แสนสิริ ประกาศร่วมมืออาวดี้ ประเทศไทย นำ Audi e-tron รถยนต์ลักซ์ชัวรี่พลังงานไฟฟ้า ราคา 5.09 ล้านบาท มาใช้ภายในโครงการหรูระดับราคา 30 ล้านบาทขึ้นไปเป็นครั้งแรก ประเดิมสั่ง 20 คัน มูลค่ากว่า 100 ล้านบาท คาดปลายปี62 ทยอยส่งมอบผู้บริหารSIRIทดสอบใช้ 5 คันแรก ก่อนส่งไม้ต่อลูกค้าโครงการหรูใช้บริการ นำร่อง“เดอะ โมนูเม้นท์ ทองหล่อ” และ “เดอะ โมนูเม้นท์ สนามเป้า” อนาคตเล็งแลกสิทธิประโยชน์มอบส่วนลดสินค้าลูกค้า 2 องค์กร

นายอภิชาติ จูตระกูล ประธานอำนวยการ บริษัทแสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI เปิดเผยว่า บริษัทฯได้ตระหนักถึงมลภาวะสิ่งแวดล้อมระดับโลกในปัจจุบัน ด้วยวิสัยทัศน์ด้าน Green Mission  และการดำเนินธุรกิจของแสนสิริฯปีนี้ภายใต้แนวคิด “For Greater Well-being”    สอดคล้องกับนโยบายของบริษัท ไมซ์สเตอร์ เทคนิค จำกัด หรือ อาวดี้ ประเทศไทย (Audi Thailand) ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายรถยนต์แบรนด์ Audi   จึงได้ต่อยอดผนึกกำลังสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่เป็นส่วนหนึ่งในระดับโลกได้ เริ่มต้นจากนำ Audi   e-tron รถยนต์ลักซ์ชัวรี่พลังงานไฟฟ้า ราคา 5.09 ล้านบาท  มาใช้ภายในองค์กรแสนสิริอย่างเต็มรูปแบบ  ถือเป็นครั้งแรกในโลกระหว่าง 2 อุตสาหกรรมที่ร่วมมือกัน เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงด้าน Green Ecosystem ครั้งสำคัญ ที่จะสร้างมิติใหม่แห่งวงการ ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของประเทศกับรถยนต์ลักชัวรี่ระดับโลก

นายอุทัย อุทัยแสงสุข ประธานผู้บริหารสายงานปฎิบัติการ  SIRI กล่าวว่า  การร่วมมือครั้งนี้ถือว่าเป็นการร่วมมือระดับโลกเป็นครั้งแรก ซึ่งอาวดี้ฯจะมีส่วนร่วมในการวางแผนตั้งแต่ต้นจนจบกระบวนการ ต่างจากการนำรถยนต์ BMW i3 ที่แสนสิริ ซื้อมาให้บริการเช่า ภายใต้แพลตฟอร์ม “Smart Move” สำหรับลูกค้าคอนโดฯเซกเมนต์ระดับกลาง ราคาตั้งแต่ 4-20 ล้านบาท เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา  ซึ่งนำไปใช้แล้ว 5 โครงการคือ 1. เดอะ ไลน์ จตุจักร 2. เดอะ ไลน์ อโศก รัชดา 3. เดอะ ไลน์ ราชเทวี 4. เดอะ เบส การ์เด้น 5. ทุกโครงการ ใน ฮาบิโตะ มอลล์  (เดอะ เบส พาร์คอีส เดอะ เบส พาร์ค เวส ฮาสุ เฮ้าส์ โมริ เฮ้าส์)  และในปลายปี2562 นี้เตรียมนำไปใช้ในโครงการ เดอะไลน์ สุขุมวิท 101 และ เดอะไลน์ พหลโยธิน

 

สำหรับการร่วมมือกับ อาวดี้ ประเทศไทย ครั้งนี้ จะเป็นการสั่งซื้อรถยนต์ Audi   e-tron มาใช้กับโครงการคอนโดฯระดับลักชัวรี่ ราคาตั้งแต่ 30 ล้านบาทขึ้นไป จำนวนทั้งสิ้น 20 คันละประมาณ 5.09 ล้านบาท รวมมูลค่าประมาณ 100 ล้านบาท ซึ่งเป็นการสั่งในราคาพิเศษ คาดว่าในปลายปี2562 นี้  ซึ่งบริษัทได้สั่งซื้อไปเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา จากออเดอร์รถดังกล่าวทั่วโลกจำนวนกว่า 20,000 คัน คาดว่ารถยนต์ล็อตแรกที่สั่งไปจะเข้ามาในปลายปี2562 นี้ประมาณ 5 คัน และในปี2563 อีกประมาณ 10 คัน และที่เหลือจะทยอยรับภายในปี 2564  ซึ่งระยะแรกจะนำไปใช้สำหรับทดสอบของผู้บริหารของแสนสิริฯก่อน  หลังจากนั้นจะเริ่มนำไปทดลองใช้ในโครงการ “เดอะ โมนูเม้นท์ ทองหล่อ” และ “เดอะ โมนูเม้นท์ สนามเป้า” ที่ราคาเริ่มต้น 30 ล้านบาท ก่อน และโครงการอื่นๆที่เป็นระดับลักชัวรี่ขึ้นไป โดยจะทยอยนำไปทดสอบใช้โครงการละ1-2 คัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับขนาดของโครงการ ส่วนอัตราค่าบริการนั้นขึ้นอยู่กับแต่ละแบรนด์ของโครงการ ซึ่งจะมีราคาที่สูงกว่าหรือใกล้เคียงกับการให้บริการของการใช้บริการรถยนต์ไฟฟ้า  BMW i3  โดยจะเป็นการให้ลูกบ้านจองการใช้รถยนต์ผ่าน “Sansiri Home Application”

“ในอนาคตแสนสิริและอาวดี้ยังคงเป็นพันธมิตรทางธุรกิจร่วมกัน ซึ่งจะมีสิทธิพิเศษอื่นๆ สำหรับลูกค้าทั้ง 2 องค์กร เช่น ลูกค้าแสนสิริสามารถซื้อรถยนต์อาวดี้ได้ในราคาพิเศษ และลูกค้าอาวดี้สามารถซื้อบ้าน-คอนโดฯ ของแสนสิริได้ในราคาพิเศษเช่นกัน” นายอุทัย กล่าว

 

นายอุทัย กล่าวเพิ่มเติมว่า การร่วมมือดังกล่าวจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง 3 ด้าน ทั้งภายในและภายนอกองค์กรแสนสิริ ประกอบด้วย  1. CHANGE to use EV Car : “เปลี่ยน” มาใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้า ส่งเสริมให้ลูกบ้านใช้รถยนต์ไฟฟ้า (Electric Vehicle : EV) เพื่อสร้างโลกสีเขียวที่น่าอยู่ร่วมกัน ทั้งในโครงการแนวราบและแนวสูง โดยเตรียมขยายการติดตั้ง EV charger station ในโครงการใหม่บ้านเดี่ยวระดับเซ็กเม้นท์ B ขึ้นไป โดยเตรียมระบบไฟ 3 เฟสรองรับการใช้งานสำหรับชาร์ตไฟรถ EV car และทุกโครงการคอนโดมิเนียมใหม่ที่สร้างตั้งแต่ปี 2562 เป็นต้นไป นอกจากนี้ยังมอบสิทธิพิเศษในกิจกรรมเอ็กซ์คลูซีฟต่างๆ เช่น การเข้าชม Audi etron ที่ Audi Centre Thailand และเมื่อจองรถ Audi ทุกรุ่น ภายในงาน Motor Show 2019ลุ้นรับ Q7 Black Edition มูลค่า 5.999 ล้านบาท รวมทั้งสิทธิพิเศษ Service Voucher มูลค่า 20,000 บาท

 

2.CHANGE to use Car Sharing : “เปลี่ยน” มาใช้Luxury Electric Car Sharing ร่วมกับอาวดี้ ประเทศไทยส่งเสริมให้ลูกบ้านกลุ่มระดับลักซ์ชัวรี่ของแสนสิริ หันมาใช้ชีวิตแบบ “Luxury Living with Luxury Car Sharing” ด้วยการยกระดับบริการรถยนต์ลักซ์ชัวรี่ไฟฟ้าสำหรับส่วนกลางในโครงการไฮเอ็นด์ใหม่ในปีนี้ ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ลูกบ้านในเมือง สำหรับการเดินทางระยะสั้นในเมืองที่ใกล้บ้านเพียงจองการใช้งานผ่าน Sansiri Home Service Application โดยนำร่องในทุกโครงการใหม่คอนโดมิเนียมระดับไฮเอนด์ เริ่มต้นที่โครงการเดอะ โมนูเม้นท์ ทองหล่อ ในย่านศูนย์กลางการอยู่อาศัย          ที่เหนือระดับ

 

3.CHANGE Corporate Car to EV car : เปลี่ยนรถยนต์ที่ใช้งานภายในองค์กรเป็นระบบไฟฟ้า แสนสิริ เป็นองค์กรแรกในเอเชียในอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ ที่นำ Audi e-tron ยนตกรรมเอสยูวี         พรีเมียมพลังงานไฟฟ้า 100% มาใช้ภายในองค์กร สะท้อนให้เห็นลึกถึงดีเอ็นเอขององค์กร ที่พร้อมมุ่งมั่นอย่างแท้จริง ลงมือทำอย่างจริงจัง ในการร่วมสร้าง Green Ecosystem หรือระบบนิเวศสีเขียวยั่งยืนเหนือขึ้นไปอีกขั้น โดยนำร่องใช้กับผู้บริหาร

 

ความร่วมมือในครั้งนี้ เป็นไปตามวิสัยทัศน์ของแสนสิริ ที่ไม่ได้ต้องการเป็นเพียงผู้นำด้านการพัฒนาที่อยู่อาศัยที่มีคุณภาพเท่านั้น แต่ยังมุ่งมั่นที่จะดูแลคุณภาพชีวิตของลูกบ้าน โครงการแสนสิริ “Sansiri Green Mission” ได้รับการผลักดันอย่างจริงจังในช่วงปีที่ผ่านมา เพื่อขับเคลื่อนองค์กรสู่ความยั่งยืน และตั้งเป้าสร้าง Green Ecosystem ให้สำเร็จภายใน 3 ปี  ประกอบด้วย

-Energy Saving & Generation การพัฒนา เพื่อผลิตพลังงานไฟฟ้าทดแทนให้กับโครงการต่างๆ 

Waste Management แนวคิดในการกำจัดของเสียอย่างมีประสิทธิภาพ

Sustainability ร่วมกับองค์กรกลุ่มอนุรักษ์ต้นไม้ใหญ่ในเมือง จัดการต้นไม้ใหญ่          ในโครงการอสังหาริมทรัพย์ให้มีความยั่งยืน ที่สำคัญยังมีโครงการ

Smart Move แบ่งปันการใช้รถขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า (EV)

-ส่วนกลางสำหรับลูกบ้าน (Sharing Economy)ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์พฤติกรรมปัจจุบันที่เปลี่ยนไปของคนรุ่นใหม่ที่นิยมอาศัยอยู่ในคอนโดมิเนียม               แนวรถไฟฟ้าที่ไม่มีความจำเป็นที่ต้องใช้รถในทุกวัน แต่หากมีความจำเป็นต้องเดินทางเพื่อติดต่องาน หรือเดินทางระยะใกล้ โดยไม่ต้องแบกรับต้นทุนของรถไว้คนเดียว

-รวมถึงการติดตั้ง EV Charger แท่นชาร์จสำหรับรถ EV ในโครงการของแสนสิริ เพื่อตอบรับกับเทรนด์การใช้รถ EV ที่จะมาถึงในอนาคตอย่างครบวงจร

 

ส่วนการติดตั้งที่ชาร์จแบตเตอร์รี่รถยนต์ไฟฟ้าโดยร่วมกับบริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด(มหาชน)หรือEA นั้นปัจจุบันได้ติดตั้งไปแล้วกว่า 30 สถานี ใน 20 โครงการ รวมมูลค่าประมาณ 10 ล้านบาท  ทั้งโครงการคอนโดมิเนียมและโครงการแนวราบ ซึ่งทางบริษัทจะพยายามติดตั้งที่ชาร์จแบตเตอร์รี่ให้ครอบคลุมทุกโครงการในอนาคต โดยในครั้งนี้จะเป็นการผลักดันการใช้รถยนต์ไฟฟ้าให้กับลูกบ้านของแสนสิริอย่างจริงจัง ซึ่งแตกต่างจากที่ผ่านมา เพราะการที่จับมือกับ Audi Thailand ทำให้บริษัทมีค่ายรถยนต์ชั้นนำระดับโลกเข้ามาร่วมวางแผนการนำรถยนต์ไฟฟ้าของ Audi ไปบริการลูกบ้านในโครงการต่างๆอย่างมีประสิทธิภาพ