เอสซีฯประกาศโรดแมป3ปี ตั้งเป้ายอดขายรวมกว่า 60,000ล้านบาท เติบโตภานใต้ 4 กลยุทธ์หลัก และร่วมสโคปฯพัฒนา 11 โครงการ เปิดแผนปี61 ผุด 19 โครงการ รวมมูลค่า19,000ล้านบาท พร้อมรึกแนวราบตจว.ครั้งแรกที่ฉะเชิงเทรา หวังรับEEC ตั้งงบซื้อที่ดินปีนี้ 10,000 ล้านบาท

 

นายณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือSC เปิดเผยภาพรวมตลาดปี2561มีอัตราการเติบโตตามจีดีพีที่เพิ่มขึ้น และมีความท้าทายเรื่องการโอน เพราะสถาบันก็ยังมีความเข้มงวดในเรื่องการปล่อยสินเชื่อ ในขณะที่ราคาที่ดินจะมีความหลากหลาย ปรับเพิ่มขึ้นตามระบบสาธารณูปโภคของภาครัฐที่ขยายไปยังทำเลนั้นๆ โดยที่ดินจะถูกปล่อยออกขายมากขึ้นจากแรงกดดันเรื่องพ.ร.บ.ภาษีที่ดินฯ แต่ก็เชื่อว่าสปีดของราคาที่ดินในปีนี้ก็จะเริ่มชะลอตัวลงเฉลี่ย 5% จากเดิมที่เพิ่มขึ้น 5-10%

 

และภายในระยะเวลา 3 ปีนี้บริษัทได้ประกาศโรดแมป “SC RE-INVENTION 2020”ตั้งเป้าหมายยอดขาย 24,000 ล้านบาท รายได้ 22,000 ล้านบาทในปี 2563 และยอดขายรวม 3 ปี 2561-2553มากกว่า 60,000 ล้านบาท พร้อมปรับวิธีคิดจากการเป็นผู้ประกอบการ ก้าวสู่การเป็น Living Solutions Provider ทำงานร่วมกับพันธมิตรหลากหลายใน ecosystem เพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตของมนุษย์ได้ดียิ่งขึ้นบน landscape ใหม่นี้ โดยจะเติบโตด้วยกลยุทธ์ 4 ข้อคือ

 

1. RE-INVENTION จาก DEVELOPER สู่ LIVING SOLUTIONS PROVIDER ผ่าน 3D
– D1 DIGITIZE ปรับเปลี่ยนระบบการทำงานจาก analog เป็น digital เพื่อจะได้นำ data ทั้งในส่วนการทำงานและความต้องการของลูกค้า (insights) มาวิเคราะห์และพัฒนาให้ดีขึ้น
– D2 DESIGN ใช้หลัก human-centric ออกแบบสินค้า บริการ และโซลูชั่น (solutions) โดยเริ่มต้น ที่ทำความเข้าใจปัญหา หรือ pain points ในการใช้ชีวิตของลูกค้า
– D3 DEVELOP ประสานนวัตกรรม และพัฒนาที่อยู่อาศัยอย่างมีคุณภาพในทุกระดับราคา

 

2. CO-CREATION ด้วยการที่ SC ร่วมกับพันธมิตรในระบบ ecosystem ส่งมอบ living solutions (การพัฒนาที่อยู่อาศัยและบริการหลังการขาย โดย SC และสิ่งอื่นๆ โดยพันธมิตร) ให้ลูกค้าและชุมชนข้างเคียง ซึ่งเรียก living solutions platform ว่า Rue Jai

3. QUALITY FIRST คุณภาพสินค้าและบริการเป็นเรื่องสำคัญเหนือสิ่งใด แบ่งเป็นสองส่วนคือ pre-transfer และ after-transfer

4. TOP-LINE GROWTH เติบโตในส่วน top-line ทั้งยอดขายและรายได้
อสังหาฯ เพื่อขายทำหน้าที่หลักขับเคลื่อนการเติบโต ในขณะที่อสังหาฯ เพื่อเช่าทำหน้าที่เป็น secured income ซึ่งปัจจุบันมีพื้นที่อาคารสำนักงานเพื่อเช่ารวม 110,000 ตารางเมตร มีสัดส่วนของกำไรสุทธิสูงถึง 1 ใน 4

 

นอกจากนี้ภายในระยะเวลา 3 ปีนี้จะมีการเปิดตัวโครงการร่วมกับบริษัท สโคป จำกัด ซึ่งSC ถือหุ้น 90% จำนวน 11 โครงการ ขณะนี้มีที่ดินรองรับแล้ว 4 แปลง ส่วนที่เหลืออยู่ในระหว่างการเซ็นสัญญาซื้อที่ดิน ซึ่งโครงการที่พัฒนาโดยสโคปฯจะเป็นการสร้างแบรนด์ใหม่ขึ้นมา เน้นการพัฒนาในสไตล์ที่หวือหวา โดยบริษัทมองว่าหากพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมระดับซุเปอร์ลักชัวรี่ราคาไม่ต่ำกว่า 500,000 บาท/ตารางเมตร ก็ยังมีลูกค้าที่มีความต้องการซื้ออยู่ ซึ่งการขายจะแยกกันอย่างชัดเจน แต่ด้านการก่อสร้างSC จะเข้ามาร่วมดำเนินการด้วย ซึ่งโครงการที่สโคปฯพัฒนานั้นรวมไปถึงที่ดินบริเวณซอยหลังสวน พื้นที่880 ตารางวา ที่เป็นดีลซื้อขายที่แพงที่สุดของปีนี้ ตารางวาละ 3.17 ล้านบาท ที่มีแผนจะเปิดตัวในต้นปี2562 แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ คงต้องรอนายยงยุทธ ชัยพรหมประสิทธิ์ มาให้ข้อมูลอีกครั้ง

 


สำหรับแผนการดำเนินงานของSCในปี 2561 นี้มีแผนพัฒนาใหม่รวม 19 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 19,000 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการแนวราบ 17 โครงการ มูลค่า 15,000 ล้านบาท โดยเป็นโครงการแนวสูง 2 โครงการ มูลค่า 4,000 ล้านบาท และแนวราบ 15 โครงการ

โดยhi-light ของโครงการใหม่ในปีนี้ สำหรับแนวราบคือ township concept development จำนวน 2 โครงการ 2 ทำเล บนที่ดินผืนใหญ่ทำเลกรุงเทพตะวันออก บริเวณกรุงเทพกรีฑา พื้นที่กว่า 115 ไร่ และกรุงเทพฯโซนเหนือ ย่านบางกระดี จ.ปทุมธานี พื้นที่กว่า 200 ไร่ ซึ่งจะเปิดขายครึ่งปีหลังของปีนี้ โดยในแต่ละtownship จะมีประมาณ 6-7 โครงการ ซึ่งแต่ละแปลงจะทดสอบเปิดตัวก่อน 2 โครงการ ภายใต้แบรนด์ “เวิร์ฟ”(VERVE)และ “เพฟ”(PAVE)

 


และในจำนวนแนวราบที่พัฒนาในปีนี้จะรุกตลาดต่างจังหวัดเป็นครั้งแรกโดยเริ่มที่จ.ฉะเชิงเทรา 2 โครงการภายในปีนี้ ซึ่งเป็นการรองรับโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออกหรือEEC ภายใต้แบรนด์“เพฟ”(PAVE)โดยแปลงแรกตั้งอยู่บนพื้นที่ 30 ไร่ เป็นบ้านเดี่ยวราคา 4.3 ล้านบาท โดยจะเปิดตัวในเดือนมีนาคมนี้ และอีกแปลงหนึ่งจะเป็นบ้านแฝด-บ้านเดี่ยวราคา 2.5-5 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นการรองรับการเติบโตของส่วนแบ่งตลาดแนวราบกลุ่มนี้ในช่วงปี 2561-2563

 

สำหรับโครงการแนวสูง คือ โครงการ CENTRIC รัชโยธิน ทำเลใกล้ BTS สถานีรัชโยธินเพียง 150 เมตร เป็นอาคารสูง 21 ชั้น เริ่มต้น 3.7 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 1,500 ล้านบาท เปิดพรีเซลในเดือนมีนาคม 2561 นี้ และโครงการ THE CREST สุขุมวิท 23 มูลค่าประมาณ 2,500 ล้านบาท จะเปิดขายประมาณไตรมาส4ของปี

ทั้งนี้ได้เตรียมงบเพื่อซื้อที่ดินรองรับพัฒนาโครงการใหม่ในปีนี้ไว้ที่ 10,000 ล้านบาท อย่างไรก็ตามในปี 2561 นี้บริษัทตั้งเป้ามียอดขาย 17,000 ล้านบาท เติบโต 11% และตั้งเป้ามีรายได้ที่ประมาณ 17,000 ล้านบาท โดยผลการดำเนินงานในปี 2560 ที่ผ่านมา มียอดขายรวม 15,278 ล้านบาท เติบโต 32%