อีสเทิร์นโพลีเมอร์ฯ มั่นใจปัจจัยภายนอกยังเป็นผลบวกต่อธุรกิจ คาดรายได้โต 12% เดินหน้าเจาะตลาดพรีเมี่ยมทั้งตลาดใน-ต่างประเทศ ล่าสุดแบรนด์ Aeroklas ผนึกพันธมิตร ตั้งบริษัทร่วมทุน Aeroklas Duys  ในประเทศแอฟริกาใต้ รุกธุรกิจผลิต-จัดจำหน่ายสินค้าประเภท อุปกรณ์ตกแต่งยานยนต์ให้ลูกค้า OEM-ลูกค้ารายย่อย คาดเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ได้ภายในเดือน มี.ค. 62 

 

 

รศ.ดร.เฉลียว วิทูรปกรณ์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อีสเทิร์นโพลีเมอร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ EPG ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์โพลีเมอร์และพลาสติกแปรรูปชั้นนำของโลกเปิดเผยว่า การดำเนินงานในช่วงที่เหลือของปีบัญชียังคงเป็นไปตามแผนธุรกิจ สำหรับกลยุทธ์ The New S-Curve บริษัทมุ่งเน้นการพัฒนาสินค้านวัตกรรมและได้ทยอยส่งผลิตภัณฑ์นวัตกรรมสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง ด้านปัจจัยภายนอกที่ส่งผลบวกแก่บริษัท ได้แก่ คาดว่าราคาวัตถุดิบที่มีแนวโน้มปรับตัวลดลงจะเริ่มได้รับประโยชน์ในไตรมาสที่ 4 ปี 2561/62 (มกราคม – มีนาคม 2562) จึงคาดว่าบริษัทจะมีรายได้จากการขายของปี 2561/62 (สิ้นสุดเดือนมีนาคม 2562) เพิ่มขึ้นประมาณ 12%

 

โดยปัจจุบันสัดส่วนรายได้มาจาก AEROKLAS 50% AEROFLEX 30% และ EPP 20% หากพิจารณาการดำเนินงานในแต่ละกลุ่มธุรกิจ  ได้แก่ 1. ธุรกิจฉนวนกันความร้อน/เย็น ภายใต้แบรนด์ AEROFLEX ยังคงมุ่งเน้นทำการตลาดในกลุ่มสินค้าพรีเมี่ยม ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น และ อาเซียน เป็นต้น ในด้านการผลิตที่ผ่านมาได้ลงทุนปรับปรุงไลน์การผลิตในสหรัฐอเมริกา โดยใช้เครื่องจักรอัตโนมัติความเร็วสูง เนื่องจากเห็นโอกาสการเติบโตในสหรัฐอเมริกา จากความต้องการใช้สินค้าที่เพิ่มขึ้น รวมถึงต้องการลดค่าใช้จ่ายในกระบวนการผลิต หากไลน์การผลิตใหม่ในสหรัฐอเมริกาสามารถเพิ่มอัตราการใช้กำลังการผลิตได้จะส่งผลให้กำไรขั้นต้นปรับตัวดีขึ้นตาม ในประเทศไทยได้ลงทุนขยายโรงงานใหม่คาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณกลางปี 2562 สำหรับผลิตภัณฑ์ฉนวนยางสำหรับหลังคา (Aero-roof) การขยายตลาดในประเทศเพื่อนบ้าน ได้แก่ เมียนมา ได้รับการตอบรับที่ดี

 

2. ธุรกิจชิ้นส่วนอุปกรณ์และตกแต่งยานยนต์ภายใต้แบรนด์ AEROKLAS ได้ทยอยส่งผลิตภัณฑ์นวัตกรรมหลายชนิดออกสู่ตลาด ได้แก่ การปรับปรุงโมเดลใหม่จากผลิตภัณฑ์หลักของ AEROKLAS/ ผลิตภัณฑ์กันชนท้ายกระบะซึ่งผลิตจากโพลีเมอร์ที่มีความแข็งแรงทนทาน แต่มีน้ำหนักเบา/EZ UP & DOWN TAIL GATE ASSIST ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยให้การเปิดปิดท้ายรถกระบะง่ายขึ้น และผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่จะทยอยออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง

 

3. ธุรกิจในประเทศออสเตรเลีย TJM Products Pty.Ltd (TJM) และ Flexiglass Challenge Pty.Ltd (Flexiglass) ซึ่งเป็นช่องทางจัดจำหน่ายที่สำคัญของ AEROKLAS มีการขยายตลาดในประเทศออสเตรเลียอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบัน TJM มีสาขา 3 แห่ง ตั้งอยู่ที่ Perth 2 แห่ง และ Brisbane 1 แห่ง ทำให้มีร้านค้าภายใต้แบรนด์ TJM จำนวน 64 แห่ง Flexiglass มีสาขา 5 แห่ง และช่องทางการจัดจำหน่ายกว่า 100 แห่ง

 

ล่าสุด Aeroklas ได้เข้าลงนามสัญญาร่วมทุนกับ Duys Engineering Group (Pty) Ltd. (DEG) ประเทศแอฟริกาใต้ และ Mr. Brian William Rogers จัดตั้งบริษัทร่วมทุน ในนาม Aeroklas Duys (Pty) Ltd. ในประเทศแอฟริกาใต้ เพื่อประกอบกิจการผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าประเภท อุปกรณ์ตกแต่งยานยนต์ให้กับลูกค้า OEM และลูกค้ารายย่อยทั่วไปในประเทศแอฟริกาใต้ คาดว่าจะเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ได้ภายในเดือนมีนาคม 2562  การร่วมทุนในประเทศแอฟริกาใต้ ถือเป็นโอกาสสำคัญของ Aeroklas ในการขยายธุรกิจไปยังทวีปแอฟริกาและเป็นประตูสู่ทวีปยุโรป จากการสนับสนุนของรัฐบาลแอฟริกาใต้ ในด้านสิทธิประโยชน์และนโยบายส่งเสริมอุตสาหกรรมยานยนต์ จึงทำให้อุตสาหกรรมยานยนต์มีอัตราการเติบโตที่สูง

 

ธุรกิจบรรจุภัณฑ์พลาสติก ภายใต้แบรนด์ EPP เร่งทำการตลาดมากขึ้นในกลุ่มสินค้าบรรจุภัณฑ์พลาสติกประเภทกล่องใส่อาหารและถ้วยน้ำดื่ม ส่วนลูกค้าในกลุ่มอุตสาหกรรม EPP มีศักยภาพเพียงพอที่จะรองรับงานด้วยความพร้อมของกระบวนการผลิต และมาตรฐานความสะอาด ความปลอดภัยทางด้านอาหารที่ได้รับการรับรองจากองค์กรชั้นนำหลายแห่งทั่วโลก โดยเมื่อเร็วๆ นี้ ได้รับมาตรฐาน The British Retail Consortium (BRC) มาตรฐานความปลอดภัยทางอาหาร (food safety) ของสหราชอาณาจักร ทำให้สามารถขยายฐานลูกค้าไปสู่กลุ่มอุตสาหกรรมผลิตอาหารเพื่อส่งขายใน สหราชอาณาจักร ได้อีกด้วย

 

รศ.ดร.เฉลียว กล่าวเพิ่มเติมว่าบริษัทฯ มีเครื่องยนต์สำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจอยู่ 4 ประเภท ได้แก่ ธุรกิจฉนวนกันความร้อน/เย็น ธุรกิจชิ้นส่วนอุปกรณ์และตกแต่งยานยนต์ ธุรกิจบรรจุภัณฑ์พลาสติก และธุรกิจร่วมทุน แม้ว่าบางธุรกิจจะเติบโตได้ช้ากว่าประมาณการแต่ธุรกิจที่มีความแข็งแรงกว่าจะช่วยสนับสนุน ดังนั้นการเติบโตในปีนี้ทั้งปี ยังคงเป็นไปตามเป้าหมายที่ได้ตั้งไว้มีรายได้แตะ 10,000 ล้านบาท