว้หรือไม่ เริ่มจาก

 

พรรคพลังประชารัฐ

-สานต่อโครงการบ้านล้านหลัง ให้ทุกคนมีที่อยู่อาศัย

-แก้ปัญหาที่ดินทำกิน เร่งออกสารสิทธิในที่ดินที่ประชาชนมีกรรมสิทธิ์โดยชอบ เดินหน้าพิสูจน์สิทธิ์ในที่ดินซึ่งเป็นกรณีโต้แย้งระหว่างรัฐกับราษฎร 

-พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานแห่งอนาคต การที่จะปรับโครงสร้างเศรษฐกิจในครั้งนี้ จำเป็นจะต้องมีการลงทุนขนาดใหญ่ เน้นโครงสร้างพื้นฐานทางดิจิทัล โดยเฉพาะ 5G

 

พรรคเพื่อไทย

 -ไทยเชื่อมไทย พัฒนาระบบคมนาคมขนส่งเชื่อมโยงทั่วประเทศ

 

พรรคประชาธิปัตย์

– ประกันรายได้แรงงาน 120,000 บาท/ปี

– โฉนดสีฟ้า ยกระดับ ส.ป.ก. ให้ที่ดิน ส.ป.ก. สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนของรัฐ

– Smart Bus รถเมล์ไฟฟ้าทั้งระบบ ไร้ฝุ่น มลพิษ เชื่อมต่อรถไฟฟ้าและเรือ เปลี่ยนรถเมล์ในกรุงเทพฯ

– สิทธิการเช่าแฟลตการเคหะฯ กู้เงินได้ ให้สัญญาเช่าแฟลตของการเคหะแห่งชาติเป็นเอกสารสิทธิ ที่ผู้เช่าสามารถนำมากู้ยืมเงินจากธนาคารได้

– City OK App ส่งปัญหา แก้ไขทันที ขอใบอนุญาตก่อสร้างง่าย โปร่งใส แจ้งปัญหา เช่น ถนนเสียหรือท่อระบายน้ำตัน รัฐจะแก้ไขทันที 

 

พรรคอนาคตใหม่

– สร้างระบบขนส่งสาธารณะเพื่อทุกคน



PS-PF-CMC
โอดแบงก์ลดคุมเข้มปล่อยสินเชื่อเรียลดีมานด์

นายปิยะ ประยงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจพฤกษา เรียลเอสเตทแวลู บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด(มหาชน)หรือPS เปิดเผยว่า  ต้องการให้เรียลมานด์เข้าถึงสินเชื่อได้ง่าย หากรัฐบาลใหม่จัดตั้งได้เร็ว ก็จะสร้างความเชื่อมั่นของนักลงทุนและกำลังซื้อกลับมา เพราะการลงทุนของภาคเอกชนจะต้องไม่เกิดเกียร์ว่าง  ส่วนการปรับขึ้นค่าแรง จะทำให้ความสมารถในการแข่งขันลดลง และส่งผลให้ต้นทุนทุกอย่างปรับขึ้นทั้งหมด ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นปัญหาในทุกภาคอุตสาหกรรม รวมไปถึงการส่งออกก็จะมีปัญหาด้วยเช่นกัน  แต่เชื่อว่าโดยภาพรวมแล้วคงปรับขึ้นค่าแรงได้ยาก

ด้านนายวงศกรณ์ ประสิทธิ์วิภาต ประธานเจ้าหน้าที่กลุ่มพัฒนาธุรกิจ บริษัทพร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน)หรือ PF กล่าวว่า ต้องการให้รัฐบาลใหม่มีกลไกที่กำจัดการเก็งกำไรออกไปจากตลาดอสังหาฯ และอยากให้ผู้ซื้อที่อยู่อาศัยเพื่ออยู่จริงสามารถเข้าถึงแหล่งเงินกู้ได้ เพื่อที่จะสามารถโอนกรรมสิทธิ์ได้ง่ายขึ้น  เพราะตั้งแต่ต้นปี 2562 ที่ผ่านมาสถาบันการเงินมีการเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อรายย่อยมากขึ้นกว่าปี 2561 ที่ผ่านมาอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งคงเป็นการเตรียมพร้อมเข้าสู่มาตรการกำกับสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย (Loan to Value: LTV) ของธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)ที่จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 เมษายน 2562 นี้

 

ส่วนเรื่องค่าแรงที่บางพรรคการเมืองมีนโยบายจะปรับขึ้นนั้น เชื่อว่าหากทำให้เกิดความสมดุล คือปรับขึ้นมาเพียง 3-4%ผลกระทบก็จะไม่มาก แต่หากมีการปรับขึ้นค่าแรงมากเกิน 10% ตลาดก็ช็อกได้ การเปิดตัวโครงการใหม่ก็จะชะลอตัวลง เพราะต้นทุนการก่อสร้างจะสูงมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

นางสาวอนงค์ลักษณ์ แพทยานันท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เจ้าพระยามหานคร จำกัด (มหาชน)หรือ CMC กล่าวว่า อยากให้รัฐบาลใหม่มีมาตรการที่ให้ผู้ที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่าย แม้ที่ผ่านแม้รัฐบาลจะส่งเสริมให้คนมีบ้าน  แต่ลูกค้าส่วนใหญ่ไม่มีศักยภาพในการกู้ เพราะไม่มีเงินก้อนใหญ่ เนื่องจากส่วนใหญ่ยังไม่มีวินัยการออมเงิน แต่ด้วยเงื่อนไขของสถาบันการเงินที่สูง ทำให้สวนทางกัน เพราะราคาบ้านและที่ดินก็มีต้นทุนที่ชัดเจนอยู่แล้ว แต่รายได้ของประชาชนก็วิ่งไม่ทันต้นทุนดังกล่าว จึงอยากให้รัฐบาลชุดใหม่ช่วยเหลือในเรื่องนี้

 

ส่วนการปรับขึ้นค่าแรงเป็นเรื่องที่ดี ซึ่งหมายถึงว่าลูกจ้างก็ต้องมีขีดความสามารถที่เพิ่มขึ้นด้วย โดยจะต้องพิจารณา 2 ด้าน  มิเช่นนั้นผู้บริโภคก็จะต้องแบกรับภาระ ที่ผู้ประกอบการจะต้องปรับราคาสินค้าให้สูงขึ้นอีก หรือผู้ประกอบการอาจจะหันไปใช้หุ่นยนต์ที่ทดแทนแรงงาน ซึ่งมีประสิทธิภาพที่ดี ดังนั้นผลที่จะตามมาคือการตกงานของแรงงาน

CHEWAวอนออกมาตรการกระตุ้นอสังหาฯ-ขึ้นค่าแรงเจอเงินเฟ้อแน่

นายบุญ ชุน เกียรติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชีวาทัย จำกัด(มหาชน)หรือ CHEWA กล่าวว่า อยากให้รัฐบาลชุดใหม่มีนโยบายที่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการลงทุนด้านเมกะโปรเจกต์ เพราะขณะนี้เริ่มมีกลุ่มนักลงทุนจากต่างชาติเข้ามาลงทุนอย่างต่อเนื่อง หากยกลิกโครงไป นักลงทุนก็จะหายไปหมด  อีกทั้งอยากให้มีมาตรการมากระช่วยเหลือภาคอสังหาฯ ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของGDP ที่จะผลักดันให้เศรษฐกิจในประเทศเติบโต ด้วยการปล่อยสินเชื่อให้มากขึ้น เพื่อกระตุ้นให้มีการโอนกรรมสิทธิ์มากขึ้น อีกทั้งภายในระยะเวลา 2-3 ปีข้างหน้าต้องการเห็น GDP มีอัตราการเติบโตเกิน 4%

 

ส่วนการที่บางพรรคมีนโยบายจะปรับขึ้นค่าแรงนั้น เชื่อว่าจะส่งผลกระทบทั้งตลาด ถือว่าเป็นการกระตุ้นให้เกิดอัตราเงินเฟ้อ ผู้ประกอบการจะมีต้นทุนที่สูงขึ้น สุดท้ายเงินค่าแรงที่ปรับขึ้นก็ต้องนำมาใช้จ่ายสินค้าที่สูงขึ้นเช่นกัน จึงไม่ใช่วิธีการแก้ปัญหาที่ถาวร


“กานดา”แนะทบทวนกฎหมายลูกภาษีที่ดินฯ

นายอิสระ บุญยัง กรรมการผู้จัดการ บริษัท กานดา พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด กล่าวว่า ที่ผ่านมาจะเห็นหลายพรรคประกาศนโยบายในช่วงหาเสียง แต่ไม่มีพรรคการเมืองไหนจะประกาศช่วยเหลือภาคอสังหาฯอย่างชัดเจน แต่การเลือกตั้งปี 2562 นี้ มีเพียงพรรคพลังประชารัฐ เท่านั้นที่มีนโยบายช่วยเหลือภาคอสังหาฯอย่างชัดเจน แต่อย่างไรก็ตามไม่ว่าพรรคการเมืองไหน จะได้จัดตั้งรัฐบาลก็เชื่อว่าจะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้ดีขึ้น ซึ่งภาคอสังหาฯก็จะได้รับอานิสงส์ไปด้วย  อีกประการคือในช่วงที่แต่ละพรรคการเมืองกำลังรวบรวมพรรคการเมืองอื่นเพื่อจัดตั้งรัฐบาล ก็ไม่อยากเห็นความขัดแย้ง เพื่อให้เศรษฐกิจและภาคธุรกิจไม่หยุดชะงัก และขับเคลื่อนไปได้ด้วยดี

 

อยากฝากรัฐบาลชุดใหม่ช่วยพิจารณาหรือทบทวนกฎหมายลูกของภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ…. ที่กำลังจะทยอยออกมากและจะประกาศใช้ในวันที่ 1 มกราคม 2563 นั้นอีกครั้ง เพื่อไม่ให้กระทบต่อภาคธุรกิจอสังหาฯและไม่เป็นภาระแก่ผู้บริโภค” นายอิสระ กล่าว

 

นายอิสระ กล่าวเพิ่มเติมว่า แม้จะมีการเลือกตั้งไปแล้ว แต่เชื่อว่าผู้ประกอบการอสังหาฯก็ยังคงจะชะลอการเปิดตัวโครงการใหม่ เนื่องจากยังต้องเฝ้าระวังไปก่อน ประกอบกับมองว่าในช่วงปี 2561 ที่ผ่านมา มีการเปิดตัวโครงการกันค่อนข้างมากแล้ว และเป็นปีที่มีการโอนกรรมสิทธิ์มากที่สุด อีกทั้งมีการปล่อยสินเชื่อรายย่อยมากที่สุดในรอบ 20 ปี

 

ส่วนเรื่องที่บางพรรคการเมืองมีนโยบายจะปรับขึ้นค่าแรงนั้น มองว่ามีทั้งผลบวกและผลลบ โดยการขึ้นค่าแรงนั้นต้องควบคู่ไปกับเศรษฐกิจในประเทศด้วย ซึ่งต้องมีการพิจารณากันอย่างเหมาะสม หากขึ้นมาโดยไม่มีมาตรฐานก็จะได้แรงงานที่ไม่มีทักษะ ไม่มีคุณภาพ ดังนั้นควรที่จะมีการกำหนดตมาตรฐานฝีมือแรงงานตามประเภทต่างๆด้วย

 

ถือเป็นเสียงสะท้อนส่วนหนึ่งของผู้ประกอบการอสังหาฯที่ต้องการให้รัฐบาลชุดใหม่ออกมาตรการที่เป็นยาแรงมาช่วยกระตุ้นภาคธุรกิจอย่างแท้จริง เพราะถือว่าเป็นหนึ่งในธุรกิจที่เป็นกลไกขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศให้เดินหน้าต่อไป ซึ่งคงต้องจับตาดูกันต่อไป