“แอสเซทไวส์” เดินตามแผนธุรกิจปูทางเข้าระดมทุนในตลาดหุ้นปี2562 ระบุปีนี้เปิด 6 โครงการมูลค่าเกือบ 6,000 ล้านบาทรับเบรคโครงการคอนโดฯใกล้รพ.ศิริราช หลังติดปัญหาเรื่องซื้อที่ดิน ล่าสุดเปิดตัวโครงการใหม่Atmoz  ลาดพร้าว 15” คอนโดฯเจาะคนรุ่นใหม่ภายใต้คอนเซ็ปต์“double FACILITY” มั่นใจปีนี้โอน 8 โครงการมูลค่าสูงถึง 4,200 ล้านบาท

 

 นายกรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด เปิดเผยว่าบริษัทฯยังคงดำเนินการตามแผนที่ประกาศไว้ในช่วงต้นปี2561 เพื่อเตรียมความพร้อมในการเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยที่จะยื่นไฟลิ่งได้ในช่วงต้นปี 2562 คาดว่าจะทำการซื้อขายหุ้นได้ในช่วงไตรมาส 3/2562 โดยในปีนี้เปิด 6 โครงการ มูลค่า 5,860 ล้านบาท ได้เปิดการขายแล้ว 3 โครงการได้แก่ 1. บราวน์ ห้วยขวาง  2. แกรม เป็นโฮมออฟฟิศ  และ 3.แอทโมซ(Atmoz) ลาดพร้าว 15 เป็นโครงการล่าสุดที่เปิดตัว ส่วนโครงการที่ 4. โมดิซ 50  5. Atmoz รัชดา ห้วยขวาง ( สหการประมูล) และ 6.ทำเลย่านรัชดา 32 ที่อยู่ระหว่างการพิจารณาแบรนด์ที่มาทำตลาด

โครงการแอทโมซ ลาดพร้าว 15 ตั้งอยู่บนเนื้อที่กว่า 4ไร่ พัฒนาเป็นอาคารสูง  ชั้น 3 อาคาร จำนวน 570 ยูนิต ขนาดพื้นที่ใช้สอย 25-36 ตารางเมตร(ตร.ม.)ที่จอดรถ 45% ราคาขาย 88,000 บาทต่อต.ม.หรือราคาเมต้นที่ 1.69 ล้านบาทต่อยูนิต มูลค่าโครงการ 1,300 ล้านบาท คาดก่อสร้างแล้วเสร็จไตรมาส 2 /2563 เป็นคอนโดฯที่เจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ ภายใต้แนวคิด “double FACILITY” สุข… จนไม่ได้พักผ่อน โดยจุดเด่น คือ มีส่วนกลางขนาดใหญ่ถึง 3 ชั้น ทำกิจกรรมได้ไม่มีวันเบื่อ มีสระว่ายน้ำ 2 สระ ขนาดมาตรฐานที่ว่ายได้จริง พร้อม Aqua Bike, Serenity Courtyard, Co-Living Lounge, Boxing Corner, Game Room, Cinema Lounge, Party Zone เป็นต้น แถมยังสามารถชวนเพื่อนมา   Chat & Share ได้ไม่ซ้ำมุม อีกทั้งยังตั้งอยู่ลาดพร้าวทำเลนี้มีศักยภาพสูงมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง

 

ส่วนแผนการพัฒนาโครงการคอนโดฯที่อยู่ใกล้กับโรงพยาบาลศิริราชนั้น นายกรมเชษฐ์กล่าวยังมีความสนใจอยู่  แต่ยอมรับว่า บริษัทฯคงต้องหยุดการพัฒนาออกไปก่อน เนื่องจากต้องรอเจ้าของที่ดินตัดสินใจเรื่องราคาขายใหม่อีกครั้ง

 

สำหรับผลประกอบการในช่วง 5 เดือนแรก(ม.ค.-พ.ค.)ของปี 2561 บริษัทฯมียอดขายที่1,600 ล้านบาท จากทั้งปีตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 4,000 ล้านบาท ส่วนยอดรับรู้รายได้ในปีนี้จะมีโครงการที่โอนให้ลูกค้า 8 โครงการ มูลค่า 4,200 ล้านบาท ได้แก่  วินน์ พหลโยธิน ,  Episode พหล , บราวน์ รัชดา 32 , โมดิซ สเตชั่น , วินน์ โชคชัย 4 , โมดิซ อินเตอร์เชจ , เคฟ ม กรุงเทพ รังสิต และ บราวน์ 67 และคาดว่าอัตรากำไรปีนี้น่าจะทำได้ 10-15% ของยอดโอนทั้งหมด

ราคาขายเฉลี่ยจะปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง 6-7% ต่อปี

ด้านนายสุรเชษฐ กองชีพ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยตลาด บริษัท ไรส์แลนด์ (ประเทศไทย) จำกัด สำหรับตลาดคอนโดฯในพื้นที่ย่านลาดพร้าวตอนต้นระหว่างซอย 1-23 มียูนิตที่เปิดขายมากขึ้นแต่ไม่มาก โดยมีการเปิดตัวสะสมประมาณ 6,639 ยูนิต มีอัตราการดูดซัพค่อนข้างสูงถึง 81-94% มีราคาขายเฉลี่ยจะปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง 6-7% ต่อปี และด้วยปัจจัยบวกด้านศักยภาพของทำเลลาดพร้าวที่มีความเป็นชุมชนดั้งเดิม และรถไฟฟ้าใหม่ในอนาคตอีก 3 สายที่เชื่อมถึงกัน คือ สายสีเขียว(เหนือ) ช่วง หมอชิต – สะพานใหม่ – คูคต   สายสีเหลือ(ลาดพร้าว-สำโรง) และสายสีส้ม ช่วงตลิ่งชัน – มีนบุรีที่ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้างเฟส 1 ช่วงศูนย์วัฒนธรรมฯ – มีนบุรี  จากความพร้อมต่างๆดังกล่าวจะทำให้โครงการที่เปิดใหม่ในย่านนี้ได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดี