ชิค รีพับบลิคฯ เผยตลาดเฟอร์นิเจอร์ ตกแต่งบ้าน ครึ่งปีหลัง61 เติบโตต่อเนื่อง สังเกตจากผู้ประกอบการรายใหญ่ผุดโครงการใหม่มากขึ้น รับอานิสงส์ได้งานมูลค่ามากกว่า 100 ล้านบาท  แย้มแผน 5 ปีเตรียมขยาย 5 สาขาใหม่ ล่าสุดมีที่ดินรองรับแล้ว 3 สาขาย่านรามอินทรา อุดรธานี และกัมพูชา คิดเป็นเม็ดเงินลงทุน 440 ล้านบาท มั่นใจปีนี้เข้าเทรดตลาดหลักทรัพย์ mai แน่นอน

 

 

นายกิจจา ปัทมสัตยาสนธิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ชิค รีพับบลิค จำกัด(มหาชน)หรือ CHIC ผู้จัดจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์ สินค้าตกแต่งบ้านและของใช้ในบ้านในรูปแบบร้านค้าเดี่ยวภายใต้แบรนด์ “ชิค รีพับบลิค” (CHIC)  และ“ริน่า เฮย์” (RINA HEY) เปิดเผยถึงภาพรวมตลาดเฟอร์นิเจอร์ ของตกแต่งบ้าน ในครึ่งปีหลัง 2561 ว่า มีแนวโน้มดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง เติบโต 15-20% เมื่อเทียบกับครึ่งปีหลัง 2560 โดยเฉพาะตลาดกลาง-บน  สังเกตได้จากการที่ผู้ประกอบการอสังหาฯมีการเปิดตัวโครงการใหม่ๆมากขึ้น โดยเฉพาะตั้งแต่เดือนธันวาคม 2560 ที่ผ่านมา บริษัทฯสามารถรับงานโครงการได้มากถึงกว่า 100 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีแบ็คล็อก(Backlog)ในมือมูลค่า 120 ล้านบาท และสามารถส่งมอบให้ลูกค้าได้ภายในระยะเวลา 8-12 เดือน คิดเป็นยอดขาย 25% ของยอดขายรวมในปีนี้ที่คาดว่าจะมีอัตราการเติบโตจากปีที่ผ่านมาประมาณ 10-15%


สำหรับแผนการดำเนินการของบริษัทฯในระยะเวลา 5 ปีนับจากนี้(2561-2565)จะเปิดโชว์รูมใหม่ในกรุงเทพฯ-ต่างจังหวัด และประเทศเพื่อนบ้าน เพิ่มอีก 5 สาขา จากปัจจุบันที่มีอยู่แล้ว 4 สาขา ในกรุงเทพฯ 3 สาขา และพัทยา 1 สาขา  ซึ่งขณะนี้มีที่ดินรองรับแล้ว 3 สาขาคือ 1.สาขารามอินทรา ใกล้โรงพยาบาลนพรัตน์ราชธานี ซึ่งเป็นการเช่าที่ดินระยะยาว 30 ปี บนพื้นที่ 7 ไร่ ใช้เม็ดเงินลงทุนประมาณ 250 ล้านบาท โดยจะเริ่มดำเนินการก่อสร้างในไตรมาส3/2561 คาดว่าจะแล้วเสร็จในไตรมาส 3/2562

 

2.สาขาอุดรธานี เป็นการเช่าที่ดินระยะยาว 30 ปี บนพื้นที่ 6 ไร่ คาดว่าจะใช้เม็ดเงินลงทุนประมาณ 150 ล้านบาท โดยจะเริ่มดำเนินการก่อสร้างภายในระยะเวลา 1-1.5 ปี และจะเปิดให้บริการได้ภายในปี 2563

 

3.สาขากัมพูชา ตั้งอยู่ที่ ชั้น 1 ห้าง Aeon Mall Sen Sok City สาขา2  กรุงพนมเปญ  พื้นที่ 3,500 ตารางเมตร สัญญาเช่า 9 ปี   งบลงทุน 30-40  ล้านบาท (เฉพาะตกแต่งภายใน) ซึ่งจะเปิดให้บริการภายใต้แบรนด์ “ชิค ลีฟวิ่ง” คาดว่าจะเปิดให้บริการในไตรมาส3/2561 ซึ่งในช่วงระยะเวลา 6 เดือนแรกจะคัดสินค้าทั้งแบรนด์ “ชิค รีพับบลิค” (CHIC)  และ“ริน่า เฮย์” (RINA HEY)เข้าไปทดลองตลาด หากแบรนด์ไหนได้รับความนิยมมากที่สุด จึงจะนำแบรนด์นั้นเข้าไปจำหน่ายอย่างต่อเนื่อง

 

“สาเหตุที่ขยายสาขามาที่จ.อุดรธานี เพราะมืองว่าตลาดหัวเมืองใหญ่ในอนาคตยังมีอัตราการเติบโตและมีศักยภาพ เพราะที่ผ่านมาผู้ประกอบการอสังหาฯรายใหญ่มีการขายตลาดไปยังหัวเมืองท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง และสนามบินแต่ละแห่งก็มีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน ส่วนที่กัมพูดชา นั้นถือเป็นหนึ่งในประเทศแถบ CLMV ที่เรามีแผนจะขยายตลาดมาอยู่แล้ว และมองว่าปัจจุบันตลาดอสังหาฯที่นมีอัตราการเติบโตที่ดีมาก ผู้บริโภคมีรสนิยมและไลฟ์สไตล์มากขึ้น นอกจาก 3 สาขานี้แล้วเรายังมีแผนที่จะเปิดสาขาในหัวเมืองใหญ่ในภูมิภาคต่างๆของประเทศ ทั้งภาคเหนือ เช่น เชียงใหม่ และภาคใต้ เช่น ภูเก็ต หรือ หาดใหญ่ เป็นต้น รวมไปถึงมองตลาด CLMV เพิ่มเติมด้วย ” นายกิจจา กล่าว

 

นอกจากนี้ยังมีแผนพัฒนาเว็บไซต์สำหรับการขายแบบ E-commerce เพิ่มช่องทางจัดจำหน่ายใหม่ในรูปแบบ Digital Platform โดยใช้แบรนด์ RINA HEY รุกทำตลาด  ใช้งบลงทุนประมาณ 2 ล้านบาท และคาดว่าจะแล้วเสร็จในไตรมาส2/2561

นายกิจจา กล่าวเพิ่มเติมถึงความคืบหน้าในการนำบริษัทฯเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai    ซึ่งได้ยื่น  แบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อขอเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 360 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ (พาร์) 0.50 บาท เมื่อวันที่ 12 เม.ย.ที่ผ่านมา ก.ล.ต.ได้อนุมัตินับหนึ่งไฟลิ่งของบริษัทเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดย ก.ล.ต.ได้อนุมัตินับหนึ่งไฟลิ่งของบริษัทเป็นที่เรียบร้อยแล้ว คาดว่าจะทำการเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพ์ mai ได้ภายในปี2561 นี้

 

อย่างไรก็ตามในช่วงปี 2558-2560 ที่ผ่านมาบริษัทสัดส่วนรายได้จากค้าปลีก 68% และจากงานโครงการ 32%  และตั้งเป้าเพิ่มงานโครงการให้มากขึ้น เพื่อให้บริษัทมีรายได้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายคงที่ จากปี 2560 ที่ผ่านมาที่มีรายได้ 622.13 ล้านบาท