ผ่านงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 37 มาได้กว่า 1 สัปดาห์แล้ว แม้ว่ายอดผู้เข้าชมงานจะลดลง 25% และมียอดขายภายในงานลดลง 12 % เมื่อเปรียบเทียบกับการจัดงานครั้งที่ 36 ในช่วงเดือนมีนาคม 2560 ขณะเดียวกันก็มีผู้ประกอบการบางค่ายที่ประสบความสำเร็จ ยอดขายเป็นไปตามเป้า บางรายก็ทะลุเป้าแบบเกินคาด ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคอนโดฯระดับราคาต่ำกว่า 1 ล้านบาท หรือเริ่มที่ 1 ล้านบาทต้นๆ แต่โดยรวมแล้วทุกคนต่างยอมรับว่าในช่วงเดือนตุลาคมของปีนี้ เป็นช่วงระยะเวลาที่คนไทยทั้งประเทศกลับเข้ามาสู่ภาวะโศกเศร้ากันอีกรอบ จึงยังไม่มีอารมณ์ที่จะจับจ่ายใช้สอยและซื้อที่อยู่อาศัย เชื่อว่าหลังจากที่ผ่านพ้นความเศร้าโศกไปแล้ว กำลังซื้อก็จะกลับเข้ามาสู่สภาวะปกติ หรือหลายๆค่ายอาจจะมียอดขายหลังการจัดงานตามมาในภายหลัง

 

 

 

“พฤกษา”โกย200ล้านบาท

นายประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจพฤกษา เรียลเอสเตท-พรีเมียม บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ PS เปิดเผยว่า จากการนำ 75 โครงการร่วมออกบูธในงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 37 ปรากฏว่าสามารถทำยอดขายได้ตามเป้าที่วางไว้ คือ 200 ล้านบาท ส่วนใหญ่จะเป็นยอดขายจากแบรนด์ “พลัมคอนโด”ที่ราคาขายอยู่ที่ประมาณ 8.9 แสนบาท-2 ล้านบาท ซึ่งมีให้เลือกหลากหลายทำเล และคาดว่าจนถึงปลายปี2560 จะสามารถทำยอดขายได้อีก 400-500 ล้านบาท เนื่องจากยังมีผู้สนใจลงทะเบียนไว้อีกกว่า 2,000 ราย

 

“ต้องยอมรับว่าช่วงการจัดงานเป็นช่วงโลว์ซีซั่น เนื่องจากเดือนตุลาคม ปีนี้เป็นช่วงราชพิธีสำคัญ แต่เชื่อว่าดีมานด์ยังมีอยู่ ดังนั้นหลังจากเสร็จงานพระราชพิธีแล้วช่วงเดือนพฤศจิกายน ดีมานด์ก็จะกลับคืนสู่ตลาด ผู้ประกอบการก็จะสามารถทำยอดขายได้มากขึ้น”นายประเสริฐ กล่าว

 

“ออลล์ อินสไปร์”ยอดขายทะลุเป้า140ล้านบาท

นายธนากร ธนวริทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออลล์ อินสไปร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทได้นำคอนโดฯไปร่วมออกบู๊ธจำนวน 2 โครงการ คือ ดิ เอ็กเซล ไฮด์อะเวย์ สุขุมวิท50 และ ดิ เอ็กเซล ไฮด์อะเวย์ สุขุมวิท71 ปรากฏว่าสามารถทำยอดขายได้เกิดเป้าที่ตั้งไว้เพียง 40 ล้านบาท แต่สามารถทำได้ถึง 120 ล้านบาท โดยเป็นคอนโดฯระดับราคาไม่เกิน 2.5 ล้านบาท ผู้ซื้อส่วนใหญ่ทำงานในย่านเอกมัยและเพลินจิต โดยยอดขายจะมาจากทั้ง 2 โครงการในสัดส่วนที่เท่าๆกัน นอกจากนี้หลังจากจบงานมหกรรมบ้านและคอนโดฯ ยังสามารถปิดยอดขายได้อีก 20 ล้านบาท รวมยอดขายทั้งหมด 140 ล้านบาท

 

“สาเหตุที่เราสามารถทำยอดขายได้ทะลุเป้า เนื่องจากลูกค้าเริ่มที่จะกล้าซื้อสินค้าของเรา เพราะมีความเชื่อมั่นในแบรนด์สินค้าที่เราได้ทำตลาดมาเป็นระยะเวลา 3 ปีแล้ว อีกทั้งยังกระจายไปยังทำเลที่หลากหลาย ทำให้องค์กรขยายตัวใหญ่มากขึ้น”นายธนากร กล่าว

 

NCHรับยอดขายต่ำกว่าเป้า

นายสมนึก ตันฑเทอดธรรม รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็น.ซี.เฮ้าส์ซิ่ง จำกัด(มหาชน)หรือ NCH กล่าวว่า ภาพรวมของงานมหกรรมบ้านและคอนโดครั้งนี้ ถือว่ายังพอไปได้ พิจารณาได้จากยอดขายของบริษัท ที่อยู่อาศัยประเภททาวน์เฮาส์ บ้านเดี่ยว บ้านแฝด และคอนโดฯ ในกลุ่มบ้านพร้อมอยู่นั้นได้รับการตอบรับที่ดี โดยบริษัทได้นำสินค้าไปจำหน่าย 200 ล้านบาท แต่ในช่วงวันจัดงาน 4 วัน สามารถทำได้กว่า 110 ล้านบาท หรือ 20 ยูนิต และยังสามารถทำยอดขายหลังงานได้อีกกว่า 50 ล้านบาท รวมเป็น 160 ล้านบาท จากโครงการ บ้านฟ้า กรีนเนอรี่ ราชพฤกษ์ ระดับราคา 4.8-7 ล้านบาทและโครงการบ้านฟ้า ทาวน์นี่ ปิ่นเกล้า-สาย5 ซึ่งยอมรับว่าเป็นยอดขายที่ต่ำกว่าเป้าที่ตั้งไว้ 200 ล้านบาท ซึ่งเข้าใจว่าในช่วงเดือนตุลาคมนี้ ดีมานด์ยังไม่ค่อยมีอารมณ์ในการหาซื้อที่อยู่อาศัย แต่เชื่อว่าตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน เป็นต้นไป สถานการณ์ทุกอย่างจะกลับเข้าสู่สภาวะปกติ ดีมานด์จะกลับคืนสู่ตลาด

ESTARปลื้มกวาด14ยูนิต

นายเกษมศักดิ์ สุนทโรทก ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด  บริษัท อีสเทอร์น สตาร์ เรียล เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ ESTAR กล่าวว่า หลังจากที่บริษัทนำโครงการ  Amber คอนโดมิเนียมหรูติดรถไฟฟ้าสายสีม่วงสถานีแยก
ติวานนท์ มาจัดแคมเปญ 9 ยูนิต ราคาพิเศษเริ่ม 2 ล้านบาทต้นๆ  ขนาด 1 ห้องนอน 35 ตารางเมตร ฟรีเฟอร์นิเจอร์จากโมเดอร์นฟอร์มครบชุด  มาออกบูธในงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 37 ปรากฏว่าสามารถทำยอดขายได้จำนวน 14 ยูนิต คิดเป็นมูลค่าขาย 39.2 ล้านบาท โดยเป็นการขายภายในงานจำนวน 8 ยูนิต และต่อเนื่องหลังงานอีก 6 ยูนิต ซึ่งเกินจากเป้าที่ตั้งไว้คือ 10 ยูนิต ทั้งนี้เป็นผลมาจากการเปิดสถานีเชื่อมต่อเตาปูนทำให้การเดินทางเข้าสู่ใจกลางเมืองสะดวกขึ้นอย่างมาก อีกทั้งโครงการ Amber ตั้งอยู่ในทำเลที่ดี เดินทางเพียง 3 สถานีถึงทางเชื่อมบางซื่อ โดยเชื่อว่าสถานการณ์การขายคอนโดมิเนียมของบริษัทในแนวรถไฟฟ้าสายสีม่วงจะดีขึ้นเป็นลำดับ สำหรับโครงการ Amber  มีจำนวนทั้งสิ้น 563 ยูนิต มูลค่ารวม 2,000 ล้านบาท ปัจจุบันมียอดขายกว่า 60%

 

“กานดา”โอดสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย

ด้านนายอิสระ บุญยัง กรรมการผู้จัดการ บริษัท กานดา พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด  กล่าวว่า ในงานดังกล่าวบริษัทฯสามารถทำยอดขายได้กว่า 60 ล้านบาท พลาดจากเป้าเล็กน้อยซึ่งวางไว้ 75 ล้านบาท โดยผู้มองว่าผู้บริโภคยังคงให้ความสนใจกับโครงการบ้านพร้อมอยู่มากกว่าการเปิดตัวโครงการใหม่ ขณะที่อสังหาฯ ประเภทอื่น เช่น อาคารพาณิชย์ระดับราคา 7 ล้านบาท ก็สามารถปิดการขายได้

โดยสาเหตุที่ทำให้ยอดขายไม่เป็นตามเป้านั้นเกิดจากสภาพดินฟ้าอากาศที่ไม่เอื้ออำนวย มีฝนตกตลอดการจัดงานซึ่งทำให้ผู้เข้าชมโครงการน้อยลง ไม่ว่าจะเป็นที่ต้้งโครงการหรือในงาน หลังจากนี้บริษัทจะทำแคมเปญหรือโปรโมชั่นเป็นรายแปลง โดยจะเน้นโครงการบ้านพร้อมอยู่พร้อมโอนแทนทำกิจกรรมการตลาดโดยรวม

แม้ว่าตลอด 4 วันของการจัดงานจะพลาดเป้าไปเล็กน้อย เมื่อเทียบกับการจัดงานครั้งที่ 36 แต่ทุกคนก็เข้าใจสถานการณ์ได้เป็นอย่างดีว่าช่วงเดือนตุลาคมของปีนี้ เป็นช่วงการจัดงานพระราชพิธีสำคัญ จึงไม่แปลกใจที่ยอดขายจะไม่เป็นไปตามเป้าที่วางไว้กัน แต่เชื่อว่าตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน เป็นต้นไปสถานการณ์ทุกอย่างจะกลับเข้าสู่สภาวะปกติ กำลังซื้อจะกลับคืนตลาด ในช่วงเวลานั้นผู้ประกอบการคงต้องโหมการจัดแคมเปญเพื่อกระตุ้นยอดขายในปลายปีกันอีกครั้งหนึ่ง