10 บริษัทอสังหาฯรวมกันรวยอู่ฟู่ ฟันกำไรครึ่งแรกปี’61 รวมกัน 18,362 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 18% แลนด์แอนด์เฮ้าส์ ยังรั้งอันดับหนึ่งอยู่ที่ 5,890 ลบ เพิ่มขึ้นกว่า 9%อันดับ 2 คือ พฤกษาฯ อยู่ที่ 2,426 ลบ. เพิ่มขึ้น 0.04 %ขณะที่ออริจิ้นฯปรับตัวสูงสุดกว่า 267 % มีกำไรรวม อยู่ที่ 1,508 ล้านบาท มาจากโครงการใหม่แล้วเสร็จ รับรู้รายได้ได้เร็วกว่าแผน รวมถึงการรับรู้รายได้จากการบริหารโครงการที่ร่วมลงทุนกับบริษัท โนมูระ เรียลเอสเตท ฯ

 

รายงานผลประกอบการในช่วง 6 เดือนแรกของปีสิ้นสุด ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2561 ของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย มากัน(เกือบ)ครบแล้ว prop2morrow.com คัดเอาเฉพาะ 10 อันดับบริษัทมหาชน(บมจ.) ได้แก่ 1.บริษัทพฤกษา โฮลดิ้ง – PSH ,2. บริษัท แลนด์แอนด์เฮ้าส์ – LH ,3.บริษัท ศุภาลัย -SPALI , 4. บริษัทเอพี (ไทยแลนด์)- AP, 5. บริษัท แสนสิริ – SIRI ,6. บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น-SC ,7. บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ – ORI ,8.บริษัท ควอลิตี้เฮ้าส์-QH, 9.บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ – ANAN และ 10. บริษัทแอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์-LPN

ทั้ง 10 บริษัทดังกล่าวพบมี “ยอดขาย” รวมทั้งสิ้น 140,603 ล้านบาท(ลบ.) (ไม่รวม QH) เพิ่มขึ้นเกือบ 18 % เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2560 ที่มียอดขายอยู่ที่ 119,245 ล้านบาท(ไม่รวม QH)

โดยผลประกอบการด้าน “ยอดขาย” 5 อันดับแรก ได้แก่

อันดับ 1 คือ PSH อยู่ที่ 24,376 ลบ.ลดลง 6.8% เทียบช่วงเดียวกันของปี 2560 มียอดขายอยู่ที่ 26,150 ลบ.
อันดับ 2 คือ SPALI อยู่ที่ 17,760 ลบ. เพิ่มขึ้น 33% เทียบช่วงเดียวกันของปี 2560 มียอดขายอยู่ที่ 13,344 ลบ.
อันดับ 3 คือ ANAN อยู่ที่ 17,303 ลบ. เพิ่มขึ้น 12% เทียบช่วงเดียวกันของปี 2560 มียอดขายอยู่ที่ 26,150 ลบ.
อันดับ 4 คือ AP อยู่ที่ 17,265 ลบ. เพิ่มขึ้น 15% เทียบช่วงเดียวกันของปี 2560 มียอดขายอยู่ที่ 14,998 ลบ.
และอันดับ 5 คือ LH อยู่ที่ 13,963 ลบ. เพิ่มขึ้น 5 % เทียบช่วงเดียวกันของปี 2560 มียอดขายอยู่ที่ 13,303 ลบ.

ส่วน “รายได้” ของทั้ง10 บริษัทนั้นมียอดรวมทั้งสิ้น 110,055 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 5 % เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2560 ที่มีรายได้อยู่ที่ 104,741 ล้านบาท

ผลประกอบการด้าน “รายได้” 5 อันดับแรกของ ได้แก่

อันดับ 1 คือ PSH อยู่ที่ 24,376 ลบ. ลดลง 6.8% เทียบช่วงเดียวกันของปี 2560 มีรายได้อยู่ที่ 26,150 ลบ.
อันดับ 2 คือ AP อยู่ที่ 17,910 ลบ. เพิ่มขึ้น 48% เทียบช่วงเดียวกันของปี 2560 มีรายได้อยู่ที่ 12,125 ลบ.
อันดับ 3 คือ LH อยู่ที่ 15,655 ลบ. เพิ่มขึ้น 0.54% เทียบช่วงเดียวกันของปี 2560 มีรายได้อยู่ที่ 15,571 ลบ.
อันดับ 4 คือ SPALI อยู่ที่11,158 ลบ. เพิ่มขึ้น 13 % เทียบช่วงเดียวกันของปี 2560 มีรายได้อยู่ที่ 9,882 ลบ.
และอันดับ 5 คือ SIRI อยู่ที่ 10,862 ลบ.ลดลง 36 % เทียบช่วงเดียวกันของปี 2560 มีรายได้อยู่ที่ 15,784 ลบ.

 

ขณะที่ “กำไรสุทธิ” ของทั้ง 10 บริษัทนั้นมียอดรวมทั้งสิ้น 18,362 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 18 % เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2560 ที่มีรายได้อยู่ที่ 15,527 ล้านบาท

โดยผลประกอบการด้าน“กำไรสุทธิ” (Net Margin) 5 อันดับแรก ได้แก่

อันดับ 1 คือ LH อยู่ที่ 5,890 ลบ เพิ่มขึ้นกว่า 9% เทียบช่วงเดียวกันของปี 2560 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 5,383 ลบ.
อันดับ 2 คือ PSH อยู่ที่ 2,426 ลบ. เพิ่มขึ้น 0.04 % เทียบช่วงเดียวกันของปี 2560 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 2,425 ลบ.
อันดับ 3 คือ SPALI อยู่ที่ 2,092 ลบ.เพิ่มขึ้น 4 % เทียบช่วงเดียวกันของปี 2560 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 2,014 ลบ.
อันดับ 4 คือ AP อยู่ที่ 1,998 ลบ.เพิ่มขึ้น 72.69 % เทียบช่วงเดียวกันของปี 2560 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 1,157 ลบ.
และอันดับ 5 คือ ORI อยู่ที่ 1,508 ลบ. เพิ่มขึ้น 267% เทียบช่วงเดียวกันของปี 2560 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 410 ลบ.

 

ผลประกอบการทั้งยอดขาย รายได้ และกำไร ของ 10 บริษัทอสังหาฯรายใหญ่ดังกล่าวส่วนใหญ่เติบโตกว่าที่คาดและสูงขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนหนึ่งมีผลมาจากการปรับตัวเพิ่มขึ้นตามโครงการอสังหาฯทั้งแนวราบและแนวสูงที่มีการเปิดตัวเพิ่มมากขึ้น ทำให้ยอดขายและยอดโอนกรรมสิทธิ์เพิ่มขึ้นตาม รวมถึงประสิทธิภาพในการรักษาอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ในระดับที่ดี รวมถึงมีกำไรพิเศษจากการขายอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุน อาทิ บริษัทแลนด์แอนด์เฮ้าส์ ใน 6 เดือนแรกของ ปี 2561 บริษัทฯ มีอัตรากาไรขั้นต้นจากการขายเท่ากับ 37.04 % ในขณะที่งวดเดียวกันของปี ก่อน มีอัตรากาไรขัน้ ต้นจากการขายเท่ากับ 35.75 % อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น 1.29 % อีกทั้งแลนด์แอนด์เฮ้าส์ยังได้ขายอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุนในสหรัฐอเมริกาในราคา 4,544ง13 ล้านบาทมีกำไรจากการขายก่อนภาษีเงินได้นิติบุคคลจำนวน 1,318.29 ล้นบาท

 

นอกจากนี้อีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ผลประกอบการมีความแข็งแกร่ง นั่นก็คือ การการบริหารโครงการ หรือการเรียกเก็บรายได้จากค่าบริหารจัดการค่าขายจากโครงการที่ลงทุนพัฒนา โดยเฉพาะบริษัทอสังหาฯที่มีโครงการที่ร่วมทุนกับต่างประเทศ จึงทำให้ผลประกอบการดีขึ้น เห็นได้จากบริษัท ออริจิ้นฯกำไรสุทธิครึ่งปีแรกรวม อยู่ที่ 1,508 ล้านบาท เติบโตขึ้น 267% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยคิดเป็นอัตรากำไรสุทธิที่ระดับ 22.7% อันเนื่องมาจากโครงการใหม่แล้วเสร็จ และหลายโครงการสามารถสร้างเสร็จและรับรู้รายได้ได้เร็วกว่าแผน รวมถึงการรับรู้รายได้จากการบริหารโครงการที่ร่วมลงทุนกับบริษัท โนมูระ เรียลเอสเตท ดีเวลล็อปเมนท์ จำกัด ได้ตามแผน ทำให้ทั้งรายได้และกำไรของบริษัทในครึ่งปีแรกนี้เติบโตได้อย่างโดดเด่น

 

กล่าวได้ว่า ผลประกอบการในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2561 ของบริษัทอสังหาฯ 10 รายที่ prop2morrow.com คัดมาแม้จะเป็นเพียงบางส่วนแต่ก็พอที่จะสะท้อนถึงภาพโดยรวมตลาดมีแนวโน้มการเติบโตดีขึ้น จากปัจจัยบวกหลายประการ กำลังซื้อในธุรกิจอสังหาฯยังมีอยู่มากโดยเฉพาะตลาดระดับกลางบนถึงไฮเอนด์ ซึ่งยอดขายและยอดโอนกรรมสิทธิ์ทั้งสินค้าแนวราบและคอนโดมิเนียม ถือเป็นตัวชี้วัดให้เห็นถึงกำลังซื้อที่ยังคงมีอยู่ของสินค้าระดับกลางบนได้อย่างชัดเจนส่วนแนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วงครี่งปีหลังคาดว่าน่าจะดีขึ้นกว่าครึ่งปีแรก