แสนสิริฯอัพเกรดแอปพลิเคชั่น Home Service สู่เวอร์ชั่น 2018 ประเดิมครั้งแรกของวงการฯ กับระบบสั่งการด้วยเสียงภาษาไทย และฟังก์ชั่น E-Wallet ฝังในแอปฯรองรับไลฟ์สไตล์จับจ่ายออนไลน์พร้อมใช้ในไตรมาสที่ 3 ทั้งผนึก5พันธมิตรชั้นนำ ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ลูกค้าในทุกมิติ ตั้งเป้าผู้ใช้งานในปีนี้เพิ่มเป็น 50,000 ราย

 


ดร. ทวิชา ตระกูลยิ่งยง ประธานผู้บริหารสายงานเทคโนโลยี บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือSIRI
เปิดเผยว่าภายหลังจากที่บริษัทฯให้ความสำคัญในการอยู่อาศัยของลูกบ้าน ด้วยการพัฒนาแอปพลิเคชั่น Home Service สำหรับลูกบ้านแบบครบวงจร และล่าสุดได้พัฒนาไปอีกขั้นสู่ Home Service เวอร์ชั่น 2018 ด้วยการอัพเกรดให้ชาญฉลาดยิ่งขึ้น ด้วยคอนเซ็ปต์ “An all-in-one app to complete your everyday living experience” เพื่อตอบโจทย์ความต้องการใหม่ ๆ และรองรับเทรนด์ e-Commerce Lifestyle ของผู้บริโภค โดยแอปพลิเคชั่น Home Service จะเป็น Living Experience Toolkit เปรียบเสมือนรีโมทคอนโทรล ที่สามารถควบคุมสั่งการได้ง่าย ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายของการใช้ชีวิตลูกค้าแสนสิริ ให้สะดวกครบทุกเรื่องบ้าน

 

โดยโมบายแอปพลิเคชั่น Home Service รองรับการใช้งาน 2 ช่องทาง คืออุปกรณ์สื่อสารระบบปฏิบัติการ iOS และ Android และจะพัฒนาไปสู่ Home Service Platform ที่ให้บริการอยู่บนอุปกรณ์อื่นๆ อาทิ Smart Speaker, Smart Display, Wear OS เป็นต้น และสามารถใช้งานได้ถึง 5 ภาษา ได้แก่ ภาษาไทย อังกฤษ จีนกลาง จีนกวางตุ้ง และญี่ปุ่น เพียบพร้อมด้วยฟังก์ชั่นที่หลากหลาย อำนวยความสะดวกในทุกมิติของการใช้ชีวิตประจำวัน อาทิ การติดตามความคืบหน้าการก่อสร้างโครงการ รวบรวมเอกสารและข้อมูลการโอนต่างๆ บริการแจ้งเตือนจดหมายและพัสดุอัตโนมัติ บริการแจ้งยอดชำระค่าใช้จ่ายรายเดือน เช่น ค่าส่วนกลาง ค่าน้ำ บริการรับแจ้งซ่อมแซมตลอด 24 ชั่วโมงที่สามารถติดตามตรวจสอบขั้นตอนการดำเนินการได้ ระบบสั่งจองการใช้บริการและสิ่งอำนวยความสะดวกในโครงการ ระบบกล่องรับความคิดเห็น และ QR Code ที่สามารถใช้ยืนยันตัวตนการเข้าใช้บริการที่แสนสิริ เล้าจน์ ตลอดจนมีการพัฒนาต่อยอดฟังก์ชั่นต่าง ๆ มาอย่างต่อเนื่อง

 

“แสนสิรินับเป็นบริษัทอสังหาฯ รายแรกในไทยที่พัฒนาแอพ Home Service สำหรับลูกบ้านแบบครบวงจร หลังจากเริ่มเปิดตัวในปี 2555 ก็ได้รับผลตอบรับที่ดีมากจากลูกบ้าน จากจำนวนผู้ใช้หลักร้อยก็ได้เพิ่มเป็นหลักหมื่นอย่างรวดเร็วในเวลาเพียง 3 ปี โดยปัจจุบัน มีผู้ใช้ถึงกว่า 15,000 คนใน 154 โครงการ จำนวน 52,000 ยูนิต ทั่วประเทศ หรือคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 30% จากทั้งหมด 300 โครงการของแสนสิริ และเพื่อสร้างความพึงพอใจยิ่งขึ้นให้กับผู้ใช้งาน รวมถึงดึงดูดกลุ่มผู้ใช้งานใหม่ ๆ สู่เป้าหมายการเพิ่มจำนวนผู้ใช้งานเป็น 50,000 รายภายในปี2561นี้ และต่อไปทุกโครงการของแสนสิริจะเน้นเป็นออโตเมชั่นทั้งหมดซึ่งต้นทุนในการติดตั้งอุปกรณ์นั่นไม่สูงมากนัก เพียงหลักหมื่นต่อยูนิตเท่านั้น”ดร.ทวิชา กล่าว

 

 

ด้านนายจิรพัฒน์ จันทร์เจิดศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่เทคโนโลยี บริษัท สิริ เวนเจอร์ส จำกัด กล่าวว่า การยกระดับแอพ Home Service เกิดขึ้นโดยอาศัย 4 แนวคิดหลัก คือ Convenience: ใช้งานง่ายขึ้นสะดวกขึ้นสำหรับผู้ใช้งานทุกเจเนอเรชั่น ด้วยการออกแบบ User Experience (UX) ที่สามารถอำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้งานได้มากที่สุด Cover: ขยายขอบข่ายความสามารถของแอพให้กลายเป็น lifestyle application เป็นทุกอย่างเพื่อการอยู่อาศัยของลูกบ้าน ตั้งแต่เรื่องการซื้อของ แต่งบ้าน งานบ้าน ฯลฯ Customize: คัดสรรการแสดงผลข้อมูลที่เหมาะกับผู้ใช้งานแต่ละคน (Tailor made) ทั้งเรื่องของโครงการที่เป็นเจ้าของ และความสนใจ และ Privilege: รวบรวมสิทธิพิเศษเหนือระดับให้กับลูกบ้านแสนสิริโดยเฉพาะ

 

สำหรับ Home Service Application เวอร์ชั่น 2018 ได้รับการยกระดับเทคโนโลยีโดยใช้แพล็ตฟอร์ม Cloud เว็บเซอร์วิส ของ Amazon (AWS) ที่มี Azure App Insights ของ Microsoft คอยมอนิเตอร์การทำงานของ Cloud ที่จะแจ้งเตือนให้ทีมพัฒนารู้ทันทีเมื่อระบบทำงานผิดปกติ พร้อมทำงานร่วมกับ Google Firebase ในการบริหารระบบแจ้งเตือนต่างๆ เช่น ข้อความใหม่ แจ้งเตือนประกาศ แจ้งเตือนเมื่อได้รับพัสดุ และระบบแชทกับนิติบุคคล โดยระบบเซอร์เวอร์ของ Home Service เวอร์ชั่น 2018 หันมาใช้ภาษา Golang ในการพัฒนาซึ่งช่วยให้การทำงานมีความเสถียรและรวดเร็วมากกว่าเดิม พร้อมรองรับการประมวลผลข้อมูลจำนวนมาก รวมทั้งใช้สถาปัตยกรรมของระบบแบบ Hybrid Microservices ในการวางโครงสร้างที่เอื้อให้ผู้พัฒนาสามารถเพิ่มเติมหรืออัพเดทฟังก์ชั่นได้ทันทีโดยไม่ต้องปิดระบบ Core หลักของแอปพลิเคชั่น ทำให้ลูกบ้านใช้งานได้ต่อเนื่องไม่สะดุด

 

 

ทั้งนี้ไฮไลท์ของ Home Service เวอร์ชั่น 2018 พร้อมกับหลากหลายปรากฏการณ์ด้านเทคโนโลยีและสิทธิประโยชน์สำหรับลูกบ้านแสนสิรินั้น มีอยู่ด้วยกัน 3 แกนหลัก ได้แก่
-ครั้งแรก ที่สามารถสั่งการด้วยเสียงภาษาไทย บนแอปพลิเคชั่นในมือถือจากอสังหาริมทรัพย์ของประเทศไทยที่ไม่ว่าจะอยู่ในประเทศไทยหรือต่างประเทศ ก็ใช้งานได้สะดวก ไม่ว่าจะเป็นการถามค่าใช้จ่าย จองส่วนกลาง สั่งควบคุมอุปกรณ์ต่างๆ ภายในบ้าน เช็กค่าน้ำ-ไฟ เช็กพัสดุและแจ้งซ่อม

 

-ครั้งแรกกับ E-Wallet ฟังก์ชั่นบนแอปพลิเคชั่นด้านการอยู่อาศัย เพื่อตอบโจทย์เทรนด์ e-Commerce Lifestyle ที่จะช่วยให้เรื่องการจ่ายทุกค่าใช้จ่ายเพื่อการอยู่อาศัยง่ายขึ้น สะดวกยิ่งขึ้น ในแอปพลิเคชั่นเดียว ไม่ว่าจะเป็น ค่าน้ำค่าไฟ ค่าส่วนกลาง ค่าผ่อนคอนโดฯ และในอนาคตจะรองรับการซื้อขายสินค้าและบริการต่างๆ ด้วยระบบ Payment Gateway ที่กำลังอยู่ในระหว่างการวางระบบ พร้อมดึงพันธมิตรร้านค้าชั้นนำต่างๆ มารวมอยู่ใน E-Wallet ซึ่งจะพร้อมเปิดให้ใช้ในไตรมาสที่ 3

 

-ครั้งแรกกับการจัดเต็มด้านสิทธิประโยชน์ และบริการเหนือระดับตอบโจทย์การใช้ชีวิตของลูกบ้านได้อย่างครบครัน ด้วยการผนึกกำลังจากพันธมิตรชั้นนำจากหลากหลายวงการ อาทิ 1.อัพเกรดฟังก์ชั่นการแต่งห้องจาก SB Furniture ทั้งหมด 2 ส่วน คือ เฟอร์นิเจอร์แพ็กเกจที่แสนสิริออกแบบร่วมกับ SB Furniture ให้ตรงกับแบบแพลนของห้องในโครงการ โดยมีให้เลือกถึง 4 แบบ ซึ่งได้เปิดตัวฟังก์ชั่นนี้ให้กับลูกบ้านโครงการ mori HAUS แล้ว และต่อไปจะเริ่มนำมาใช้กับโครงการภายใต้แบรนด์ THE LINE และยังมี เฟอร์นิเจอร์รายชิ้น ที่คัดสรรเข้ามาไว้ในแอปพลิเคชั่น Home Service โดยผู้ออกแบบที่มีชื่อเสียง ให้เหมาะสมกับแต่ละโครงการในสไตล์ต่าง ๆ พร้อมข้อเสนอพิเศษอีกมากมาย

 

2.เพิ่มไอคอน Samsung บนแอพพลิเคชั่น Home Service เพื่อลิงค์ไปสู่ Microsite พิเศษ เพื่อเลือกซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้า Samsung กว่า 150 รายการด้วยข้อเสนอราคาพิเศษกว่าท้องตลอด พร้อมโปรโมชั่นประจำไตรมาสสำหรับลูกบ้านแสนสิริโดยเฉพาะ

 

3.เลือกซื้อวัสดุก่อสร้างและตกแต่งบ้านจาก SCG บนแอปพลิเคชั่น Home Service พร้อมโปรโมชั่นสุดพิเศษพร้อมตัวเลือกบริการติดตั้งถึงที่

 

4.สำหรับโครงการในกรุงเทพฯ ลูกบ้านสามารถสั่งซื้อน้ำดื่ม Sprinkle ผ่านแอปพลิเคชั่น Home Service ในราคาพิเศษ พร้อมจัดส่งให้เมื่อสั่งขั้นต่ำเพียง 2 แพค จากปกติที่ต้องสั่ง 10 แพคจึงจะจัดส่ง และยังมี Welcome pack สำหรับลูกบ้านที่โอนโครงการภายในปีนี้อีกด้วย

 

5.เชื่อมโยงกับ Trendy Wash ระบบตรวจสอบสถานะการซักผ้าของเครื่องซักผ้าภายในโครงการเพื่อตรวจสอบว่าเครื่องว่างพร้อมใช้งานหรือไม่ และระบบใช้เงินดิจิทัลแทนการหยอดเหรียญ พร้อมกับแจ้งเตือนเมื่อเครื่องซักผ้าทำงานเสร็จ ซึ่งนำร่องให้บริการแล้วใน 10 โครงการ ในกลุ่ม D CONDO และ THE LINE และได้รับผลตอบรับที่ดีจากลูกค้า

 

“ปัจจุบันลูกค้าโครงการเก่าของแสนสิริ อาจจะใช้ระบบสั่งการภาษาไทยได้เพียง 3 เรื่องก่อน ได้แก่ การเช็กค่าน้ำ-ไฟ,การเช็กพัสดุและการแจ้งซ่อม แต่ตั้งแต่กลางปี2561 เป็นต้นไป โครงการของแสนสิริทุกทำการโอนกรรมสิทธิ์ จะสามารถใช้แอพพลิเคชั่นเวอร์ชั่น2018 ได้ทั้งหมด และในอนาคตโครงการเก่าก็จะต้องเข้าร่วมโครงการ “Home Upgrade”ในกรณีที่ลูกค้าแต่ละรายต้องการใช้แอปพลิเคชั่นดังกล่าว ทั้งนี้ค่าใช้จ่ายจะขึ้นอยู่กับอุปกรณ์ที่เลือกว่าเป็นชุดเล็กหรือชุดใหญ่ โดยจะเริ่มดำเนินการในช่วงกลางปีนี้เป็นต้นไป”นายจิรพัฒน์ กล่าว

 

นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชั่นใหม่ ๆ ที่สอดคล้องกับสิ่งอำนวยความสะดวกของแต่ละโครงการ อาทิ สิทธิประโยชน์จาก Sansiri Family การควบคุมระบบ Home Automation ระบบตรวจสอบคิวลิฟท์จอดรถอัตโนมัติ ระบบควบคุม Smart Locker ระบบจอง Smart Move หมายเลขโทรศัพท์ที่เป็นประโยชน์รอบ ๆ โครงการ รวมถึงห้องแชทกับนิติบุคคลได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยได้อัพเกรดเทคโนโลยีแชทบอทมาช่วยตอบคำถามในช่วงนอกเวลาทำการ

 

โดยบริษัทได้เปิดตัวแอปพลิเคชั่น Home Service เวอร์ชั่น 2018 ให้ลูกบ้านแสนสิริได้ทดลองใช้บางฟีเจอร์ ไปแล้วเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2561ที่ผ่านมา โดยมีผู้ดาวน์โหลดไปใช้แล้วกว่า 10,000 ราย และได้มีการรวบรวมคำแนะนำติชมจากลูกค้ามาปรับปรุงระบบอยู่ตลอดเวลา และในอนาคตจะมีการพัฒนาต่อยอดฟีเจอร์ใหม่ ๆ เพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง ทั้งการจับมือกับพันธมิตรใหม่ ๆ เพื่อมอบข้อเสนอพิเศษให้กับลูกบ้าน การเชื่อมโยงฮาร์ดแวร์อื่น ๆ ภายในโครงการ อาทิ Video Door Phone การนำเสนอคอนเทนต์ด้านไลฟ์สไตล์ การเพิ่มฟังก์ชั่นระบุพิกัดตำแหน่งในอาคารด้วยเทคโนโลยี iBeacon เลือกซื้อโครงการใหม่ ๆ ในเมนู Online Booking อัพเกรดฟังก์ชั่นบ้านด้วย Home Upgrade Program ระบบนัดหมายแจ้งซ่อมและจองที่นั่งร่วมกิจกรรมโครงการในฟังก์ชั่น E-Appointment + My Calendar รวมทั้ง Rental management ซึ่งเป็นปล่อยเช่าที่ครบวงจร โดยผู้ปล่อยเช่า สามารถดูข้อมูลติดต่อของผู้เช่า กำหนดค่าเช่า เรียกเก็บค่าเช่า ผ่านระบบ e-Wallet และผู้เช่า

 

อีกทั้งในอนาคตยังมีแผนสร้างการเชื่อมโยงกับภาคการเงินและฟินเทคเพื่อให้บริการต่าง ๆ เช่น การขอสินเชื่อบ้าน การรีไฟแนนซ์ การทำประกันที่อยู่อาศัย ตลอดจนการพัฒนาให้ Home Service เป็น Open Platform ที่สามารถนำไปใช้กับผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายอื่น ๆ ได้อีกด้วย

 

สำหรับลูกบ้านแสนสิริเพียงดาวโหลด Home Service Application เวอร์ชั่น 2018 และลงทะเบียนใช้งานตั้งแต่วันนี้ – 30 เมษายน 2561 ลุ้นรับทันที Samsung Galaxy Note 8 รวมทั้งสิ้น 9 รางวัล (เดือนละ 3 รางวัล)