กระทรวงคมนาคม การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย  (รฟม.) และกรุงเทพมหานคร (กทม.)ผนึกกำลังสร้างมหานครระบบราง ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลง ว่าด้วยการจำหน่ายทรัพย์สินและโอนภาระทางการเงินโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง – สมุทรปราการ และช่วงหมอชิต – สะพานใหม่ – คูคต เพื่อเตรียมพร้อมก่อนเปิดให้บริการเดินรถ โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงสำโรง – สมุทรปราการ 6 ธ.ค. 2561 นี้

 

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม และพลตำรวจเอกอัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้ให้เกียรติเข้าร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลง ว่าด้วยการจำหน่ายทรัพย์สินและโอนภาระทางการเงิน โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง – สมุทรปราการ และช่วงหมอชิต – สะพานใหม่ – คูคต ของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ให้กรุงเทพมหานคร (กทม.) โดยมี ผู้แทนจาก 2 หน่วยงาน ได้แก่ นายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย และนางศิลปสวย ระวีแสงสูรย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร ร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงฯ ดังกล่าว ณ อาคารสโมสรและหอประชุม กระทรวงคมนาคม ถนนราชดำเนินนอก กรุงเทพฯ

 

การลงนามบันทึกข้อตกลงฯ ในครั้งนี้ เป็นผลสืบเนื่องมาจากการดำเนินงานตามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่าง กระทรวงคมนาคม รฟม. และ กทม. ว่าด้วยแนวทางการดำเนินงานตามมติคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก (คจร.) เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2558 เรื่อง การมอบหมายให้ กทม. เป็นผู้บริหารจัดการเดินรถ โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต – สะพานใหม่ – คูคต และช่วงแบริ่ง – สมุทรปราการ ซึ่งได้มีการลงนามบันทึกข้อตกลงฯ เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2559 และจากการประสานความร่วมมือกันของทุกฝ่ายส่งผลให้ กระทรวงคมนาคม รฟม. และ กทม. สามารถบรรลุวัตถุประสงค์และนำมาสู่การลงนามบันทึกข้อตกลงฯ ในครั้งนี้ เพื่อให้ กทม. สามารถบริหารจัดการเดินรถโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง – สมุทรปราการ และช่วงหมอชิต – สะพานใหม่ – คูคต ได้ในระหว่างที่กระบวนการโอนกรรมสิทธิ์ยังอยู่ในระหว่างการดำเนินการ โดยบันทึกข้อตกลงฯ ฉบับนี้ จะมีสาระสำคัญเกี่ยวกับการปฏิบัติตามเงื่อนไขและหน้าที่ระหว่าง รฟม. และ กทม. ได้แก่ การจำหน่ายทรัพย์สินและที่ดินของโครงการ การโอนภาระทางการเงินของโครงการ และภาระผูกพันกับหน่วยงานอื่นให้กับ กทม. นอกจากนี้ ยังครอบคลุมถึงการยกเว้นค่าแรกเข้าระบบ หากผู้โดยสารเปลี่ยนถ่ายจากรถไฟฟ้าสายอื่นของ รฟม. ตามนโยบายของรัฐบาลอีกด้วย

นายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการ รฟม. กล่าวว่า ที่ผ่านมา รฟม. ได้รับความไว้วางใจจากรัฐบาลและกระทรวงคมนาคมให้เป็นผู้รับผิดชอบดำเนินงานโครงการรถไฟฟ้าจำนวนหลายเส้นทางในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล โดยคณะรัฐมนตรีในคราวประชุมเมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2551 ได้มีมติเห็นชอบให้ รฟม. ดำเนินการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง – สมุทรปราการ และช่วงหมอชิต – สะพานใหม่ – คูคต เพื่อเป็นการต่อขยายแนวเส้นทางให้บริการของรถไฟฟ้าบีทีเอส ให้เชื่อมโยง 3 จังหวัดในแนวเหนือ-ใต้ ได้แก่ ปทุมธานี กรุงเทพมหานคร และสมุทรปราการ ซึ่งจะทำให้ประชาชนสามารถเดินทางในระยะทางที่ไกลยิ่งขึ้นได้สะดวกมากขึ้น ด้วยระยะเวลาที่น้อยลง

สำหรับโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง –สมุทรปราการ ซึ่งเตรียมพร้อมที่จะเปิดทดลองเดินรถในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้ รฟม. ได้เริ่มดำเนินงานก่อสร้างงานโยธามาตั้งแต่ช่วงต้นปี 2555 จนแล้วเสร็จในปลายปี 2559 โดย รฟม. ได้มีการหารือร่วมกับ กทม. มาอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับกระบวนการโอนหนี้สินและทรัพย์สินของโครงการฯ เพื่อให้เป็นไปตามมติ คจร. เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2558 ที่เห็นชอบให้ กทม. เข้ามารับช่วงต่อจาก รฟม. ในการบริหารจัดการเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียว ด้วยคำนึงถึงประสิทธิภาพในการให้บริการและประโยชน์สูงสุดต่อประชาชนผู้โดยสารรถไฟฟ้า อีกทั้ง รฟม. ยังได้อำนวยความสะดวกแก่ กทม. อย่างเต็มที่ในการเข้าพื้นที่โครงการ เพื่อดำเนินงานติดตั้งและทดสอบระบบรถไฟฟ้า จนสามารถเปิดให้บริการเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วง 1 สถานี จากสถานีแบริ่ง ไปยังสถานีสำโรง ได้ตั้งแต่วันที่ 3 เมษายน 2560 และปัจจุบันมีความพร้อมในการเปิดเดินรถได้ครบทุกสถานี ตั้งแต่สถานีสำโรง ถึง สถานีเคหะฯ ในวันที่ 6 ธันวาคม 2561 ที่จะถึงนี้ จึงนับเป็นผลสำเร็จจากความร่วมมือของทุกภาคส่วน ทั้งยังสอดคล้องตามนโยบายของรัฐบาลในการเร่งรัดผลักดันโครงการให้มีความคืบหน้าและเป็นรูปธรรมเพื่อประโยชน์ของประชาชน ติดตามรายละเอียดและสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่เว็บไซต์ www.mrta.co.th