อสังหาฯไทยเนื้อหอมต่างชาติขนเงินมาซื้อสูงถึง 80,000 ล้านบาทในปี2560 คาดปีนี้คาดยอดซื้อของชาวต่างชาติพุ่งแตะ 1 แสนล้านบาท ขณะที่บิ๊ก ออริจิ้น “พีระพงศ์ จรูญเอก” ประกาศนโยบายชิงรุกส่งออกคอนโดไทยไปต่างแดนหลัง ดึง”ฟัลครัม โกลบอล”บริหารงานขาย พร้อมเปิดออฟฟิตสาขาฮ่องกง หวังสร้างการรับรู้ดึงนักลงทุนคาดภายใน 3 ปี คาดสร้างยอดขายต่างชาติที่ระดับ 15,000 ล้านบาท

 

นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้  จำกัด(มหาชน)หรือORI เปิดเผยถึงกลยุทธ์ด้านการตลาดและการขายห้องชุดในคอนโดมิเนียมว่า จะเน้นทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ  โดยเฉพาะในต่างประเทศนั้น พบว่าในปี 2560 ตลาดโดยรวมของการขายที่อยู่อาศัยให้กับต่างชาตินั้นมีมูลค่า 80,000 ล้านบาท จากมูลค่าการขายโดยรวมในกรุงเทพ/ปริมณฑลประมาณ 400,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2559 ประมาณ 20-30% และคาดว่าปี 2561 นี้ยอดขายที่เกิดจากต่างประเทศน่าจะอยู่ที่ 100,000 ล้านบาท โดยชาวต่างชาติที่ซื้อนั้นมีทั้งซื้ออยู่อาศัยและซื้อลงทุน

 

จากการเติบโตของการขายในต่างประเทศของอุตสาหกรรม บริษัทจึงดำเนินนโยบายชิงรุกส่งออกห้องชุดในคอนโดมิเนียมออกไปต่างประเทศมากขึ้น หลังจากที่ได้ร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจกับบริษัท ฟัลครัม โกลบอล จำกัด บริษัทผู้ดำเนินธุกิจด้านการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ ฮ่องกง ให้เป็นผู้ลงทุน และ ผู้บริหารงานขาย คอนโดฯในต่างประเทศ โดยตั้งเป้ายอดขายใน 3 ปี 15,000 ล้านบาท แบ่งเป็นปี 2561ประมาณ 4,000 ล้านบาท จำนวน 1,000 ยูนิต  ปี 2562 ประมาณ 5,000 ล้านบาทและปี 2563 ประมาณ 6,000 ล้านบาท  ประเดิมปี 2561 นำไปขาย 3 โครงการคือ พาร์ค พญาไท ,พาร์ค ทองหล่อ ซ.10 และโครงการไนท์บริดจ์ สเปซ รัชโยธิน  สัดส่วนที่นำออกไปขายอยู่ที่ 30-40% จากจำนวนยูนิตรวมในแต่ละโครงการ

โดยยอดขายจากต่างประเทศจะคิดเป็นสัดส่วน 20-25% ของยอดขายรวมในแต่ละปี ซึ่งในปี 2561นี้ออริจิ้นตั้งเป้ายอดขายรวมไว้ที่ 20,000 ล้านบาท ทั้งนี้ในการรุกตลาดต่างประเทศนั้นได้เริ่มตั้งแต่เดือน กรกฎาคม 2560 สามารถทำยอดขายได้ประมาณ 1,200 ล้านบาท  ซึ่งเป็นยอดขายที่เกิดจากฟัลครัม โกลบอล อยู่ที่ 2ใน3 ของยอดขายที่เกิดจากต่างประเทศ คือ ประเทศจีน ฮ่องกง มาเก๊า ไต้หวัน สิงคโปร์ มาเลเซีย และตลาดใหม่ในทวีปยุโรป เป็นต้น และเพื่อรองรับกับแนวทางการดำเนินธุรกิจจึงได้เปิดตัวสำนักงานของบริษัท สาขาฮ่องกง เพื่อเป็นการสร้างการรับรู้ของ ออริจิ้น ในตลาดต่างประเทศและช่วยให้ผู้สนใจมีความเข้าใจที่ดีเกี่ยวกับโครงการของบริษัทฯ

ด้านบริษัท ฟัลครัม โกลบอล นั้นก่อนหน้านี้ได้เข้าที่เข้าซื้อคอนโดมิเนียมมากกว่า 450 ห้องของโครงการพาร์ค 24 และเคยร่วมเปิดตัวเซอร์วิสอพาร์ตเมนท์ “The Park at EM District” บริหารโดยดิ แอสคอทท์ ลิมิเต็ด จนเป็นที่สนใจอย่างมากสำหรับทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่ต้องการถือครองอสังหาริมทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนมั่นคงและมีการบริหารจัดการที่ดี

 

“ตลาดคอนโดมิเนียมในประเทศไทยถือเป็นตลาดที่น่าดึงดูดมากในสายตาผู้ซื้อชาวต่างชาติ ที่ผ่านมา มีการประเมินว่าในปี 2560 มีตลาดสำหรับผู้ซื้อชาวต่างชาติในอสังหาริมทรัพย์ไทยกว่า 1.2 แสนล้านบาท และคาดว่าจะมีการเติบโตถึง 40% ในปี 2561 สำหรับโครงการของออริจิ้นได้สร้างมาตรฐานใหม่ทั้งในแง่ของทำเล แนวคิดโครงการ การจัดวางผังห้อง สิ่งอำนวยความสะดวก” นายแฟรงค์ เหลียง กรรมการผู้จัดการ ฟัลครัม โกลบอล กล่าว

 

ทั้งนี้ จากผลสำรวจของ Juwai.com พบว่า กรุงเทพได้รับการจัดอันดับ 6 ในปี 2558 ขยับขึ้นมาอยู่อันดับ 3 ในปี 2559 และขึ้นมาเป็นอันดับ 2 ในปี 2560 ของตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่น่าสนใจสำหรับผู้ซื้อชาวจีนที่สนใจอสังหาริมทรัพย์ต่างชาติ ที่มีความแข็งแกร่งของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว และการเป็นหนึ่งในสถานที่เป้าหมายหลักภายใต้นโยบาย One Belt One Road ของจีนอีกด้วย

สำหรับบริษัท ฟัลครัม โกลบอล จำกัด เป็นบริษัทด้านการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ ฮ่องกง ซึ่งมีสินทรัพย์ภายใต้การบริหารการจัดการกว่า 1.6 หมื่นล้านบาท มุ่งเน้นการลงทุนในโครงการที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองทั้งในสหราชอาณาจักร ไทย ญี่ปุ่น และ เป็นพันธมิตรกับบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำในประเทศ โดยมีเครือข่ายทั่วทั้งเอเชีย และแอฟริกา ฟัลครัมจึงเป็นแพลทฟอร์มที่ช่วยโอกาสในการประชาสัมพันธ์โครงการต่างๆได้อย่างดี