เนอวานา ไดอิ เปิดกว้างร่วมทุนเจ้าของที่ดินผ่านเครือข่ายบริษัทแม่บุญรอด พร้อมเตรียมดึงกลุ่มทุนต่างชาติร่วมทุนรับแผนพัฒนาที่อยู่อาศัย ส่วนที่ดิน 250 ไร่ทำเล ถนนกรุงเทพ กรีฑา ตัดใหม่ ในรูปแบบ Township ระดับ High-End เล็งดึงทุนญี่ปุ่นร่วมพัฒนา พร้อมสนใจทำบ้านรองรับลูกค้าญี่ปุ่น ล่าสุดเปิดตัวโครงการทาวน์โฮม ที่เป็นได้มากกว่าบ้านเดี่ยวเนอวานา ดีฟายน์ ศรีนครินทร์ – พระราม 9 โกยยอดขายไปกว่า 500 ล้านบาท จากมูลค่ารวม 1,900 ล้านบาท

นายศรศักดิ์ สมวัฒนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เนอวานา ไดอิ จำกัด(มหาชน)เปิดเผยถึงแนวทางการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯว่า จากนี้ไปบริษัทฯจะขยายการลงทุนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในรูปแบบที่หลากหลายทั้งลงทุนเองและร่วมลงทุนกับเจ้าของที่ดิน และร่วมลงทุนกับกลุ่มทุนจากต่างประเทศ ในเบื้้องต้น 4 ราย มีทั้งจาก ญี่ปุ่น ฮ่องกง และ จีน ล่าสุดอยู่ระหว่างเจาจาร่วมทุนกับบริษัทอสังหาฯจากญี่ปุ่นเพื่อพัฒนาโครงการจัดสรรแนวราบ(บ้านเดี่ยวหรู)บนที่ดินย่านศรีนครินทร์ – ร่มเกล้า (กรุงเทพกรีฑา ตัดใหม่) ซึ่งคาดว่าจะสรุปได้ในเร็วๆนี้ ส่วนการลงทุนในรูปแบบการเข้าไปพัฒนากับเจ้าของที่ดินนั้น ถือว่าเป็นการลงทุนที่มีแนวโน้มที่ดีมาก ด้วยการเพิ่มโอกาสให้กับธุรกิจผ่านเครือข่ายของเครือ บุญรอดซึ่งเป็นบริษัทแม่ของสิงห์เอสเตท และ เนอวานา เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มบุญรอด ที่มีที่ดินอยู่ทั่วประเทศทั้งที่เป็นดีลเลอร์ และธุรกิจอื่นๆที่เกี่ยวเนื่อง

 

การเปิดกว้างในการลงทุนนั้นเป็นการเพิ่มโอกาสทางธุรกิและรองรับแผนการเติบโตของบริษัทในอนาคต โดยจะเห็นชัดเจนตั้งแต่ปี 2562 เป็นต้นไป ล่าสุด ได้ลงทุนร่วมกับเจ้าของที่ดินในจังหวัดอุดรธานี จำนวน 10 ไร่ ติดกับบึงศรีประจักษ์ โดยจะนำบ้านแบรนด์เนอวานา บียอนด์ ซี่รี่ใหม่ระดับราคาขายตั้งแต่ 20 ล้านบาทขึ้นไป รวมมูลค่ากว่า 3,000 ล้านบาท(ลบ.) ซึ่งจะเปิดตัวในช่วงปลายปี 2561

ส่วนการร่วมทุนกับกลุ่มทุนญี่ปุ่นบนที่ดินย่านศรีนครินทร์ – ร่มเกล้า (กรุงเทพกรีฑา ตัดใหม่)จะเป็นหนึ่งในแผนการพัฒนาที่ดินทั้งหมด 250 ไร่ ซื้อจากบมจ.บางกอกแลนด์ รองรับการลงทุนในระยะ5 ปีข้างหน้า แบ่งการพัฒนาออกเป็น 4 เฟสรวมมูลค่าการพัฒนาโครงการไม่ต่ำกว่า 25,000 ล้านบาท พัฒนาในรูปแบบเป็น Township ระดับ High-End ซึ่งจะมีทั้งพื้นที่เพื่อการพาณิชย์, พื้นที่เพื่อการอยู่อาศัยหลากหลายรูปแบบ และพื้นที่ Community Mall เพื่อรองรับกับ Lifestyle และการใช้ชีวิตของกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย  พื้นที่เพื่อการอยู่อาศัยอาทิ แบรนด์ บียอนด์ , ดิฟายน์ และแบบบ้านอีกหลายซี่รีส์ รวมแล้วน่าจะพัฒนาที่อยู่อาศัยออกมาไม่ต่ำกว่า 1,000 ยูนิต

 

“ผู้ร่วมลงทุนมีความสนใจในตลาดที่อยู่อาศัยแนวราบ และเราเองก็อยากทำบ้านรองรับลูกค้าญี่ปุ่นความชัดเจนและการเปิดพันธมิตรรายใหม่ น่าจะประมาณเดือนตุลาคมนี้” นายศรศักดิ์ กล่าวพร้อมกับว่า ขณะนี้บริษัทได้เริ่มการพัฒนาที่ดิน 250 ไร่โดยได้แบ่งที่ดินประมาณ 19 ไร่พัฒนาโครงการ เนอวานา ดีฟายน์ ศรีนครินทร์ – พระราม 9  (Nirvana DEFINE Srinakarin-Rama9) ทาวน์โฮม 3 ชั้น ระดับไฮเอนด์ จำนวน 173 ยูนิต ราคาขายเริ่มต้นที่ 7.7 – 15 ล้านบาท มูลค่าโครงการรวม 1,900 ล้านบาท

โครงการ เนอวานา ดีฟายน์ ศรีนครินทร์ – พระราม 9  พัฒนาภายใต้แนวคิด  “ทาวน์โฮมที่เป็นได้…มากกว่าบ้านเดี่ยว” ตอบสนองไลฟ์สไตล์ของกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ต้องการที่อยู่อาศัยที่ให้พื้นที่ใช้สอยที่มากกว่าการอยู่คอนโดมิเนียมปัจจันมียอดขายไปแล้ว 500 ล้านบาทคิดเป็น 85% ของยอดขายในเฟสแรก หรือคิดเป็น 25% ของมูลค่าโครงการ ซึ่งถือเป็นความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง และคาดการณ์ว่าจะสามารถปิดยอดขายได้มากกว่า 50%  ของทั้งโครงการภายในสิ้นปี 2561 นับเป็นก้าวแรกของการเปิดตัวสินค้าของเนอวานาไดอิ บนทำเลถนนกรุงเทพกรีฑาตัดใหม่เริ่มก่อสร้างในช่วงไตรมาส 3/2560 และคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในไตรมาส 4/2562

นายศรศักดิ์ ยังกล่าวว่า บริษัทฯมั่นใจในศักยภาพของทำเลติดถนนใหญ่ศรีนครินทร์ – ร่มเกล้า (ถ.กรุงเทพกรีฑาตัดใหม่)  ซึ่งถนนกรุงเทพกรีฑาตัดใหม่เป็นหนึ่งในถนนสายสำคัญของกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันออก มีช่องการจราจรกว้างถึง 8-10 ช่องทางการจราจร เชื่อมต่อกับถนนสายหลักของกรุงเทพฯ เข้า-ออกเมืองได้ง่ายและรวดเร็ว อาทิ ถนนพระราม 9, ถนนศรีนครินทร์, ถนนพัฒนาการ, ถนนรามคำแหง, ถนนมอเตอร์เวย์ และถนนกาญจนาภิเษก (วงแหวนตะวันออก) โครงการยังรายล้อมด้วยรถไฟฟ้าถึง 3 สาย คือ รถไฟฟ้าในอนาคตสายสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง) สถานีศรีกรีฑา ซึ่งโครงการอยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้าง คาดก่อสร้างแล้วเสร็จปี 2564 ขณะที่โครงการรถไฟฟ้าในอนาคตสายสีส้ม (ตลิ่งชัน-มีนบุรี) ที่กำลังก่อสร้างในส่วน ศุนย์วัฒนธรรม-,,มีนบุรีกำหนดแล้วเสร็จปี2566  รวมไปถึงรถไฟฟ้า Airport Rail Link สถานีหัวหมาก ทำให้การเดินทางเชื่อมต่อได้สะดวกไม่ต่างจากการอยู่ในเมือง อีกทั้งทำเลกรุงเทพกรีฑา ยังรายล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่พร้อมสรรพ ทั้งห้างสรรพสินค้า โรงพยาบาลชั้นนำ โรงเรียนนานาชาติระดับแนวหน้า และสนามกอล์ฟที่มีชื่อเสียงถึง 2 แห่ง