ยูเอ็มไอเผยตลาดกระเบื้องปี61แข่งเดือดหลังรัฐประกาศยกเลิก Anti-dumping ส่งผลสินค้าจีนทะลักสูง70% คาดภายในระยะเวลา 2-3 ปีตลาดกระเบื้องนำเข้าสัดส่วนพุ่งแตะ 50% ด้านบริษัทชูจุดขายด้านดีไซน์  ปีนี้ประเดิมเปิดตัวงาน “สถาปนิก’61 จำนวน 150-200 แบบ หวังรักษาส่วนแบ่งตลาด คาดยอดขายรวมปีนี้แตะ 2,700 ล้านบาท โต 5%

 

 

 

นายสมบูรณ์  อุรานุกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัท สหโมเสคอุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน)หรือUMI เปิดเผยถึงภาพรวมตลาดกระเบื้องในปี2561 ว่า แม้การท่องเที่ยวและการส่งออกจะดีขึ้น แต่ตลาดอสังหาฯยังไม่ฟื้นตัวดีเท่าที่ควร อันเนื่องมาจากหนี้ครัวเรือน และสถาบันการเงินที่ยังเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อ ส่งผลให้ภาคเอกชนยังไม่กล้าลงทุนมากนัก ขณะเดียวกันภาครัฐก็ยังมีการลงทุนเมกะโปรเจกต์อย่างต่อเนื่อง คาดว่าในไตรมาส3/2561 ภาพรวมตลาดจะดีขึ้น โดยในปี2560 ที่ผ่านมาตลาดรวมกระเบื้องมีมูลค่ารวมที่ 33,000 ล้านบาท แบ่งเป็นตลาดบน 20% และตลาดกลาง-ล่าง80% โดยเครือUMI มีส่วนแบ่งตลาดที่ 13% คิดเป็นมูลค่าประมาณ 2,700 ล้านบาท ซึ่งมูลค่าตลาดกระเบื้องโดยรวมในปีที่ผ่านมาอัตราการเติบโตมีการหดตัวลง 3% ในขณะที่ตลาดกระเบื้องนำเข้า มีอัตราการเติบโต 2% และคาดว่าในปีนี้ตลาดรวมจะดีขึ้นมีอัตราการเติบ 4-5%

 

“ภายหลังจากที่ภาครัฐยกเลิกมาตรการตอบโต้การทุ่มตลาด (Anti-dumping)เมื่อปี2560 ส่งผลให้สินค้าจากจีนเข้ามาทำตลาดเป็นจำนวนมาก ซึ่งที่ผ่านมาสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ได้ทำหนังสือยื่นเรื่องไปยังรัฐบาล ว่าผู้ประกอบการไทยได้รับผลกระทบต่ออุตสาหกรรมในประเทศ แต่ปรากฏว่าผู้ประกอบการรวมตัวกันไม่ถึง 50% จึงไม่เป็นเอกฉันท์ เรื่องดังกล่าวจึงตกไป”นายสมบูรณ์ กล่าว

 

สำหรับในปีนี้ตลาดกระเบื้องจะมีการแข่งขันที่ดุเดือดมาก โดยเฉพาะด้านราคา ซึ่งสินค้าที่มาจากจีนจะมีการดัมพ์ราคากันมาก แต่คุณภาพไม่ดี ลูกค้าที่ซื้อไปจะประสบปัญหาเป็นจำนวนมาก  ส่วนสินค้าจากไทยจะมีความได้เปรียบในเรื่องของคุณภาพ โดยในปีนี้กระเบื้องนำเข้าจากต่างประเทศจะมีสัดส่วนมากถึง 25% ในจำนวนดังกล่าวเป็นสินค้าจากจีนถึง 70% และยังทำการรุกตลาดดีลเลอร์ในไทยเพิ่มมากขึ้นด้วย สำหรับสัดส่วนที่เหลือเป็นสินค้าจากเวียดนาม,อินเดีย และอินโดนีเซีย ซึ่งคาดว่าภายในระยะเวลา 10 ปีตลาดกระเบื้องนำเข้าจะมีสัดส่วนมากถึง 50%

 

ในส่วนของUMIและบริษัทในเครือจะเน้นในการการดีไซน์ลวดลายกระเบื้องที่จำเพาะให้ลูกค้ามากขึ้น ซึ่งในปีนี้มีการเปิดตัวกระเบื้องดีไซน์ใหม่ถึง 150-200 แบบ  จาก 2 แบรนด์ คือ ดูราเกรส และ “เชอร์เกรซ”ของ บริษัท ที.ที.เซรามิค จำกัด หรือ “TTC ซึ่งเป็นบริษัทในเครือมาออกบูธในงาน “สถาปนิก’61 ด้วย  ทั้งนี้เพื่อพยายามรักษาส่วนแบ่งตลาด โดยคาดว่าในปีนี้จะเพิ่มขึ้นมาอีกประมาณครึ่งเปอร์เซ็นต์

 

ปัจจุบันเครือUMI มีดีลเลอร์รวมทั้งสิ้น 600 ราย แบ่งเป็นโมเดิร์นเทรด 7 ราย ที่เหลือเป็นดีลเลอร์รายย่อย โดยที่แอคทีฟจริงๆมีเพียง 400-500 ราย ซึ่งปัจจุบันมีกำลังการผลิตรวมเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 75% จากกำลังการผลิตทั้งหมด 27-28 ล้านตารางเมตร/ปี และคาดว่าในปีนี้จะมียอดขายรวมที่ประมาณ 2,700 ล้านบาท มีอัตราการเติบโตจากปี2560 ประมาณ 5%

 

นายสมบูรณ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับแผนการออกหุ้นกู้นั้น บริษัทฯได้ออกไปก่อนหน้านี้แล้ว 500 ล้านบาท และคาดว่าจะครบดีลการไถ่ถอนในเดือนกรกฎาคม 2562 นี้ อย่างไรก็ตามบริษัทฯมีแผนที่จะนำกระแสเงินสดไปไถ่ถอนก่อนกำหนด ซึ่งบริษัทฯมีแผนที่จะเจรจากับผู้ถือหุ้นกู้รายใหญ่มากกว่ารายย่อย เพื่อลดภาระดอกเบี้ยจ่าย แต่คิดว่าอาจจะมีลำบาก ไม่ค่อยมีใครอยากขายต่อ เนื่องจากหุ้นกู้ให้อัตราผลตอบแทนดอกเบี้ยที่สูงอยู่ที่ 5.2%