เฮเฟเล่ฯเผยภาพรวมตลาดเฟอร์นิเจอร์เครื่องใช้ในบ้าน-ครัวเรือน สุขภัณฑ์ภูมิภาคเอเชียยังโตต่อเนื่อง ระบุไทยยอดขายติดอันดับ3ของโลก  ด้านตลาดในประเทศพบผลประกอบการหลายบริษัทเริ่มดีขึ้น จากการลงทุนภาครัฐ-เศรษฐกิจฟื้นตัว คาดปลายปียอดขายโต 12-13% เตรียมเปิดตัวสินค้าใหม่ปีนี้กว่า 10 ซีรีส์ สนองลูกค้าระดับพรีเมี่ยม ล่าสุดผนึกสโมสรฟุตบอล“บาเยิร์น มิวนิก” สร้างการรับรู้-เสริมความแกร่งแบรนด์

 

 

มร.โฟลเคอร์ เฮลสเติร์น กรรมการผู้จัดการ บริษัท เฮเฟเล่ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ อุปกรณ์เฟอร์นิเจอร์เครื่องใช้ไฟฟ้าบ้านและครัวเรือน อุปกรณ์สุขภัณฑ์จากประเทศเยอรมนี เปิดเผยถึงภาพรวมตลาดในภูมิภาคเอเชีย มีการเติบโตสูงขึ้น มีประชากรกว่าครึ่งหนึ่งของโลก โดยยอดขายใน 3 ประเทศ คือ ไทย อินเดีย และเวียดนาม จะมียอดขายรวมสูงถึง 50% ของยอดขายรวม และในภูมิภาคเอเชีย เฮเฟเล่มีส่วนแบ่งตลาดประมาณ 30% คาดว่าในอีก 3-4 ปี  คาดว่ามีส่วนแบ่งตลาด 50%  ซึ่งเฮเฟเล่ (ประเทศไทย) มียอดขายอันดับ 3 ของเฮเฟเล่ทั่วโลก รองจากสหรัฐอเมริกาและอังกฤษ (ไม่รวมเยอรมนี)  แต่หากพิจารณาการเติบโตแล้ว ประเทศเวียดนาม และเมียร์มาร์ อยู่ในช่วงเติบโตขึ้นอย่างมาก ทั้งนี้ ยอดขายเฮเฟเล่ทั่วโลกในปีที่ผ่านมามีมูลค่า 56,000ล้านบาท เติบโต 4% เมื่อเทียบกับปี 2559

 

สำหรับตลาดผลิตภัณฑ์ดังกล่าวในประเทศไทยพบว่า ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา สถานการณ์การเมืองที่ยังไม่มีการเลือกตั้ง รวมไปถึงเศรษฐกิจในประเทศไทยยังชะลอตัว ส่งผลให้ยอดขายของบริษัทฯเป็นไปตามสภาวะตลาดไม่โตเท่าที่ควร แต่ในช่วง  4 เดือนที่ผ่านมา มีแนวโน้มที่ดีขึ้น  สังเกตได้จากที่หลายบริษัทมีผลประกอบการที่เป็นบวก อันเป็นผลมาจากการลงทุนเมกะโปรเจกต์ของภาครัฐ หากไม่มีปัจจัยลบมากระทบ ก็เชื่อว่าภาพรวมเศรษฐกิจในประเทศไทยจะฟื้นตัวดีขึ้น คาดว่าสินค้าของบริษัทจะเติบโตทุกเซกเมนต์ โดยคาดว่าตลอดทั้งปี 2561 บริษัทฯจะมีอัตราการเติบโตประมาณ 12-13% จากช่วง 4 เดือนแรกมีอัตราการเติบโตตัวเลขเกือบ 2 หลัก

 

 

ปัจจุบันเฮเฟเล่มีช่องทางการจำหน่าย 3 ช่องทางหลัก คือ 1.รีเทล-ดีลเลอร์รายย่อย 2. ลูกค้าโครงการ ซึ่ง 2 กลุ่มนี้คิดเป็นสัดส่วนรวม 80% และ 3.กลุ่มโรงงานอุตสาหกรรม คิดเป็นสัดส่วน 20%  โดยในปีนี้จะรุกผลิตภัณฑ์กลุ่มเซรามิคแวร์ ,สุขภัณฑ์ และเฟรมอลูมิเนียม รวมกว่า 10 ซีรีส์ ราคาตั้งแต่ 5,000 บาทขึ้นไป  จากปัจจุบันที่มีสินค้าที่จำหน่ายในประเทศไทยมากกว่า 20,000 รายการ

 

“ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาเราพบว่าผู้บริโภคมีความต้องการสินค้าระดับพรีเมี่ยมมากขึ้นถึง 30% สังเกตได้จากการที่ผู้ประกอบการอสังหาฯหันมาพัฒนาโครงการระดับลักชัวรี่ที่มีความเฉพาะตัว (YOUNIQUE) มากขึ้น”มร.โฟลเคอร์  กล่าว

 

 

มร.โฟลเคอร์  กล่าวเพิ่มเติมว่า เพื่อเป็นการตอกย้ำแบรนด์ “เฮเฟเล่”  ในปี 2561  นี้ได้จับมือเป็นพันธมิตรกับสโมสรฟุตบอล “บาเยิร์น มิวนิก” ยักษ์ใหญ่จากเวทีบุนเดสลีกา ผู้นำแห่งวงการฟุตบอลเยอรมนี แสดงพลังภาพลักษณ์ความแข็งแกร่งของทั้งแบรนด์เฮเฟเล่ และทีม “เสือใต้” ให้เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น โดยเป็นการเซ็นสัญญาระยะยาว 3 ปี โดยเฮเฟเล่จะใช้เม็ดเงินในการสนับสนุนทีม”บาเยิร์น มิวนิก”ปีละประมาณ 20 ล้านบาท

 

นอกจากนี้เฮเฟเล่ยังเตรียมผลิต ผลิตภัณฑ์ลิมิเต็ดเอดิชั่นกับตรา “บาเยิร์น มิวนิก” เพื่อตอกย้ำความเป็นพาร์ทเนอร์ อย่างสมบูรณ์แบบ  “Official Reginal Partner” ให้เด่นชัดมากยิ่งขึ้น”โดยสินค้าลิมิเต็ดดังกล่าวจะมีแบรนด์โลโก้และผู้เล่น ของ “บาเยิร์น มิวนิก” ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างการปรึกษากับผู้บริหารทีม “บาเยิร์น มิวนิก” ว่าจะนำโลโก้และภาพนักเตะรายใดมาใช้   รวมไปถึงการเลือกสินค้าชนิดใดในการทำตลาดในประเทศไทย อินเดีย และเวียดนาม คาดว่าจะผลิตออกมาจำหน่ายได้ประมาณไตรมาส3 -4  ปี2561 นี้