พฤกษา โชว์ผลงาน 9 เดือนปี ’61 กำไรพุ่ง 4,017 ล้านบาท เติบโต 8.1%

 พฤกษาฯ โชว์ผลงาน 9 เดือนกำไรพุ่ง 4,017 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 8.1% เผยปรับลดเปิดตัวโครงใหม่ปีนี้จาก 75 โครงการมูลค่ารวม 6.67 หมื่นล้านบาทเหลือ 55โครงการ มูลค่ารวม 4.99 หมื่นล้านบาท พร้อมเร่งยอดขายโค้งสุดท้ายปีระบายสินค้าพร้อมขายพร้อมโอนที่มีอยู่ 1.3 หมื่นล้านบาท อัดงบการตลาดกว่า 30 ล้านบาทจัดแคมเปญ “Pruksa 25th Year Big Sale Ever ลดใหญ่ แถมใหญ่ แจกใหญ่” รวมมูลค่ากว่า 200 ล้านบาท

นางสุพัตรา เป้าเปี่ยมทรัพย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ PSH เปิดเผยถึงผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2561 เติบโตในทุกด้านเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน(yoy) ดังนี้

• ยอดขาย อยู่ที่ 14,820 ล้านบาท (+24.4% yoy)
• รายได้ อยู่ที่ 11,198 ล้านบาท (+11.3% yoy)
• กำไร อยู่ที่ 1,591 ล้านบาท (+23.3% yoy) 

จากยอดขายและกำไรสุทธิดังกล่าวทำให้ผลประกอบการ 9 เดือนแรก(ม.ค.- ก.ย.)ของปี 2561 เติบโตขึ้น พฤกษา มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 4,017 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.1% เมื่อเทียบกับปีก่อน มียอดขาย 39,196 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3 % เมื่อเทียบกับปีก่อน และมีรายได้อยู่ที่ 30,480 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปีก่อน ลดลง 0.4 % ทั้งนี้ บริษัทฯตั้งเป้ายอดขายรวมปี 2561 ไว้ที่ 53,742 ล้านบาท ส่วนรับรู้รายได้ตั้งไว้ที่ 47,000 ล้านบาท

จากยอดขายที่ดูรายเซ็กเมนต์ ณ  สิ้นไตรมาส 3 ปี 2561 นั้นมีรายละเอียดดังนี้

• กลุ่มทาวน์เฮ้าส์ มียอดขาย 17,777 ล้านบาท คิดเป็น 77.8 % จากเป้าทั้งปีที่ ล่าสุดปรับเพิ่มขึ้น 5 % จาก 21,460 ล้านบาทที่ประกาศไว้เมื่อช่วงต้นปี เป็น 22,840 ล้านบาท ส่วนรายได้จากทาวน์เฮ้าส์ อยู่ที่ 15,742 ล้านบาท คิดเป็น 71.2% จากเป้าทั้งปีที่ตั้งไว้อยู่ที่ 22,107 ล้านบาท
• กลุ่มบ้านเดี่ยว และคอนโดมิเนียม ตั้งเป้ายอดขายรวมทั้งปี 2561 อยู่ที่ 25,482 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น44. 1% จากปี2560) ณ สิ้นไตรมาส 3 ปี 2561 (9M18) ทำยอดขายได้ 15,374 ล้านบาท  ประมาณการรายได้ทั้งปีของกลุ่มบ้านเดี่ยวและคอนโดมิเนียม ตั้งไว้ที่ 22,880 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 18.2 % จากปี 2560 ) ณ สิ้นไตรมาส 3 ปี 2561 พฤกษา ทำรายได้รวมอยู่ที่ 14,722 ล้านบาท

ทั้งนี้ หากพิจารณาผลประกอบการด้านรายได้ของพฤกษา แบ่งตามเซ็กเมนต์ พบว่ารายได้ที่เติบโตจะมาจากธุรกิจคอนโดมิเนียม ขณะที่บานเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ นั้นลดลง

ผลประกอบการในไตรมาส 3 ที่อยู่ในระดับที่ดีนั้น มาจากการดำเนินงานตามแผนกลยุทธ์ New Marketing Approach ซึ่งเป็นการทำการตลาดรูปแบบใหม่ โดยเน้นการใช้สื่อดิจิตอลเพื่อเข้าตรงถึงกลุ่มลูกค้าที่มีศักยภาพได้อย่างรวดเร็ว โดยที่ผ่านมาถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ส่งผลให้ ณ สิ้นไตรมาส 3 บริษัทฯ สามารถสร้างยอดรอรับรู้รายได้ (Backlog) รวม 35,749 ล้านบาท เพิ่มสูงขึ้นจากไตรมาสก่อน 11.3% ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ ดังนี้

• ในปี 2561 จำนวน 11,784 ล้านบาท
• ในปี 2562 จำนวน 15,565 ล้านบาท
• ในปี 2563 จำนวน 6,385 ล้านบาท
• ในปี 2564 จำนวน 2,015 ล้านบาท

ณ สิ้นไตรมาส 3 ปี 2561 พฤกษา  ยังครองส่วนแบ่งตลาดที่อยู่อาศัยในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลสูงสุดเป็นอันดับหนึ่ง อยู่ที่ 10% จากมูลค่าตลาดรวมทั้งหมด และยังคงรักษาแชมป์เจ้าตลาดทาวน์เฮาส์ได้อย่างต่อเนื่อง โดยครองส่วนแบ่งตลาดสูงสุดอยู่ที่ 21%

ทั้งนี้ ยอดขายที่รอรับรู้รายได้ในปีนี้มูลค่า 11,784 ล้านบาท จะรับรู้รายได้ในไตรมาส 4 ปีนี้แบ่งเป็น

• กลุ่มสินค้าทาวน์เฮ้าส์ 3,716 ล้านบาท
• กลุ่มสินค้าบ้านเดี่ยว 1,942 ล้านบาท
• กลุ่มสินค้าคอนโดฯ(แวลู) 3,786 ล้านบาท
• กลุ่มสินค้าพรีเมียม 2,340 ล้านบาท

ปรับลดโครงการเปิดมใหม่ทั้งปีเหลือ 55 โครงการมูลค่ารวม 4.99 หมื่นล้านบาท

เมื่อช่วงต้นปี พฤกษาฯประกาศแผนการเปิดตัวโครงการใหม่ทั้งสิ้น จำนวน 75 โครงการ มูลค่า 66,700 ล้านบาท แต่ล่าสุด ได้ปรับลดการเปิดโครงการใหม่เหลือ 55 โครงการมูลค่ารวม 49,900 ล้านบาท โดยในช่วง 9 เดือนแรกเปิดไปแล้ว 40 โครงการมูลค่ารวม 38,400 ล้านบาท ส่วนที่เหลือ 15 โครงการรวมมูลค่า 11,400 ล้านบาท จะเปิดตัวในไตรมาส 4 ปี 2561 แบ่งเป็นโครงการแนวราบ 12 โครงการ และโครงการแนวสูง 3 โครงการ

อัดงบการตลาดเร่งขายโค้งสุดท้ายปี 61

ณ สิ้นไตรมาส 3 ปี 2561 พฤกษาฯมีจำนวนโครงการที่เปิดขายอยู่ 192 โครงการมีมูลค่าที่ยังไม่ขาย 97,931 ล้านบาท แบ่งเป็น

• ทาวน์เฮ้าส์ จำนวน 115 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 92,341 ล้านบาท ขายไปแล้ว 45%
• บ้านเดี่ยว จำนวน 50 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 54,355 ล้านบาท ขายไปแล้ว 47 %
• คอนโดมิเนียม(แวลู) จำนวน 20 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 43,268 ล้านบาท ขายไปแล้ว 66 %
• คอนโดมิเนียม (พรีเมียม) จำนวน 7 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 18,203 ล้านบาท ขายไปแล้ว 81 %

อย่างไรก็ตาม จากมูลค่าที่ยังไม่ได้ขายนั้น มีสินค้าที่พร้อมขายและพร้อมโอนคิดเป้นมูลค่า 13,000 ล้านบาท พฤกษา ได้ใช้งบการตลาดสำหรับมีเดีย 32 ล้านบาท ผ่านแคมเปญ “Pruksa 25th Year Big Sale Ever ลดใหญ่ แถมใหญ่ แจกใหญ่” ซึ่งเป็นโปรโมชั่นดีที่สุดในรอบ 25 ปีที่เคยมีมา โดยคัดเลือกโครงการพร้อมอยู่ทั้งทาวน์โฮม บ้านเดี่ยว และคอนโดมิเนียม 161 โครงการทั่วประเทศเข้าร่วมแคมเปญ เพียงทำสัญญาและโอนกรรมสิทธิ์ภายใน 28 ธันวาคม 2561 ลูกค้าจะได้รับส่วนลด ของแถม และสิทธิ์ลุ้นรับรางวัลใหญ่ พลัมคอนโด พหลโยธิน 89 สร้อยคอทองคำหนัก 5 บาท และ Samsung Galaxy Note9 รวมมูลค่ากว่า 200 ล้านบาท คาดว่าจากแผนการดำเนินงานที่บริษัทฯวางไว้ จะสามารถทำให้พฤกษาบรรลุเป้าหมายได้ตามที่ตั้งไว้ในแคมเปญนี้  4,000 ล้านบาท

นางสุพัตรา ยังกล่าว กรณีที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) หรือ แบงก์ชาติ ได้ออกหลักเกณฑ์การกำกับดูแลสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยใหม่ ผ่านการวางเงินดาวน์ขั้นต่ำ 0-30 % ( อ่านรายละเอียดเพิ่มได้ที่ >>แบงก์ชาติเลื่อนบังคับใช้เกณฑ์คุมสินเชื่อบ้านใหม่ ดีเดย์ 1เม.ย.62 เข้มกู้หลัง 3 ต้องดาวน์30%

)  นั้น โดยรวมมาตรการนี้ค่อนข้างผ่อนคลายมาก ยอมรับว่าส่งผลดีระยะสั้น กล่าวคือ ลูกค้าตัดสินใจซื้อและโอนดีขึ้น โดยในส่วนของ พฤกษา เองคงมีการปรับแผนการดำเนินงานรองรับกับมาตรการดังกล่าว รวมถึงการร่วมมือกับพันธมิตรสถาบันการเงินในการกำหนดแพคเก็จสินเชื่อ รวมถึงการขยายเวลาการผ่อนดาวน์นานขึ้น เป็นต้น

“พฤกษาฯมีลูกค้าที่มีลูกค้าที่ไม่ใช้กลุ่มเรียลดีมานด์อยู่ 10-20 % ส่วนใหญ่เป็นคอนโดฯและลูกค้าที่ซื้อคอนโดฯเป็นสัญญาที่ 2 และที่ 3 คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 20 % พฤกษา ฯคงต้องมาดูว่าจะแก้ปัญหาอย่างไรรวมถึงจะต้องเตรียมรับมือในปีหน้าด้วย” นางสุพัตรา กล่าวในตอนท้าย