มั่นคงเคหะการฯกางแผน 3 ปีสัดส่วนรายได้ธุรกิจอสังหาฯ-ให้เช่าอยู่ที่ 50:50 ทั้งสนขยายไลน์ธุรกิจท่องเที่ยว-ผู้สูงอายุตามเทรนด์ เล็งร่วมทุนพันธมิตรไทย-เทศ คาดสรุปผลปลายปีนี้ ล่าทุ่มงบกว่า 160 ล้านบาทปรับโฉมสนามกอล์ฟเก่าภายใต้แบรนด์ใหม่ “ฟลอร่า วิลล์ กอล์ฟ แอนด์ คันทรี คลับ’ย่านปทุมธานี

 

 

นายวรสิทธิ์ โภคาชัยพัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มั่นคงเคหะการ จำกัด(มหาชน)หรือMK เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้าหมายสัดส่วนกำไรจากธุรกิจขายอสังหาริมทรัพย์และสัดส่วนกำไรจากธุรกิจให้เช่าและบริการในช่วง 3 ปี (ปี 2561-2563) เป็น 50:50 จากสิ้นปีก่อนที่มีสัดส่วนกำไรอยู่ที่ 90:10 โดยในช่วง 3 ปีนี้ การเพิ่มสัดส่วนกำไรของธุรกิบให้เช่าและบริการจะเน้นไปที่การจับธุรกิจที่เป็นเทรนด์ของประเทศไทย ได้แก่ ธุรกิจอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับโรงงานและคลังสินค้าให้เช่า ธุรกิจบริการที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว และธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับผู้สูงอายุ

 

โดยในส่วนของธุรกิจโรงงานและคลังสินค้าให้เช่า บริษัทมีแผนจะพัฒนาพื้นที่คลังสินค้าและโรงงานในโครงการบางกอกฟรีเทรดโซนของบริษัท พรอสเพค ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ถือหุ้นอยู่ 100% ให้เพิ่มเป็น 300,000 ตารางเมตร ภายในปี 2563 จากปัจจุบันมีพื้นที่ทั้งหมดรวม 150,000 ตารางเมตร เพื่อรองรับการขยายตัวของความต้องการใช้โรงงานและคลังสินค้าจากผู้ประกอบการต่างๆ ซึ่งได้รับอานิสงส์มาจากโครงการระเบียงเขตเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรือEEC ซึ่งจะทำให้มีผู้ประกอบการต้องการใช้โรงงานและคลังสินค้าเพิ่มขึ้น

 

ขณะเดียวกันบริษัทยังมองไปถึงการลงทุนในธุรกิจท่องเที่ยวและธุรกิจเกี่ยวกับผู้สูงอายุและสุขภาพ ซึ่งอยู่ระหว่างการศึกษารูปแบบการพัฒนาธุรกิจ และอยู่ระหว่างการเจรจากับพันธมิตรทั้งในและต่างประเทศที่มีความชำนาญในธุรกิจดังกล่าวที่จะเข้ามาร่วมทุนกับบริษัท ซึ่งคาดว่าจะได้ความชัดเจนในช่วงปลายปี 2561 นี้ โดยการพัฒนาธุรกิจในด้านธุรกิจและท่องเที่ยละธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพและผู้สูงอายุเป็นการจับทิศทางของเทรนด์ประเทศไทยที่การท่องเที่ยวมีการเติบโตและมีจำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาอย่างต่อเนื่อง และการที่มีแนวโน้มของจำนวนผู้สูงอายุสูงขึ้น ทำให้เป็นโอกาสของบริษัทที่จะเข้าไปรุกในตลาดดังกล่าว

 

 

ด้านงบลงทุนรวมในปี 2561 บริษัทตั้งไว้ที่ 4,000 ล้านบาท เพื่อใช้สำหรับการซื้อที่ดิน การลงทุนในโรงงาน และโครงการอื่นๆ โดยแหล่งเงินทุนจะมาจากกระแสเงินสดของบริษัท เงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน และอาจจะมีการออกหุ้นกู้เพิ่มเติม ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการพิจารณา ขณะเดียวกันในปีที่ผ่านมา บริษัทได้ดำเนินการพัฒนาปรับโฉม ‘ชวนชื่น กอล์ฟคลับ’ สนามกอล์ฟในเครือ ย่านปทุมธานีที่ก่อตั้งมายาวนานกว่า 24 ปี ให้มีรูปแบบที่ทันสมัยและเข้ากับไลฟ์สไตล์ของคนยุคปัจจุบันมากยิ่งขึ้น โดยใช้งบลงทุนในการปรับโฉมครั้งนี้กว่า 160 ล้านบาท ซึ่งได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการไปแล้วเมื่อกุมภาพันธ์ 2561 ที่ผ่านมา ภายใต้ชื่อใหม่ ‘ฟลอร่า วิลล์ กอล์ฟ แอนด์ คันทรี คลับ’ สนามกอล์ฟมาตรฐาน 18 หลุม บนเนื้อที่มากกว่า 400 ไร่

 

ซึ่งบริษัทคาดว่าจะมีรายได้จากธุรกิจการให้บริการสนามกอล์ฟและสปอร์ตคลับในปี 2561  เพิ่มขึ้น 40% จากปีก่อนที่มีรายได้จากสนามกอล์ฟอยู่ที่ 80 ล้านบาท อีกทั้งจะมีการพัฒนาโครงการบ้านเดี่ยวในพื้นที่สนามกอล์ฟที่มีพื้นที่เหลืออีก 300 ไร่ จำนวน 2 โครงการ โดยแปลงแรกพัฒนาบนพื้นที่ประมาณ 50 ไร่ ขนาด 500-600 ตารางวา จำนวน 36 ยูนิต ราคา 40 ล้านบาทขึ้นไป ซึ่งจะเปิดตัวในเดือนพฤษภาคมนี้ ส่วนอีกโครงการตั้งอยู่บนพื้นที่ประมาณ 30 ไร่ เป็นบ้านเดี่ยวขนาด 50-100 ตารางวา ราคา 4.3-5 ล้านบาท คาดว่าจะเปิดตัวได้ปลายปีนี้

 

ด้านนางสาวดุษฎี ตันเจริญ กรรมการผู้จัดการ MK กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้ายอดขายปีนี้ไว้ที่ 3,500 ล้านบาท พร้อมวางแผนเปิดโครงการใหมจำนวน 7 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 4,720 ล้านบาท ได้แก่โครงการบ้านเดี่ยว 5 โครงการ และโครงการทาวน์โฮม 2 โครงการ โดยเน้นพัฒนาโครงการในทำเลใกล้เคียงกับโครงการเดิมในปีที่ผ่านมา เนื่องจากเป็นทำเลที่มีศักยภาพ ตลอดจนยังมีกำลัง ซื้ออยู่มาก และวางงบซื้อที่ดินไว้ที่ 1,500 ล้านบาท  ส่วนยอดขายรอโอน (Backlog) ในปัจจุบันอยู่ที่ 300 ล้านบาท ซึ่งจะรับรู้รายได้ทั้งหมดในปี 2561