LPN รับความสำเร็จสะท้อนความเชื่อมั่นในแบรนด์ หลังขยายฐานผลิตภัณฑ์และกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่มีกำลังซื้อสูงสู่ BAAN 365 แบรนด์พรีเมียมที่ตอบโจทย์ความเป็นจริงของการอยู่อาศัยในคุณภาพที่พิถีพิถัน ด้วยยอดจองกว่า 50% มูลค่าขายทะลุ 1,600 ล้านบาท คาดสามารถปิดการขายเร็วขึ้นกว่าแผน พร้อมทยอยส่งมอบบ้านสิ้นปีนี้

 

นายโอภาส ศรีพยัคฆ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการบริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) (LPN) เปิดเผยว่าหลังจากที่บริษัทได้เริ่มเปิดพรีเซล BAAN 365 พระราม 3 ไปเมื่อกลางเดือน กรกฎาคม2561ที่ผ่านมา ปรากฏว่ามีลูกค้าเข้ามาจองแล้วกว่า 50% ทำให้มียอดขายสูงถึง 1,600 ล้านบาท (ลบ.)ซึ่งเกินกว่าเป้ายอดขายที่ตั้งไว้ 1,200 ล้านบาทภายในสิ้นปี 2561 สะท้อนให้เห็นถึงความสำเร็จจากการใช้โครงการนี้เป็นหนึ่งในการปรับกลยุทธ์จากการพัฒนาเฉพาะอาคารชุดพักอาศัยสำหรับกลุ่มเป้าหมายระดับกลางถึงกลาง-ล่าง ไปสู่การพัฒนาบ้านพักอาศัยในระดับพรีเมียมเพิ่ม เพื่อตอบโจทย์ความต้องการบ้านคุณภาพในเมืองสำหรับกลุ่มลูกค้าในระดับไฮเอนด์ และรองรับกลุ่มลูกค้าคอนโดลุมพินีที่ขยายครอบครัว โดยได้นำประสบการณ์ ความเชี่ยวชาญ และความเป็นมืออาชีพที่บริษัทสั่งสมมากว่า 30 ปี ร่วมกับการทำงานอย่างใกล้ชิดกับทีมปิยมิตรของบริษัท มาใช้ตั้งแต่การคัดเลือกที่ดิน การออกแบบพัฒนาผลิตภัณฑ์ความพิถีพิถันในการคัดเลือกวัสดุ และการลงรายละเอียดในงานก่อสร้างของผู้บริหารระดับสูง ซึ่งจากผลตอบรับในครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงความไว้วางใจของลูกค้าที่มีต่อแบรนด์ของ LPN ในทุกโครงการที่พัฒนาขึ้นมา

การพัฒนาโครงการในย่านพระราม 3 นี้ตอบโจทย์ความต้องการบ้านในเมืองสำหรับลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูง โดยกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่ตัดสินใจซื้อส่วนใหญ่เป็นเจ้าของธุรกิจคนไทยเชื้อสายจีนที่มีที่อยู่อาศัยเดิมในละแวกนี้ แต่มีความต้องการขยายครอบครัวเพื่อรองรับการอยู่อาศัยที่รวมคน 3 วัยไว้ด้วยกัน โดยมีปัจจัยในการพิจารณาคือ การออกแบบที่คำนึงถึงฟังก์ชั่นในการใช้งาน สามารถตอบสนองรูปแบบการใช้ชีวิตของคนทุกวัยให้สามารถมีทั้งพื้นที่ส่วนตัว และพื้นที่ที่ทั้งครอบครัวจะทำกิจกรรมร่วมกันได้ ความใส่ใจในคุณภาพที่แทรกอยู่ในทุกกระบวนการ ราคาที่คุ้มค่าสมเหตุผล และความเชื่อมั่นในชื่อเสียงและการบริหารหลังการขายของ LPN ซึ่งจากยอดขายที่บริษัททำได้แล้วกว่า 50% ประกอบกับยังมีลูกค้าให้ความสนใจเข้าชมบ้านตัวอย่างอย่างต่อเนื่อง ทำให้บริษัทมั่นใจว่าสิ้นปี 2561 นี้ บริษัทจะสามารถปิดการขาย พร้อมทยอยส่งมอบได้ทันที

 

นายโอภาส กล่าวย้ำในตอนท้ายว่า เนื่องจากมีจำนวนเพียง 99 หลัง การออกแบบและวางผังโครงการผ่านการวิจัยและพัฒนาจนทำให้ได้แบบบ้านที่คำนึงถึงการอยู่อาศัยร่วมกันอย่างมีความสุขของคนทุกวัย ทำเลที่อยู่ไม่ไกลจากบางกระเจ้าทำให้ได้รับอากาศบริสุทธิ์เปรียบเสมือนเป็นโอเอซิสกลางเมือง สามารถเดินทางเข้า – ออกนอกเมืองได้สะดวกเพราะใกล้กับถนนเส้นหลัก และที่สำคัญคือ การบริหารโครงการแบบมืออาชีพภายใต้บรรยากาศ “ร่วมใจ ห่วงใย แบ่งปัน” เพื่อสร้างความสุขที่แท้จริงของการอยู่อาศัยให้กับทุกครอบครัว