ทำเล “ย่านพญาไท-ราชเทวี” ถูกจัดให้เป็นพื้นที่กรุงเทพชั้นกลาง ที่น่าอยู่ที่สุดอีกแห่ง มีสิ่งอำนวยความสะดวกทุกอย่างครบ สะดวกในการเดินทางพื้นที่บริเวณนี้โดยเฉพาะรอบสถานีทั้งสองสถานีคือ พญาไท และราชเทวี ดูจะตอบโจทย์การใช้ชีวิตหรือการอยู่อาศัยมากที่สุดในทุกๆเรื่อง เพราะไม่ไกลจากย่านการค้าสำคัญอย่างประตูน้ำ สยาม อีกทั้งยังมีรถไฟฟ้าแล่นผ่าน ที่ไม่ว่าจะมองในมุม “การอยู่อาศัย” หรือจะในมุมที่ซื้อเพื่อ “  การลงทุน” ก็คุ้ม!

 

ตั้งแต่อดีตก่อนวิกฤติเศรษฐกิจปี 2540 จนถึงปัจจุบันพื้นที่รอบๆสถานีรถไฟฟ้ารวมไปถึงพื้นที่โดยรอบสถานีข้างเคียงต่อเนื่องไปจนถึงสถานีพญาไท มีโครงการคอนโดมิเนียมเปิดขายมาอย่างต่อเนื่อง โดยผู้ประกอบการที่เปิดขายโครงการคอนโดฯในบริเวณนี้ล้วนเป็นบริษัทที่มีชื่อเสียง หรือเป็นบริษัทขนาดใหญ่ในตลาดหลักทรัพย์ทั้งสิ้น เช่น บมจ.เอพี (ไทยแลนด์) บมจ.อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ บมจ.แสนสิริ บมจ.พฤกษา โฮลดิ้ง บมจ.ศุภาลัย บมจ.แลนด์แอนด์เฮ้าส์  บมจ.โนเบิล ดีเวลลอปเม้นท์ บมจ. ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้  ล่าสุดที่ได้แถลงข่าวไปเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2561 คือบริษัทเดอะ ครีเอเตอร์ส เอชคิว จำกัด ร่วมทุนกับ บริษัท แสงฟ้าก่อสร้าง จำกัด เพื่อพัฒนาโครงการ “คอนเนอร์ ราชเทวี”  คอนโดมิเนียมสุดหรูระดับลักชัวรี่ใจกลางกรุงจำนวน 294 ยูนิต  มูลค่าโครงการ 3,200 ล้านบาท *** อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ >>> เดอะ ครีเอเตอร์ส เอชคิว จับมือ  แสงฟ้าก่อสร้างผุดคอนโดฯ“คอนเนอร์ ราชเทวี >>https://prop2morrow.com/2018/05/28/%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B8%AD%E0%B8%B0-%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B9%80%E0%B8%AD%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%AA-%E0%B9%80%E0%B8%AD%E0%B8%8A%E0%B8%84%E0%B8%B4%E0%B8%A7/

ซัพพลายขาด-ดีมานด์สูงจ่อเปิดตัวกว่า 4,300 ยูนิต

นายภัทรชัย ทวีวงศ์  ผู้จัดการอาวุโสแผนกวิจัย บริษัท คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า ในย่านราชเทวี-พญาไทนั้นโครงการคอนมิเนียมที่เปิดขายไปในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมามียอดขายเฉลี่ย 85-90%ทุกโครงการ จะเห็นว่าในโซนนี้มีศักยภาพมาตั้งแต่ในอดีตก่อนเกิดวิกฤติปี2540 แต่ก็ได้ชะลอตัวไปช่วงหนึ่งหลังจากเกิดวิกฤติใหม่ๆ จากนั้นก็เริ่มกลับมาคึกคักอย่างเห็นได้ชัดอีกครั้งตั้งแต่ปี 2552 ราคาเปิดตัวในช่วงนั้นอยู่ที่ระดับ 140,000-150,000 บาทต่อตารางเมตร(ตร.ม.) จนกระทั้งถึงวันนี้มีโครงการเปิดตัวอย่างต่อเนื่องบางโครงการเปิดตัวที่ 300,000 บาทต่อตร.ม.

ทั้งนี้ จากข้อมูลเบื้องต้นโซนนี้จะเป็นเวทีของผู้เล่นรายใหญ่อย่างน้อย 5 รายที่จะเปิดตัวในช่วงครึ่งหลังของปี 2561 จำนวนกว่า 4,300 ยูนิต และทุกรายที่เปิดตัวล้วนนำเอาแบรนด์สินค้าระดับบนมาแข่งกัน ดังนี้

 

บมจ. แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ พัฒนาโครงการเดอะรูม พญาไท บนเนื้อที่ 2.6 ไร่เป็นอาคารสูง 38 ชั้น1 อาคาร  จำนวน 437 ยูนิต ราคาขายเริ่มตั้งแต่ 180,000 บาทต่อตร.ม. อนึ่ง จากข้อมูลที่แถลงแผนธุรกิจปี 2561 โครงการเดอะรูม พญาไท รวมมูลค่า 3,900 ล้านบาท

 

บมจ.แสนสิริ พัฒนาโครงการคอนโดฯบริเวณถนนศรีอยุธยาเป็นอาคารสูง 35 ชั้น1อาคาร จำนวน 1,200 ยูนิต ราคาขายประมาณ 160,000 บาทต่อตร.ม.

 

บมจ.ออริจิ้นฯ พัฒนาโครงการ เดอะ พาร์ค พญาไท เป็นอาคารสูง 39 ชั้น 1 อาคาร จำนวน 650 ยูนิต ราคาขายประมาณ 200,000 บาทต่อตร.ม. อนึ่ง ตามแผนการพัฒนาของออริจิ้นเป็นโปรเจกต์ไฮไลท์สะท้อนภาพให้เห็นอาณาจักร“ออริจิ้น” ในรูปแบบ “มิกซ์ยูส”(Mixed-use) รับเทรนด์การอยู่อาศัยใหม่ภายใต้ชื่อ พาร์ค ออริจิ้น คอมเพล็กซ์ พญาไท รวมมูลค่า 10,000 ล้านบาท

 

บมจ.พฤกษาฯ พัฒนาโครงการ เดอะ รีเซิร์ฟ พญาไท เป็นอาคารสูง 27 ชั้น 1 อาคาร 88 ยูนิต ราคาขายประมาณ 250,000 บาทต่อตร.ม. อนึ่ง จากข้อมูลที่แถลงแผนธุรกิจปี 2561 โครงการเดอะ รีเซิร์ฟ พญาไท รวมมูลค่า1,151 ล้านบาท

 

บมจ. เอพี(ไทยแลนด์) พัฒนาโครงการ ดิ แอดเดรส สยาม-ราชเทวี บนเนื้อที่ 3 ไร่ พัฒนาเป็นอาคารสูง 50 ชั้น 1 อาคาร จำนวน 880 ยูนิต ราคาขายประมาณ 300,000 บาทต่อตร.ม.รวมมูลค่า 8,300 ล้านบาท

 

“ย่านนี้มีสินค้าเหลือขายค่อนข้างน้อย ขณะที่ความต้องการยังมีอยู่”นายภัทรชัย กล่าวย้ำ ซึ่งก็สอดคล้องกับนางสาวสมสกุล หลิมศุทธพรรณ รองกรรมการผู้จัดการ สายงานบริหารสินทรัพย์ บริษัท  พลัส  พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด กล่าวถึงพื้นที่พญาไท-ราชเทวี มีอุปสงค์การตอบรับคอนโดมิเนียมโครงการใหม่ในระดับสูง เฉลี่ยอยู่ที่ 80-90%สูงกว่ายอดขายเฉลี่ยของโครงการใหม่ในโซน CBD และโซนชั้นกลางในภาพรวมที่มีค่าเฉลี่ยประมาณ 66%

 

จากการสำรวจล่าสุดพบว่าจำนวนอุปทานคงค้างในปี 2561 เหลือเพียง 300 ยูนิต หากพิจารณาด้านผลตอบแทนจากการปล่อยเช่าจะอยู่ที่ 5% (ราคาเช่าอยู่ที่ราว 20,000 – 25,000 บาทต่อเดือน)  และยิ่งไปกว่านั้น ในย่านนี้แวดล้อมไปด้วยห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ อาคารสำนักงาน อาคารมิกซ์ยูส โรงแรม และสถานศึกษา และยังอยู่ใกล้รถไฟฟ้า ซึ่งถือเป็นทำเลหายาก จึงมี real demand ทั้งจากผู้อยู่อาศัยจริงและนักลงทุน ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนการลงทุนมีความน่าสนใจ  เป็นทรัพย์สินที่จะสร้างมูลค่าเพิ่มในอนาคตได้อ่านรายละเอียด ***อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ >>> ประชากรแฝงเพิ่ม หนุนดีมานด์คอนโดโซนพญาไท-ราชเทวี ยอดขายพุ่ง >>https://prop2morrow.com/2018/04/11/a%EF%BF%BDaa%EF%BF%BDasaaaaaa%EF%BF%BDa%EF%BF%BDazaaa-a%EF%BF%BDa%EF%BF%BDaa%EF%BF%BDa%EF%BF%BDa%EF%BF%BDa/

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โครงการคอนโดมิเนียมบริเวณถนนศรีอยุธยานั้นเดิมเป็นโครงการวิคตอรี่ ไฮ ( The Victory Height )เป็นอาคารสร้างค้างมาตั้งแต่ปี 2540 พัฒนาโดยบริษัท โฮมควิก จำกัด ก่อนที่จะเปลี่ยนมือเป็น แสนสิริ ในปัจจุบัน

 

โดยนายวันจักร์ บุรณศิริ ประธานผู้บริหารฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI กล่าวว่า ที่ดินที่จะนำมาพัฒนาโครงการคอนโดฯบริเวณถนนศรีอยุธยานี้ ขณะนี้อยู่ในระหว่างการออกแบบและพิจารณาว่าจะเป็นการร่วมทุนกับบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน)หรือ BTS หรือจะพัฒนาเอง  คาดว่าจะสามารถสรุปผลได้ภายในระยะเวลา 1-2 เดือนนี้

 

โดยมองว่าทำเลตั้งแต่พหลโยธิน พญาไท ราชเทวี นั้นล้วนมีศักยภาพแต่ซัพพลายยังไม่มากเท่ากับทำเลสุขุมวิท และการที่มีผู้ประกอบการรายใหญ่เข้ามาพัฒนาโครงการเป็นจำนวนมากนั้นก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติ “แม้ที่ตั้งโครงการของแสนสิริอาจจะสู้บางโครงการของคู่แข่งไม่ได้ แต่ก็จะเสริมในเรื่องของดีไซน์และเทคโนโลยีเข้าไป เพื่อสร้างจุดขายด้วย และพร้อมที่จะปรับกลยุทธ์ให้เข้ากับสถานการณ์”