“พรีเมียร์กรุ๊ป” ส่งเจเนอเรชั่น 2 “ทิพย์ชยา พงศธร” คุมทัพพัฒนาอสังหาฯ ปั้นแบรนด์ลักชัวรี่ “บ้านนวัต” ปี 61 ประกาศเปิดตัว 3 โครงการ รวมมูลค่า 1,288 ล้านบาท ล่าสุดผุด “บ้านนวัต รามคำแหง118″ ราคาเริ่มต้น 29-57 ล้านบาท  ระบุมียอดผู้ซื้อแล้ว โครงการละ 2 ยูนิต ตั้งเป้าปิดโครงการภายในปี 62 และดันยอดขายแตะที่ 1,288 ล้านบาท

 

 

นางสาวทิพย์ชยา พงศธร กรรมการผู้จัดการใหญ่สายธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และกลุ่มธุรกิจโรงแรม กลุ่มบริษัทพรีเมียร์ ซึ่งเป็นทายาทรุ่นที่ 2 เปิดเผยว่า ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่ทางกลุ่มบริษัทพรีเมียร์มีประสบการณ์มานานหลายทศวรรษ หรืออาจเรียกได้ว่าเป็นผู้บุกเบิกวงการหมู่บ้านจัดสรรยุคแรกๆ ของประเทศไทยเลย โครงการหมู่บ้านเสรี หัวหมาก อ่อนนุช ศรีนครินทร์ รวมถึงโครงการ 99 เรสซิเดนซ์ พระราม 9 โดยมีบริษัท พรีเมียร์ แอสเซ็ทส์ จำกัด รับผิดชอบพัฒนาโครงการ

 

โดยในปีนี้ทางกลุ่มมีแผนเปิดตัวโครงการใหม่ภายใต้แบรนด์ “บ้านนวัต” 3โครงการ รวมมูลค่า 1,288 ล้านบาท ซึ่งได้เปิดตัวไปแล้ว 2 โครงการ คือ โครงการบ้านนวัต พระราม 9 โครงการบ้านวัต เอกมัย-รามอินทรา โดยราคาเริ่มต้นที่หลังละ 36-49 ล้านบาท ล่าสุดได้เปิดตัว “บ้านนวัต รามคำแหง118”  ตั้งอยู่บนพื้นที่ 8 ไร่ เป็นบ้านเดี่ยว 3 ชั้น ขนาดที่ดิน 72.8-166.4 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 363-576 ตารางเมตร มีบ้านทั้งหมด 3 แบบ จำนวน 23 ยูนิต ราคาเริ่มต้นที่ 29-57 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 700 ล้านบาท โดยเปิดพรีเซลเมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2561 ที่ผ่านมา

 

“กลุ่มธุรกิจเราจะเปิดตัวโครงการปีละเฉลี่ยเพียง 1 -2 โครงการ เพราะเราต้องการทำสิ่งที่แตกต่างจากตลาดมาโดยตลอด และในช่วงที่ตลาดบูมก็ไม่ต้องการแข่งขันกับใคร แต่รอเพียงจังหวะพื้นที่ ความเหมาะสมและความพร้อมของธุรกิจในเครือเป็นหลัก ซึ่งโครงการ”บ้านนวัต” จะเป็นแบรนด์รุกตลาดของกลุ่มธุรกิจในอนาคต เพราะต้องการนำแบรนด์สะท้อนความเป็นบ้านนวัตกรรมเพื่อผู้อยู่อาศัยสบายที่แท้จริง ที่คิดใช้เวลาคิด ออกแบบเป็นเวลามากกว่า 1 ปี” นางสาวทิพย์ชยา กล่าว

 

สำหรับความโดดเด่นของบ้านนวัต ที่แตกต่างจากตลาดโดยการคิดล่วงหน้าถึงเทรนด์การอยู่อาศัยใน 5 ปีข้างหน้า โดยมีพื้นที่ใช้สอยเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ใช้พลังงานหมุนเวียน ทั้งบำบัดน้ำเพื่อรดน้ำต้นไม้ ใช้พลังงานลมจากแอร์เพื่อมาทำเป็นเครื่องทำน้ำอุ่น แผงโซลาร์เซลล์ ที่ประหยัดไฟฟ้าจากปกติ 35 % หรือประมาณเดือนละ 2,000 บาทในช่วงฤดูร้อน รวมถึงการระบบควบคุม ตลอดจนสระว่ายน้ำในบ้านทุกหลัง ซึ่งมุ่งเน้นระบบสาธารณูปโภคเต็มพื้นที่ภายในบ้าน จึงไม่มีส่วนกลางเพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษา โดยทดแทนระบบการเข้าออกด้วยกล้องวงจรปิด และผ่านเข้าออกโดยใช้บัตร (Easy Pass) ที่เจ้าของบ้านสามารถเปิดรีโมทเข้าออกได้จากวงจรปิดทางเข้าหมู่บ้าน รวมไปถึงออกแบบเพื่อคนทุกวัย (Universal Design) รองรับทั้ง 3 ช่วงอายุคน(Generation) ตั้งเด็ก ผู้ใหญ่ และผู้สูงอายุ

ด้านนายสาทิต  สืบสุข กรรมการผู้จัดการ บริษัท พรีเมียร์ แอสเซ็ทส์ จำกัด กล่าวว่า หลังจากเปิดตัวทั้ง 3 โครงการในปีนี้ มียอดผู้ซื้อแล้ว โครงการละ 2 ยูนิต ตั้งเป้าหมายที่จะปิดโครงการให้ได้ภายในปี 2562 ที่จะทำให้ยอดขายในกลุ่มธุรกิจเพิ่มขึ้นมากจากปี 2561 มียอดขายมูลค่า 100 ล้านบาท ในปี 2562 จะมียอดขายขึ้นแตะ 1,288 ล้านบาท

 

อนึ่งกลุ่มบริษัทพรีเมียร์ ดำเนินธุรกิจมากว่า 40 ปี ซึ่งประกอบด้วย 6 สายธุรกิจ คือ 1. ธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภค 2. ธุรกิจด้านสิ่งแวดล้อม 3. ธุรกิจแผงโซลาร์ 4. ธุรกิจรถเช่า 5. สายธุรกิจเทคโนโลยีสารสนเทศ 6. ธุรกิจบริการทางการเงิน 7. ธุรกิจพัฒนาความยั่งยืนของสังคม และ 8. ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และกลุ่มธุรกิจโรงแรม สำหรับโครงการที่อยู่อาศัยที่อยู่ภายใต้การพัฒนาในส่วนของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ได้แก่ โครงการหมู่บ้านเสรี โครงการบ้าน 99 เรสซิเดนซ์ โครงการบ้านนวัต