จากกรณีที่ 3 สมาคมอสังหาริมทรัพย์ คือ สมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร,สมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย และสมาคมอาคารชุดไทย ได้ยื่นหนังสือไปยังภาครัฐ เพื่อเข้าพบและหารือแนวทางแก้ปัญหา และอุปสรรคในการลงทุนอสังหาฯ โดยมีประเด็นหารือหลักเกี่ยวกับการขอให้ทบทวนการบังคับใช้ผังเมืองรวม จ.นนทบุรี ซึ่งมีข้อจำกัดในการสร้างทาวน์เฮาส์ไม่ได้เลยทั้งจังหวัด  โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างการพิจารณาคำร้องของผู้มีส่วนได้เสีย และได้รับผลกระทบจากการประกาศใช้ผังเมืองดังกล่าว ซึ่งทั้ง 3 สมาคม ถือเป็นตัวแทนของผู้ประกอบการอสังหาฯ มีความเห็นว่า ร่างผังเมือง จ.นนทบุรี ดังกล่าว ได้จำกัดสิทธิในการพัฒนาอสังหาฯประเภทต่างๆเป็นอย่างมาก ไม่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์การพัฒนาเมืองของ จ.นนทบุรี เพื่อรองรับการขยายตัวและการเติบโตของกรุงเทพฯ และหากมีการบังคับใช้ร่างดังกล่าว จะกระทบต่ออสังหาฯจ.นนทบุรี  โดย 30-40% เป็นกลุ่มที่มีรายได้น้อยจะได้รับผลกระทบมาก

 

 

นายเลิศมงคล  วราเวณุชย์ นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ จ.นนทบุรี เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาได้มีการประสานงานเรื่องผังเมืองรวม จ.นนทบุรี กับ 3 สมาคมอสังหาฯมาโดยตลอด เพราะการเข้าหารือกับรัฐบาลต้องเป็นหน้าที่ของ 3 สมาคมอสังหาฯในการขับเคลื่อน โดยได้มีการยื่นหนังสือไปที่นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี แล้ว

 

หากยืนกรานที่จะบังคับใช้ร่างผังเมือง จ.นนทบุรี ฉบับดังกล่าว ก็มองว่าจะไม่ขนานกับการลงทุนของภาครัฐในพื้นที่จ.นนทบุรี โดยเฉพาะรถไฟฟ้า สายสีม่วง ที่ได้มีการเชื่อมระหว่างสถานีเตาปูนและบางซื่อแล้ว แต่ผู้ใช้บริการมีเพียง 60,000 คนต่อวัน ทั้งที่ควรจะมีผู้ใช้บริการได้ถึง 120,000 คนต่อวัน และยิ่งจะมีการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีชมพู(แคราย-มีนบุรี)อีก ก็ยิ่งผลักดันคนให้ออกไปอยู่อาศัยนอกเมืองมากยิ่งขึ้น ก็เชื่อว่าจะยิ่งทำให้ประชาชนใช้บริการรถไฟฟ้าได้น้อยลงไปอีก เพราะผู้ใช้บริการส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มตลาดแมส

 

ส่วนโครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษ หมายเลข81 (ถนนมอเตอร์เวย์) สายบางใหญ่-กาญจนบุรี ระยะทาง 96 กิโลเมตร  ที่จะเปิดให้บริการในปี 2563 เพื่อหวังเชื่อมต่อไปยังประเทศเมียนมาร์ ซึ่งจะเห็นว่าระบบสาธารณูปโภคใน จ.นนทบุรี นั้นมีมากรวมมูลแสนล้านบาท ที่สามารถเชื่อมต่อไปยังจังหวัดต่างๆได้อย่างสะดวกสบาย ซึ่งมองแล้วว่าขัดแย้งกับผังเมืองรวม จ.นนทบุรี ที่จะประกาศใช้

 

“ระบบสาธารณูปโภคในจ.นนทบุรี ที่มีการพัฒนาแล้ว และที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตนั้นมีมากมาย จึงไม่เห็นสัญญาณว่าจ.นนทบุรี จะไม่มีอัตราการเติบโตแต่อย่างใด และนึกไม่ออกว่ามีการร่างผังเมืองนนท์ ออกมาอย่างนี้ได้อย่างไร”นายเลิศมงคล กล่าว

 

 

ทั้งนี้ผังเมืองเดิมที่ดินในซอยสามารถพัฒนาคอนโดฯ และแนวราบได้ แต่ร่างผังเมืองฉบับใหม่ มีพื้นที่สีเขียวเกือบครึ่งหนึ่งจากทั้งหมดของจังหวัด และมีการจำกัดสิทธิ์การจัดสรรโครงการ หากจะสร้างบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์ หรือบ้านแฝด ต้องมีถนนกว้าง 12 และ 14 เมตร ในขณะที่ราคาที่ดินติดถนนใหญ่ราคาตารางวาละหลักแสน ก็ไม่สามารถพัฒนาทาวน์เฮาส์ ราคา 2-3 ล้านบาทได้  ซึ่งมองว่าสวนทางกับนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ของรัฐบาล ซึ่งถือว่าไม่บูรณาการ

 

ที่ผ่านมาประชาชน และผู้มีส่วนได้เสียก็มีการแย้งร่างผังเมือง ฉบับดังกล่าว ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็มีการรับฟัง  โดยยังเหลืออีกหลายขั้นตอน (ทั้งหมด 18 ขั้นตอน) ปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนที่ 5 (ผู้มีส่วนได้ ส่วนเสียคัดค้าน) โดยในช่วง 90 วัน(16 มกราคม-16 เมษายน 2561)ก่อนมีผลบังคับใช้ ได้มีการยื่นคัดค้านไปแล้ว ขณะนี้อยู่ในระหว่างการอประมวลผล หากคณะทำงานมองว่ายุทธศาสตร์ของชาติ มีการบูรณาการ ก็จะต้องมีการแก้ไขร่างผังเมือง ซึ่งคงต้องให้เวลาคณะทำงานได้พิจารณาอีกระยะหนึ่งก่อน

 

อย่างไรก็ตามหากไม่สามารถปรับเปลี่ยนผังเมืองใหม่ได้ ผู้ประกอบการก็จะประสบปัญหาสถาบันการเงินไม่ปล่อยสินเชื่อ ส่งผลให้ไม่มีโครงการใหม่ๆเกิดขึ้น ผู้ประกอบการบางรายก็พัฒนาโครงการได้เท่าที่มีอยู่ บางรายต้องปรับแผนการดำเนินธุรกิจ หันไปลงทุนในจังหวัดอื่นแทน เพื่อต่อยอดธุรกิจ ขณะที่ผู้ประกอบการบางรายก็จะรีบขอใบอนุญาตจัดสรร ก่อนที่ผังเมืองใหม่จะออกมาก