“อยุธยาสร้างบ้าน”รับตลาดรับสร้างบ้านปี’60 ทรงตัว หลากปัจจัยลบ ส่งผลลูกค้าชะลอใช้เงิน ขณะที่ยอดขอข้อมูล-ราคาบ้าน ผ่านโซเซียลมีเดีย พุ่งสวนทาง  มั่นใจเศรษฐกิจปีหน้าดีกว่าปีนี้  รัฐเร่งลงทุนตามแผน  กำลังซื้อฟื้นตัวดีขึ้น  คาดตลาดบ้านสไตล์รีสอร์ท ยังมาแรง  ตามเทรนด์กลุ่มเจ้าของธุรกิจในและต่างประเทศกำลังนิยม  พร้อมจับมือพันธมิตรดันแบรนด์ “AYB RESORT HOUSE” รุกตลาด หลังกระแสตอบรับดีเกินคาด ลูกค้าบอกต่อสร้างมูลค่าเพิ่มแบรนด์  ชี้มีดีที่ดีไซน์ทันสมัยผสมผสานอัตลักษณ์ความเป็นไทย  พร้อมตั้งเป้ารายได้ปี’61เติบโต 10%

 

 

นายธีร์ บุญวาสนา กรรมการผู้จัดการ บริษัท อยุธยา สร้างบ้าน จำกัด ผู้นำธุรกิจรับสร้างบ้านในสไตล์ รีสอร์ท ภายใต้แบรนด์ “AYB RESORTHOUSE”(เอวายบี รีสอร์ท เฮาส์) เปิดเผยถึงแนวโน้มตลาดรับสร้างบ้านในปี 2561 คาดว่าจะมีอัตราการเติบโตที่ดีขึ้นกว่าปีนี้  จากปัจจัยต่างๆ ทั้งนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ การส่งออกที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง และจะยังมีแรงส่งไปจนถึงปีหน้า การลงทุนของภาครัฐที่ยังคงต้องเร่งลงทุนตามแผน ภาคเอกชนมีความมั่นใจที่จะลงทุนมากขึ้น ตลอดจนการบริโภคในประเทศเริ่มฟื้นตัวดีขึ้น โดยจากปัจจัยดังกล่าว  จะส่งผลต่อจิตวิทยาผู้บริโภคในภาพรวม  โดยเฉพาะกลุ่มตลาดบ้านระดับราคา 10 ล้านบาทขึ้นไป ซึ่งลูกค้ากลุ่มดังกล่าวส่วนใหญ่จะมีที่ดินเตรียมที่จะสร้างบ้านและมีงบประมาณอยู่แล้ว จะเหลือเพียงตัดสินใจสร้าง หากมีแบบบ้านที่เหมาะสม และมีความเชื่อมั่นในภาวะเศรษฐกิจ ก็จะพร้อมที่จะสร้างบ้านของตนเอง

 

นอกจากนี้ยังพบว่าพฤติกรรมผู้บริโภคกลุ่มตลาดบ้านระดับราคา 10  ล้านบาทขึ้นไป จะให้ความสนใจการสร้างบ้านโดยเน้น Life Style การอยู่อาศัยที่เหมาะสมกับตนเองเป็นหลักมากขึ้น กว่าที่จะมองเรื่องขนาดพื้นที่ หรือแค่ความสวยงามภายนอก เชื่อมั่นและเลือกบริโภคสินค้าจากแบรนด์ที่ชื่นชอบและน่าเชื่อถือ  รวมทั้งมีพฤติกรรมในการค้นหาข้อมูลการสร้างบ้านด้วยตัวเอง หรือผ่านทางคนใกล้ชิดที่มีไลฟ์สไตล์ใกล้เคียงกัน ซึ่งบริษัทพบว่ากลุ่มคนใกล้ชิด จะส่งผลและมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจค่อนข้างสูง รองจากสมาชิกครอบครัว  เพราะบริษัทมีฐานลูกค้าลักษณะนี้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

 

“เราเชื่อมั่นว่าตลาดบ้านสไตล์รีสอร์ทในปีหน้ายังมาแรง ที่สามารถตอบโจทย์ Life Style ของลูกค้ากลุ่มนี้ ที่ชื่นชอบการอยู่อาศัยในแบบบ้านที่เหมาะสมกับตนเอง ซึ่งกำลังนิยมของกลุ่มเจ้าของธุรกิจในและต่างประเทศ”  นายธีร์กล่าว

 

 

สำหรับแผนการตลาดของบริษัทฯในปี 2561 จะคงตอกย้ำการสร้างแบรนด์ “AYB Resort House” (เอวายบี รีสอร์ท เฮาส์) มุ่งเน้นเป็นผู้เชี่ยวชาญในการสร้างพื้นที่แห่งการพักผ่อน เพื่อการอยู่อาศัย โดยมีแนวทางในการมทำงาน และสื่อสารกับลูกค้ากลุ่มเป้าหมายด้วยกัน 3 แนวทางคือ 1. การสร้างเอกลักษณ์ของการออกแบบบ้านให้มีบรรยากาศพักผ่อนRelaxing Space เน้นให้ ทุกพื้นที่ใช้สอยสามารถเชื่อมโยงกับธรรมชาติ มีเอกลักษณ์ความเป็นไทยร่วมสมัย และเลือกใช้วัสดุที่เป็นธรรมชาติให้เข้ากับบรรยากาศ สร้างความผ่อนคลายให้ผู้อยู่อาศัย

 

2.การพัฒนาและถ่ายทอดงานฝีมือช่าง เพื่อคงคุณภาพมาตรฐานของบริษัท โดยได้ตั้งศูนย์พัฒนาทักษะ ฝีมือช่าง เป็นตัวกำหนดมาตรฐานฝีมือช่าง โดยได้รับความร่วมมือจากสถาบันนายช่างดีของSCG ในการสร้างหลักสูตรฝึกอบรม มีการประเมินตรวจสอบคุณภาพช่างให้มีมาตรฐานการทำงานให้สอดคล้องกัน ทั้งในภาคทฤษฎีและปฏิบัติ

 

และ 3. การสร้างระบบการทำงานที่มีคุณภาพและมาตรฐาน โดยต่อยอดจากการที่บริษัทได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO 9001 (2015) สู่การพัฒนาระบบสารสนเทศที่เป็นศูนย์กลางในการเชื่อมโยงข้อมูลและประสานงานต่างๆ ในการวางแผน สั่งการ ติดตามตรวจสอบและแก้ปัญหาเชื่อมโยงการทำงานทั้งในส่วนสถาปนิก วิศวกร ตลอดจนทีมงานก่อสร้างผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ตเพื่อการเชื่อมโยงข้อมูลที่รวดเร็วและถูกต้อง เพื่อให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

 

ดังนั้นในปี 2561 บริษัทฯได้ตั้งเป้ารายได้เติบโตสูง 10% หรือประมาณ 176 ล้านบาท จากปี 2560 คาดถึงสิ้นปีทำรายได้อยู่ที่ 160 ล้านบาท    สำหรับผลประกอบการของบริษัทในปี 2560  แม้ว่าได้เน้นการทำตลาดเชิงรุก และเร่งการสร้างแบรนด์ “AYB Resort House” ให้เป็นรู้จัก ด้วยคอนเซ็ปต์ที่ชัดเจนและสไตล์บ้านที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ ส่งผลให้ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายมีความเชื่อมั่น สอบถามข้อมูลและใช้บริการรับสร้างบ้านกับทางบริษัทมากขึ้น แต่ด้วยปัจจัยทางเศรษฐกิจทั้งในและนอกประเทศ ส่งผลให้ลูกค้าหลายรายชะลอการตัดสินใจสร้างบ้านไปเป็นปีหน้าแทน ทำให้ยอดรายได้ในปีนี้ไม่เติบโตอย่าที่คาดไว้ แต่ขณะเดียวกันยอดของลูกค้าที่แสดงความสนใจในแบบบ้าน โดยขอเข้าชมผ่านทางช่องทางกิจกรรมที่บริษัทจัดขึ้น และเข้ารับคำปรึกษาโดยตรงที่บริษัท ตลอดจนขอข้อมูลแบบและราคาทางเว็ปไซต์และ Social Media ของบริษัทกลับสูงขึ้นกว่าในปีที่ผ่านมา  โดยยอดผู้ติดตามหน้าเพจของ เอวายบี รีสอร์ท เฮาส์ ใน Facebook ก็มากขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีจำนวนกว่า120,000 รายในปัจจุบัน ทั้งนี้บริษัทเน้นการสร้าง  Content และแชร์ประสบการณ์ร่วมกันในลักษณะ Lifestyle community ซึ่งจะนำไปสู่การร่วมกิจกรรมทางตลาดที่บริษัทได้เตรียมจัดตลอดทั้งปี

 

สำหรับกลุ่มเป้าหมายของบริษัทที่ชื่นชอบบ้านสไตล์รีสอร์ท จากฐานข้อมูลที่บริษัทได้สำรวจ จะเป็นกลุ่มนักธุรกิจรุ่นใหม่ กลุ่มอาชีพเฉพาะ เช่น แพทย์ นักลงทุน รูปแบบบ้านจะเน้นไปที่ Function และ Lifestyle  การอยู่อาศัยมากกว่า style ของบ้านที่หรูหราหรืออลังการ  ส่วนใหญ่ต้องการบ้านอยู่อาศัยนอกเมืองสไตล์รีสอร์ทที่จะทำให้การใช้ชีวิตที่ต้องการบรรยากาศแห่งการพักผ่อน หรือหากจะสร้างบ้านในเมืองในที่ดินเดิมก็จะสร้างบ้านที่สอดแทรกธรรมชาติเข้าไปเพื่อให้ได้บรรยากาศแห่งการพักผ่อนมากขึ้นเช่นกัน ซึ่งก็สอดคล้องกับกระแส บ้านไสตล์ Modern Resort ที่ออกแบบให้มีความเรียบง่ายของสถาปัตยกรรมมีเปิดช่องกระจกขนาดใหญ่ที่จะเปิดมุมมองสู่ทัศนียภาพภายนอก ซึ่งเป็นที่นิยมในต่างประเทศ

 

ส่วนการตกแต่งภายในจะเน้นให้เชื่อมโยงกับพื้นที่ Outdoor Spaceที่เป็นสวนหรือสระน้ำ ที่จะทำให้เกิด Relaxing Space เสมือนการได้พักผ่อนอยู่ในResort ที่มีบรรยากาศธรรมชาติ ทั้งนี้บริษัทได้เน้นออกแบบบ้านใหม่ตาม4แนวทางหลักของ Resort House คือ Waterfront Series คือบ้านกับบรรยากาศริมน้ำ Hillside Series บ้านกับบรรยากาศเนินเขาเล่นระดับGreenery Series บ้านกับสวนสีเขียว และ Archicultural Series บ้านกับศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้านที่ประยุกต์ให้เข้ากับการอยู่อาศัยสมัยใหม่