เชื่อว่า The Reserve Sathorn  เป็นอีกหนึ่งโครงการที่มีหลายต่อหลายคนจับรอเฝ้ารอกันมานาน ว่า The Reserve เปิดตัวใหม่ในครั้งนี้จะมีอะไรให้น่าตื่นตาตื่นใจกันบ้าง ซึ่งก็ไม่เหนือความคาดหมาย The Reserve Sathorn  เป็นหนึ่งในโครงการระดับ Super Luxury  ต้นๆถนนสาทร ที่ไม่ได้มี Residential เปิดตัวขึ้นมานานแล้ว และชื่อของ Brand The Reserve  ซึ่งเป็น Flagship Condominium Brand จาก พฤกษา เรียล เอสเตท ก็ไม่เคยทำให้ใครผิดหวัง

Premium Brand on Prime Location 

The Reserve Sathorn ตั้งอยู่ภายในซอยสาทร3 หรือที่รู้จักกันคือซอยสวนพลู ซึ่งเป็นซอยที่มีความสำคัญมากของย่านนี้เพราะเป็นซอยที่สามารถลัดตัดไปออกได้หลากหลายเส้นทางทั้งถนนนางลิ้นจี่ ถนนนราธิวาส ถนนพระราม4 ถนนพระราม3 จึงมีความสะดวกมากๆในการขับรถมีเส้นทางเลี่ยงการจราจรที่คับคั่งบนถนนสาทรในช่วงเวลาเร่งด่วนได้เป็นอย่างดี

 

ซอยสวนพลู แต่เดิมเป็นทำเลที่เหล่าคหบดี ผู้ที่มีฐานะในอดีตนิยมตั้งรกรากอาศัยอยู่ในย่านนี้ อาทิบ้านซอยสวนพลู ของท่าน มรว.คึกฤทธิ์ ปราโมช  เพราะแต่เดิมย่านสาทรเป็นคลองทอดยาวไปยังแม่น้ำเจ้าพระยา จึงเป็นแหล่งการค้าและลำเลียงสินค้าที่มีความสำคัญมายาวนาน จนแม้ในสมัยปัจจุบันเราก็ยังเห็นได้ว่าย่านถนนสาทรเป็นย่าน Financial District ที่มีความสำคัญมากๆของกรุงเทพ มีออฟฟิศเกรดเอ และสำนักงานบริษัทด้านการเงินการธนาคาร รวมถึงบริษัทข้ามชาติมากมายที่นิยมเปิดออฟฟิศสำนักงานในย่านนี้ ตัวเลขคนทำงานในโซนสาทรมีมากถึงกว่า 2 แสนคนเลยทีเดียว ทั้งชาวไทยและต่างชาติ แต่ที่ผ่านมา เราอาจจะไม่ค่อยเห็น Residential เปิดตัวมากนักบนย่านนี้  ก็เห็นได้ว่ายังคงมีความต้องการในการมองหาที่พักอาศัยอีกเป็นจำนวนมาก  เพราะย่านนี้มีความสะดวกสบายในการเดินทาง ทั้งขับรถ หรือจะเลือกเดินทางด้วยรถไฟฟ้า ก็มีให้เลือกทั้ง ใต้ดินและรถไฟฟ้า BTS  และก็ยังเชื่อมต่อแหล่งการใช้ชีวิต ได้แบบง่ายๆ

ซอยสาทร3 หรือ ซอยสวนพลู
ไม่ไกลจากย่าน Financial District บนสาทร
เชื่อมต่อถนนนางลิ้นจี่ ถนนพระรามสี่ รวมถึงพระราม3 และ นราธิวาส
เพียง 80 เมตรจากถนนสาทรก็ถึงหน้าโครงการ

Project Information

โครงการ The Reserve Sathorn นำเสนอความคลาสสิคผ่านแนวคิดสถาปัตยกรรมแบบ Heritage Modern Colonial พร้อม ออกแบบ landscape แบบ symmetrical balance ที่เน้นความสมมาตรอันงดงาม ประกอบกับการนำต้นหมาก และต้นพลูมาเป็นส่วนประกอบหลักสอดรับกับชื่อซอย “สวนพลู” และเป็นการสะท้อนบรรยากาศอาคารพักอาศัยแบบคหบดีของไทยในอดีต น่าชื่นชมว่าการนำต้นไม้แบบไทยๆมาตกแต่งจัดวางให้ดูแพงได้อย่างลงตัว

รายละเอียดโครงการ 

Developer                            : Pruksa Real Estate Plc.

Total Land area                  : 1-1-53.3 Rai
Project Type                        : 1 Building, 30 Stories with 2 Basement Floors
Total Number of Units        : 134 Units
Parking                                : 100% (Conventional Parking)

 

แม้ตัวโครงการจะติดถนนใหญ่ภายในซอยสวนพลูแต่โครงการก็ได้ออกแบบให้มีความเป็นส่วนตัวสูงจากรั้วที่บังสายตาจากผู้สัญจรนอกโครงการ  ที่พื้นที่ด้านหน้าโครงการจะมี  Center Court ให้ความร่มรื่นที่เชื่อมต่อกับ Concierge by The Reserve Lounge ด้านหน้าอาคารช่วยให้ลูกบ้านและแขกผู้มาเยี่ยมโครงการได้พักผ่อนเต็มที่

Center Court เชื่อมสู่ Concierge by The Reserve Lounge

 

Concierge by The Reserve Lounge ขนาดใหญ่ด้านหน้าโครงการ เชื่อมต่อจาก Center Court  เสมือนสวนหน้าบ้านที่เป็นที่พักผ่อน ให้ร่มรื่นแก่ทั้งลูกบ้านและแขกที่มาเยือน นอกจากนี้ ยังมี Center court Lobby อีกโซนหนึ่งเป็นทางเลือกให้กับลูกบ้านที่ชอบความเป็นธรรมชาติสูดอากาศและร่มเงาใต้ต้นไม้

อาคารโครงการ The Reserve Sathorn  เป็นอาคารสูง 30 ชั้นและยังมีชั้นใต้ดินอีก 2 ชั้น ซึ่งเป็นชั้นจอดรถ นอกจากนี้ชั้น 2-9 ก็ถูกออกแบบให้เป็นชั้นจอดรถเช่นเดียวกัน จึงทำให้โครงการ The Reserve Sathorn  เป็น โครงการที่มีที่จอดรถถึง 100 %  ซึ่งหายากมากๆในปัจุบัน แต่ที่จอดรถนี้ไม่ได้นับเป็นพื้นที่ขายรวมในโฉนดนะครับ

สำหรับชั้นพักอาศัยเริ่มต้นที่ชั้น 10 จนถึง 22 จะเป็นชั้น Typical Floors จะมี 8  Units ต่อชั้น  จากนั้นชั้น 23-26 ก็จะเหลือเพียง 6 Units ต่อชั้น และชั้น 27-28 ก็จะเหลือเพียง 4 Units ต่อชั้น และชั้น 29-30 ก็จะเป็นชั้น Facilities แบบเต็มๆ ทั้ง 2 Floors

 

 

Facilities หรูสุด สวยสุด ครบที่สุด

สิ่งอำนวยความสะดวกเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่มีผลกับการตัดสินใจของกลุ่มลูกค้าระดับ A Segment ที่มีกำลังซื้อโครงการระดับ 250K ขึ้นไปให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก  The Reserve ทุกโครงการที่ผ่านมา ได้สร้างมาตรฐานของ Facilities ที่ครบถ้วนสุดหรูหรามาแล้ว แต่มาในครั้งนี้ The Reserve Sathorn ได้ยกระดับมาตรฐานใหม่ของสิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการและการให้บริการผู้พักอาศัยได้เหนือยิ่งกว่า อาทิ Concierge by The Reserve Lounge มาตรฐานโรงแรม 5 ดาว

Facilities highlight 

Center Court Lobby    โถงต้อนรับที่ออกแบบให้โอบล้อมคอร์ทน้ำ

Private Spa & Salon    ห้องบริการสปาและซาลอนส่วนตัว ที่คุณสามารถนัดหมายเจ้าหน้าที่ส่วนตัวมาดูแลได้ถึงที่

Exclusive GYM with Yoga & Boxing Studio  อัดแน่นด้วยอุปกรณ์ทันสมัยจาก Techno Gym จะเล่นหนักเล่นเบาหรือชกมวยก็ทำได้เต็มที่

Crystal Lounge     ห้องรับรองในรูปแบบเรือนกระจกวิวเมืองที่ชั้นบนของโครงการ

Colonial Thermal Pool    สระว่ายน้ำระบบปรับอุณหภูมิ ที่ชั้นบนสุดของโครงการ พร้อม Jacuzzi ที่แยกเป็นมุมส่วนตัวอย่างเป็นสัดส่วน

Concierge by The Reserve  ยกระดับการให้บริการที่เหนือกว่าที่ไหน

 

 

 

Unit Type 

Private is luxury  ด้วยแนวคิดนี้ ความหรูหราไม่ใช่เพียงสิ่งเดียวที่ทำให้โครงการ Luxury ดูดีได้ ด้านความเป็นส่วนตัวในการพักอาศัยก็เป็นอีกปัจจัยที่มีความสำคัญ  The Reserve Sathorn  จึงจัดวางห้องพักอาศัยเริ่มต้นเพียง 8 ห้องต่อชั้น ทำให้สามารถออกแบบ Unit ที่หน้ากว้าง ทำให้หลายๆส่วนภายในห้องพักอาศัยสามารถรับวิวจากภายนอกอาคารได้อย่างเต็มที่   Unit highlight ของโครงการจะเป็นห้องแบบ 2 ฺBeds  ขนาด 104 ตรม. ที่มี Crystal Balcony  แบบ Semi outdoor  พร้อมกระจกโค้งเข้ามุม ซึ่งเป็น Unit ที่จัดเตรียมไว้เป็นห้องตัวอย่างของโครงการด้วย

นอกจากนี้ ห้องแบบ 1 ฺBed Room  56.50 ตรม. และ 1  Bedroom 57.35 ตรม. ซึ่งเป็นแบบห้องหน้ากว้าง หันรับทิศเหนือ และ ใต้ ของอาคารก็เป็นห้องที่มีความน่าสนใจมากๆแม้จะไม่ได้ Crystal Balcony แต่ก็สามารถรับวิวได้ทั้งจากห้องนอน และห้องนั่งเล่น มั่นใจว่าเป็น Unit Type ที่ขายดีมากๆอีกแน่นอน เพราะมี Function ภายในห้องที่จัดวางได้อย่างลงตัว ที่แทบจะหาห้องแบบนี้ในท้องตลาดไม่ได้เลย

 

 

 

สิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับโครงการระดับ Super Luxury แบบนี้คือห้องแบบ Duplex ที่ก็ยังคงเป็นสิ่งที่ลูกค้ากลุ่มที่ต้องการได้พื้นที่การพักอาศัยเหมือนอยู่บ้านแต่ก็ยังอยากได้ความสะดวกสบายเหมือนการอยู่คอนโดมิเนียมต้องการ The Reserve Sathorn เลยได้เตรียมห้อง Duplex แบบ 2 ห้องนอน ขนาด 125.70 ตรม.(81+44.70 ตรม.) ไว้รองรับความต้องการของลูกค้ากลุ่มนี้ด้วย

เปิดห้องตัวอย่าง 2 Bedrooms 104 ตรม. พิเศษด้วย Crystal Balcony

ความรู้สึกแรกของการได้เข้ามาสัมผัสสำนักงานขายโครงการ The reserve sathorn ก็สามารถรับรู้ได้ถึงความพิถีพิถันในการรังสรรค์ผลงานตั้งเป้าที่จะเป็นการสร้างมาตรฐานใหม่ของ Brand The Reserve งานออกแบบทั้งในทุกๆส่วนงานการเป็นทำงานร่วมกันของบริษัทออกแบบชั้นนำที่มีชื่อเสียงและได้รับการยอมรับในคุณภาพของผลงาน ไม่ว่าจะ PIA Interior ที่รับผิดชอบเรื่องงาน Interior Design และ TROP : Terrains+Open space  ที่ทำการบ้านมาอย่างดีในการออกแบบงานภูมิสถาปัตย์ หรืองาน Landscape ของโครงการ

ห้องตัวอย่างแบบ B8 หรือห้อง 2 BedRooms ที่มี Crystal Balcony ที่เป็น iconic design ของโครงการถูกจัดเตรียมไว้เพื่อเป็นห้องตัวอย่างของโครงการ  ซึ่งสำหรับห้องประเภทอื่นๆ สเป็คของวัสดุที่ใช้ค่อนข้างไม่แตกต่างกันมากนักครับ

 

ห้อง  2  Bedrooms  104 ตรม. เป็นห้องตัวอย่างขนาดเดียวที่จัดเตรียมไว้ที่สำนักงานขายโครงการ

ประตูห้องวัสดุไม้จริง ขนาดแบบ Oversize ช่วยสร้างความโอ่โถง ความรู้สึกหรูหราและมีความเป็นพิเศษตั้งแต่ก่อนเข้าห้อง อีกทั้งยังช่วยเรื่องการขนย้าย Furniture ชิ้นใหญ่ๆ ทั้งโซฟา หรือ เตียงขนาดใหญ่ หรือแม้แต่เปียโน ซึ่งเข้ากับการตกแต่งในห้องได้อย่างง่ายๆ

ติดตั้ง Digital Door lock แบบ 3 ระบบของ Samsung มาให้เรียบร้อย ข้อดีของรุ่นนี้คือสามารถปลดล็อคได้ทั้งจากกุญแจ , กดรหัส ,และ Bluetooth จาก Smartphone

โครงการติดตั้ง VDO Door phone จาก Bticino เพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้พักอาศัย กรณีที่มีแขกมาติดต่อขอพบเจ้าหน้าที่ รปภ. ของโครงการจะกดเรียกเข้ามาที่ห้องเพื่อให้ลูกบ้านได้ตรวจสอบก่อน ซึ่งหากลูกบ้านไม่อยู่บ้านระบบจะส่งข้อมูลเรียกไปแสดงบน Smartphone ของลูกบ้านเพื่อทำการตรวจสอบได้อีกด้วย

โครงการขายแบบ Fully Fitted  ช่วยให้พวกตู้และชั้นวางของภายในห้อง ลงตัวและใช้งานได้อย่างเพียงพอความต้องการของผู้พักอาศัย เมื่อเข้ามาภายในห้องโถงทางเดินโครงการก็จัดตู้แบบลิ้นชักเก็บของและชั้นโชว์ และตู้รองเท้าไว้ให้เรียบร้อย  พื้นห้องส่วนห้องนั่งเล่นและห้องนอนเป็น Engineering Woodหนา 14 มม. ปูแบบ Herrinobone  pattern  ความสูงจากพื้นถึงฝ้าภายในห้องได้ถึง 3 เมตรเลยทีเดียว

ชั้นวางของ Build in
ตู้เก็บของที่เก็บซ่อนได้แบบเนียนสายตาและใช้งานได้จริง

ชุดครัวซี่รี่ใหม่ล่าสุด Gorenje จากที่ได้เห็นของจริงแล้วต้องบอกเลยนี่มันชุดครัวในฝันของคนทำอาหารเลยทีเดียว ในห้องนี้เราจะได้ห้องครัวแบบปิดด้วยครับ จึงทำให้เราสามารถทำอาหารได้เต็มที่ไม่ต้องกังวลเรื่องกลิ่นและควันเข้าไปรบกวน คนอื่นๆหรือไปติดตามเฟอร์นิเจอร์อีกด้วย   ชุดครัวชุดนี้มีความพิเศษตรงที่งาน Design ที่ทันสมัย จาก  ORA ITO  ดีไซน์เนอร์หนุ่มไฟแรงชาวฝรั่งเศส ที่ได้มาร่วมงานออกแบบให้กับ Gorenje ครั้งนี้

พื้นห้องครัว เป็น กระเบื้อง Granito ขนาด Extra size  80×80 ซม ช่วยเรื่องการดูแลรักษาความสะอาดของพื้นห้องครัวที่ต้องเปรอะบ่อยได้เป็นอย่างดี

ชุด Hop เป็นแบบ Induction 4 หัว พร้อม Bridge connect เชื่อมกันช่วยให้วาง ภาชนะก้นใหญ่ได้ ห้อง นี้ยังได้ Wine Cellar ช่วยการเก็บรักษาไวน์ขวดโปรดให้คงคุณภาพได้นานยิ่งขึ้น
Hood รุ่นนี้พิเศษที่มีทั้งระบบดูดควันและระบบฟอกอากาศช่วยกำจัดกลิ่นระบบ และชุดครัวนี้ยังได้เครื่องล้างจานอัติโนมัติพร้อม Combi Microwave-Oven ด้วย
อ่างล้างจานจาก Blanco ที่วัสดุเป็นหินเคลือบ พร้อม Counter Top เป็นหิน Mable stone เรียบหรูทนทาน และยังติดตั้ง Back splash กระจก ที่ผนังกันเปียกให้เรียบร้อย
ใต้ Sink ล้างจาน ติดตั้ง Food wase disposer เครื่องบดเศษอาหารจาก Teka ซึ่งช่วยให้ลดการอุดตันของท่อน้ำทิ้ง

ผนังห้องจริงที่ส่งมอบให้ลูกค้าจะได้เป็นฉาบเรียบทาสีขาว แต่สำหรับในห้องตัวอย่างผนังเป็นการตกแต่งเพิ่มเติมให้ดูเป็นตัวอย่าง

ชุด Island นี้สามารถดัดแปลงเป็นเค้าน์เตอร์เครื่องดื่มหรือโต๊ะรับประทานอาหารได้และชุดนี้ไม่ได้รวมอยู่ในราคาขายด้วยเป็นเพียงชุดตกแต่งรวมถึงชั้นวางแก้วด้วยซึ่งห้องจริงๆจะเป็นพื้นที่โล่งๆเราสามารถจัดให้เป็นมุมรับประทานอาหารได้

ห้อง Living Room ค่อนข้างมีพื้นที่มากๆ สามารถวางเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่ๆ อย่างโซฟาแบบ Full set ได้เต็มๆทั้งพื้นที่ อีกทั้งยังสามารถเดินออกไปยัง Crystal Balcony ด้านนอกได้ ซึ่งเป็น Balcony แบบ Semi Outdoor คือเป็นระเบียงแบบปิด แต่ก็สามารถเปิดหน้าต่างออกเพื่อยืนรับลมจากนอกอาคารได้เช่นกัน โครงการได้แขวนชิงช้าไว้เป็นลูกเล่นการตกแต่ง

Crystal Balcony แบบ Semi Outdoor ที่แขวนชิงช้าไว้นั่งพักผ่อนแบบชิลๆ
กระจก Triple Insulate glass หนา 3 ชั้น โค้งมุม เพิ่มความหรูแบบไร้รอยต่อ และยังมีคุณสมบัติช่วยลดเสียงรบกวน ,กันความร้อนจากภายนอกโครงการ อีกด้วย
การซ่อน Compressor แอร์ ไว้ด้านข้างและทำประตูกั้นปิดบังไว้ ช่วยให้ไม่เกะกะสายตา และไม่ทำให้ความร้อนเข้ามารบกวนภายในห้องพักอาศัยด้วย

Master Bedroom

ห้อง Master Bedroom ที่นี่ส่วนตัวผมค่อนข้างชอบมาก เพราะมีพื้นที่ใช้งานแบบเต็มๆ ไม่อึดอัดแม้จะเติม Furniture เข้าไปแบบครบๆ  สามารถวางเตียงแบบ King Size แบบ 6 ฟุต ได้และก็ยังมีพื้นที่ด้านข้างและปลายเตียงเหลือๆ สามารถวางตู้ข้างเตียงและโต๊ะทำงานเข้าไปอีกก็ยังสามารถทำได้

แม้ในห้อง Master bedroom นี้จะไม่มีส่วนระเบียงแต่ก็ได้กระจกที่สามารถเปิดรับชมวิวด้านนอกหรือเปิดรับแสงสว่างจากด้านนอกได้อีกด้วย ผ้าม่านโครงการไม่ได้แถมให้นะครับ แต่ทำการซ่อนรางผ้าม่านไว้ให้  ไฟทุกดวงในห้องนอนและทุกๆห้องเป็นหลอดLED ที่แสงสว่างไม่ทำร้ายสายตาและยังช่วยประหยัดค่าไฟฟ้าอีกด้วย

พื้นที่ปลายเตียงเหลือเยอะมากๆ สามารถเดินได้อย่างสบายๆ สามารถติดตั้งทีวีที่ผนังห้องหรือวางตู้ Sideboard สำหรับวางทีวีก็ยังมีพื้นที่เหลือสบายๆ
พื้นที่ด้านข้างเตียงสามารถวางตู้หรือวางโต๊ะทำงานได้เลย พื้นที่กว้างสุดๆ
Walk in closet เชื่อมต่อจากห้องนอน
และเชื่อมสู่ห้องน้ำสามารถ แต่งตัวได้ทันทีหลังจากอาบน้ำเสร็จ ให้เป็นสัดส่วน
ภายในตู้เสื้อผ้าแบบ His and Her แบ่งชั้นการเก็บเสื้อผ้าและอุปกรณ์การแต่งตัวได้อย่างลงตัว

ห้องน้ำที่อยู่ในห้อง Mater Bedroom นี้ก็ถูกออกแบบให้เหมาะสมกับพฤติกรรมและสรีระของผู้พักอาศัยได้หลายเชื้อชาติ จากการทำวิจัยตลาดย่านนี้ทีมงานพบว่ากลุ่มเป้าหมายจะเป็นคนไทยและชาวตะวันตกค่อนข้างมาก  ทำให้สุขภัณฑ์และอุปกรณ์ต่างๆภายในห้องน้ำต้องเป็นรุ่นที่เหมาะสมกับสรีระ โดยเฉพาะชุด Washlet Toilet จากที่ทีมงานเคยใช้ TOTO  ก็ได้เปลี่ยนมาใช้ GROHE  ซึ่งเป็น German brand จึง Design ให้เข้ากับสรีระชาวตะวันตกมากกว่า รวมถึง Bathtub แบบเต็มตัว Series ล่าสุดจาก KASCH ก็เป็น German Brand เช่นเดียวกัน

Washlet แบบลอยตัว ไซส์ใหญ่ เหมาะกับสรีระคนทุกวัยทุกเชื้อชาติ พร้อม Controller แบบติดผนังซึ่งสามารถถอดออกมากดสั่งงานได้อย่างอิสระ
อ่างอาบน้ำแบบเต็มตัว จาก KASCH พร้อมระบบก๊อกแบบผสม
Counter อ่างล้างหน้าใหญ่มาก สามารถวางสิ่งของเครื่องใช้ได้อย่างเต็มที่ ปูพื้นด้วย Marble stone ปิดหน้าด้วย Aluminium สี Rose gold พร้อมกระจกเงาบานใหญ่
กระจกกั้นอาบน้ำติดตั้งมาให้เรียบร้อย กระจกหนาดี ดูปลอดภัยมาก
ชั้นวางขวดแชมพู ขวดสบู่และอุปกรณ์อาบน้ำเจาะฝังเข้ากับผนังมาให้เรียบร้อย ชุดสายฝักบัวและ Rain shower จาก GESSI เรียบหรู ทนทาน

Standard Bedroom

จะเรียกว่าห้องนอนเล็กก็คงจะไม่ได้เพราะว่าด้วยขนาดพื้นที่ ที่แม้ว่าจะไม่ใช้ Master Bedroom แต่ก็มีพื้นที่ภายในห้องที่เหลือๆเลยทีเดียว  ห้องนอนนี้จะเชื่อมต่อกับโซนห้องนั่งเล่น แต่จะมีความเป็นส่วนตัวมากขึ้นเพราะมีผนังแบบบานสไลด์เลื่อนเพื่อปิดกั้นเป็นผนังห้องแบบทึบได้อีกด้วย  ขนาดพื้นที่ในห้องนอนนี้สามารถวางเตียงขนาดควีนไซส์ 5 ฟุตได้กำลังดี และยังมีพื้นที่เหลือๆวางโต๊ะทำงานได้อีกด้วย  และก็ยังมีห้องน้ำในตัวแต่จะเป็นห้องน้ำแบบ Double access ที่เปิดได้ 2 ทางใช้ร่วมกันกับห้องน้ำแขกอีกด้วย

 

ภายในห้องนอนนี้สามารถวางโต๊ะทำงานได้ พร้อมตู้เสื้อผ้า Build in แบบ 3 บาน ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเลยทีเดียว
พื้นที่ข้างเตียงเหลือๆวางโต๊ะหัวเตียงได้สบายๆ ผนังทึบแบบสไลด์เปิดออกไปก็เจอห้องนั่งเล่น
สุขภัณฑ์ห้องน้ำนี้จะไม่ได้ติดตั้งแบบ Wash let มาให้นะครับ จะเป็นชักโครกแบบมาตรฐาน
อ่างล้างหน้าพร้อมกระจกเงาบานใหญ่สเป็คเดียวกับห้องน้ำใน Master Bedroom
Showbox ติดตั้งมาให้เรียบร้อย ห้องนี้จะมีแต่ Shower ไม่มี Rain shower มาให้

บทสรุปความน่าสนใจโครงการ The Reserve Sathorn

โครงการ The Reserve Sathorn  เป็น Residential  ระดับ Super Luxury ที่แทบจะไม่มีคู่แข่งในทางตรงๆเลยเมื่อเทียบกับทำเลต้นถนนสาทร ซึ่งทำเลย่านนี้ไม่ค่อยมีโครงการ Residentialพักอาศัยเปิดตัวมานานมากแล้ว ด้วยศักยภาพทำเลเองอยู่บนถนนสาทรช่วงต้นๆ ภายในซอยสาทร 3 หรือซอยสวนพลูซึ่งเป็นถิ่นพักอาศัยของเหล่าคหบดีมาแต่เดิม ซึ่งมีความสงบแม้ว่าจะอยู่บนทำเลใจกลางเมือง

ด้านการเดินทางสำหรับคนที่ขับรถจะสะดวกมากเพราะเชื่อมต่อถนนหลักๆได้หลายเส้นทาง มีทางเลือกทางเลี่ยงเวลารถติดได้มากทั้ง สาทร ,นางลิ้นจี่ ,พระราม4 ,พระราม3 และนราธิวาส  หรือหากเร่งรีบก็มีรถไฟฟ้าให้เลือกใช้ทั้งต้นถนนสาทรก็มี MRT สถานีลุมพินี หรือไปทางช่องนนทรี ก็มี BTS ให้เลือกใช้  และแถวนี้ก็มีร้านอาหารดีๆหรือ Street Food ให้เลือกกินมากมาย เพราะมีชุมชนมากมายภายในซอยนี้ ไม่อดตายแน่นอน

มุมมองด้านการซื้ออยู่อาศัย  แถวนี้มีแหล่งการใช้ชีวิตมากครับทั้ง Office ,โรงเรียนชื่อดัง,  ร้านอาหาร  ใกล้โรงพยาบาลทั้ง St.Louise , BNH , โรงพยาบาลกรุงเทพคริสเตียน ,โรงพยาบาลจุฬา หากอยากจะไป Shopping ก็ไม่ไกลจากสยาม และชิดลม ที่มีห้างสรรพสินค้าให้เลือกช้อปตามสไลต์มากมาย และโครงการระดับ Super Luxury ที่มีความเป็นส่วนตัวสูงแบบนี้ พร้อมที่จอดรถ 100 %  อัดแน่นด้วย Facilities ระดับ First class  หาไม่ได้แน่นอนในย่านนี้

มุมมองด้านการลงทุน ด้านการซื้อลงทุนทำเลย่านสาทรอาจจะ Growth ไม่ได้หวือหวามากนักเมื่อเทียบกับสุขุมวิท แต่หลายต่อหลายปัจจัย ที่ออกแบบรูปแบบโครงการมาได้เรียกว่าเป็น Rare Item ที่ควรต้องมี ของโครงการก็สร้างความน่าสนใจให้กับนักลงทุนที่มีกำลังซื้อสูงอยู่ไม่น้อย ด้านการปล่อยเช่า ตลาดย่านนี้เป็นตลาดปล่อยเช่าชาวยุโรป ระดับผู้บริหาร ที่ทำงานในย่านสาทร , วิทยุ , พระราม4 ที่มีสำนักงานต่างชาติค่อนข้างมาก  ซึ่งอาจจะต้องใช้ความสามารถสูงหน่อยในการปล่อยเช่า  ราคาขายโครงการเฉลี่ยอยู่ประมาณ 280,000 บาท ต่อ ตรม.

จองและทำสัญญา 

UNIT TYPE BOOKING CONTRACT INSTALLMENT (35)
1 Beds 50,000 350,000 35,000
2 Beds 100,000 700,000 50,000
2 Beds Duplex 200,000 1,200,000 120,000

สำนักงานขายและห้องตัวอย่างเตรียมเปิดให้ชมแล้ว ลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิพิเศษสูงสุด 700,000 บาท* ได้แล้วที่ http://bit.ly/2NQbm7P หรือโทร 1739