นายกสมาคมการค้าอสังหาฯระยองเผยหลังภาครัฐให้ความสำคัญEEC ส่งผลผู้ประกอบการรายใหญ่เข้าไปลงทุน โดยเฉพาะอำเภอบ้านฉาง มากสุดถึง70% มั่นใจผู้บริโภคในพื้นที่ยังเชื่อมั่นผู้ประกอบการในท้องถิ่น ทั้งปรับตัวรับมือการแข่งขันเดือด ระบุราคาที่ดินติดถนนสุขุมวิท ราคาพุ่ง15ล้านบาท/ไร่ ล่าสุดเตรียมผนึกหลายองค์กรดึงรถไฟความเร็วสูง เฟส1 สถานีที่10 กลับคืน

 

 

 

นายเปรมสรณ์ ศรีวิบูลย์ชัย  นายกสมาคมการค้าอสังหาริมทรัพย์ระยอง ซึ่งเป็นผู้ประกอบการในพื้นที่ มีประสบการณ์ในการพัฒนาโรงแรมและเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ ภายใต้แบรนด์ “พาวีน่า โฮเทล”ในพื้นที่อ.เมือง จ.ระยอง และโครงการแนวราบ ภายใต้แบรนด์ The Pano เปิดเผยว่าจากการที่ภาครัฐให้ความสำคัญกับโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก(EEC)ซึ่งระยอง ถือเป็น 1ใน 3 จังหวัดที่อยู่ในพื้นที่ และเริ่มมีผู้ประกอบการเข้าไปลงทุนพัฒนาโครงการมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับดีมานด์ใหม่ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต โดยพื้นที่ที่อยู่ใกล้ระบบสาธารณูปโภคของภาครัฐมากที่สุดจะได้รับความสนใจจากนักลงทุนมากเป็นลำดับแรก นั่นก็คืออำเภอบ้านฉาง โดยปัจจุบันมีผู้ประกอบการที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯเข้าไปลงทุนมากถึง 70% ที่เหลืออีก 30% จะเป็นนักลงทุนในท้องถิ่น

 

อย่างไรก็ตามแม้ว่าจะมีผู้ประกอบการรายใหญ่เข้ามาลงทุนในจ.ระยอง เป็นจำนวนมาก แต่ก็ใช่ว่าจะมีความได้เปรียบในการทำตลาดและการขาย100% เพราะผู้บริโภคยังมีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการในท้องถิ่น ส่วนผู้บริโภคจากกทม.และจังหวัดอื่นๆอาจจะยังมีความเชื่อมั่นในแบรนด์สินค้าของผู้ประกอบการจากในกทม. ซึ่งก็จะถูกชิงส่วนแบ่งตลาดไปบ้าง แต่บ้านระดับราคา 2-4 ล้านบาท ยังมีช่องว่างตลาดอยู่ เพราะผู้ประกอบการรายใหญ่จะไม่เจาะตลาดดังกล่าว ส่งผลให้ผู้ประกอบการในพื้นที่มีความได้เปรียบในการทำตลาด  แต่ทั้งนี้ก็ต้องมีการปรับตัวเพื่อรับมือกับการแข่งขันด้วย ด้วยการอัพเดทข้อมูลทางการตลาด และศึกษาวิธีการทำอสังหาฯอย่างต่อเนื่อง  สำหรับราคาที่ดินในจ.ระยอง หากติดถนนสุขุมวิท ราคาจะสูงถึง 15ล้านบาทขึ้นไป/ไร่ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับทำเล จากเดิมที่ราคาอยู่ที่ประมาณ7-8 ล้านบาท/ไร่ ปรับสูงขึ้นมา1เท่าตัว 

 

ด้านนายนิธิ นาคะเกศ กรรมการบริหาร สมาคมการค้าอสังหาริมทรัพย์ระยอง กล่าวเสริมว่า ภายหลังจากที่ทางสมาคมฯได้มีการคัดเลือกนายกฯคนใหม่เข้ามาดำรงแหน่ง เมื่อประมาณเดือนมีนาคม 2561 ที่ผ่านมา ซึ่งทีมงานใหม่ก็พยายามที่จะสานต่อนโยบายเดิมที่นายกฯคนเดิมดำเนินการไว้ และสิ่งแรกที่จะต้องเร่งดำเนินการคือ การพยายามที่จะดึงรถไฟความเร็วสูงกลับมาจากเดิมที่ภาครัฐได้มีการลงพื้นที่เปิดรับฟังความคิดเห็นและชี้แจงทำความเข้าใจกับชาวจ.ระยอง มาอย่างต่อเนื่อง ว่าโครงการเส้นทางรถไฟความเร็วสูง เฟส1 สถานีที่10 มาถึงจ.ระยองอย่างแน่นอน แต่ปรากฏว่าเมื่อประกาศออกมาแล้ว กลับไม่มีชื่อสถานีระยองอยู่ในโครงการ โดยสถานีสุดท้ายของเฟส1 กลับสิ้นสุดที่สนามบินอู่ตะเภา ดังนั้นทางสมาคมและหน่วยงานต่างๆในจังหวัดได้ล่ารายชื่อประชาชนชาวจ.ระยอง กว่า 10,000 คน และยื่นหนังสือร้องเรียนต่อผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง ไปเมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2561 ที่ผ่านมา เพื่อนำเสนอต่อรัฐบาลให้พิจารณาบรรจุสถานีระยอง เข้าไว้ในโครงการรถไฟความเร็วสูง เฟส1 ซึ่งช่วยให้เศรษฐกิจ และการท่องเที่ยวในจ.ระยอง กลับมาคึกคักมากขึ้น 

 

ขณะนี้สมาคมการค้าอสังหาริมทรัพย์ระยอง มีสมาชิกที่เป็นผู้ประกอบการมากกว่า 70 ราย ซึ่งมีทั้งรายกลาง-เล็ก โดยสมาคมฯได้มีการจัดสัมมนาเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลของสมาคมอสังหาฯแต่ละจังหวัดเกือบทุกเดือน รวมไปถึงการร่วมมือกับองค์กรต่างๆในต่างประเทศ ล่าสุดสมาพันธ์การค้าเอสเอ็มอีฮ่องกง ได้ติดต่อสมาคมฯในการขอดูงาน ศึกษาการลงทุนอสังหาฯในรูปแบบการร่วมทุน หรือลงทุนในรูปแบบอื่น เช่น การพัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุ เนื่องจากมองว่าที่อยู่อาศัยในเมืองไทยมีราคาถูกกว่าในฮ่องหลายเท่าตัว

 

“ปัจจุบันผู้ประกอบการในท้องถิ่นมีการปรับตัวรับมือในการแข่งขันกับผู้ประกอบการรายใหญ่ที่เข้ามาลงทุนในระยองอย่างต่อเนื่อง ด้วยการอัพเดทข้อมูลการทำธุรกิจ รวมไปถึงการนำเทคโนโลยีใหม่ๆมาใช้ในการก่อสร้าง ซึ่งปรากฏว่าได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้า ที่ส่วนใหญ่ยังเป็นคนไทย โดยโซนที่มีอัตราการเติบโตที่รวดเร็วคือ ย่านปลวกแดง เพราะมีนิคมอุตสาหกรรมมากมาย โดยทาวน์เฮาส์ราคา 1 ล้านบาทต้นๆยังขายได้ดี”นายนิธิ กล่าวในที่สุด