อสังหาฯ ประเมินปี 61 แนวโน้มเติบโต เหตุภาคการส่งออกดีขึ้น ดอกเบี้ยอยู่ระดับต่ำ สถาบันการเงินเพิ่มเป้าปล่อยสินเชื่อ บวกแรงส่งเมกะโปรเจกต์โครงข่ายรถไฟฟ้าหนุน ด้านนายกสมาคมอาคารชุดไทย ประเมินราคาที่ดินในเขตซีดีบี ขยับสูงขึ้น 7-10%  เหตุบิ๊กอสังหาฯและโปรเจกต์ร่วมทุน แห่ซื้อที่ดินผุดโครงการ ดันราคาห้องชุดในซีบีดีขยับไปอีก 5-7%  ส่วนงานมหกรรมบ้านและคอนโด คาดคนเข้าชมงาน 1 แสนคน เงินสะพัดในงานและต่อเนื่องถึง 12,000 ล้านบาท  

 

นายอธิป พีชานนท์  นายกสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร เปิดเผยถึงตลาดอสังหาฯไตรมาส 4 โดยรวมน่าจะดีขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาส2-3 ที่ผ่านมา  เพราะสภาวะเศรษฐกิจโดยรวมน่าจะดีขึ้นต่อเนื่องไปถึงไตรมาส1/2561 เนื่องจากมีหลายปัจจัยเข้ามาสนับสนุนทั้งเรื่องอัตราดอกเบี้ยยังอยู่ในระดับคงที่ และดัชนีตลาดหุ้นน่าจะมีโอกาสที่จะปรับขึ้นไปอีก เนื่องจากมีสภาพคล่องจากต่างประเทศไหลเข้าสู่ตลาดหุ้นไทย แต่ต้องพิจารณาให้รอบคอบ เนื่องจากกังวลว่าจะเป็นแค่ช่วงสั้น

 

อีกทั้งสถาบันการเงินเริ่มเพิ่มปริมาณการปล่อยสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยมากขึ้น ขณะเดียวกันอัตราการปฏิเสธสินเชื่อที่สูงถึง 40% ก็ปรับลดลงมาเหลือประมาณ 30%  อีกทั้งรัฐบาลก็สร้างความมั่นใจด้วยการปรับจีดีพีมาอยู่ที่ 3.8% ส่วนภูมิภาค ตลาดคอนโดฯยังต้องใช้เวลา และสามารถเลื่อนแผนการลงทุนออกไปได้ เพราะว่ากำลังซื้อยังไม่กลับมา ส่วนแนวราบยังมียอดขายที่ดี ด้านโครงการระเบียงเขตเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรือ EEC  ก็เป็นเรื่องดี นักลงทุนเข้าใจแผนการลงทุนของภาครัฐ แต่ยังไม่ควรรีบไปพัฒนาโครงการในพื้นที่EEC มากนัก ทั้งนี้เพราะต้องการรอดูการลงทุนของภาครัฐให้มีความชัดเจนก่อน

 

 

ด้านนายประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต นายกสมาคมอาคารชุดไทย กล่าวถึงภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 2561 ว่า ด้วยสภาพของการแข่งขันที่รุนแรง และมีผู้ประกอบการขนาดใหญ่จากต่างประเทศเข้ามาร่วมลงทุนกับผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะเงินทุนบริษัทอสังหาริมทรัพย์จากประเทศญี่ปุ่น ทำให้ต้องเร่งแผนพัฒนาโครงการที่วางไว้ และต้องพิจารณาเลือกซื้อที่ดินในทำเลศักยภาพ อาทิ ที่ดินในพื้นที่ศูนย์กลางธุรกิจ(ซีบีดี) เพื่อพัฒนาโครงการได้ตามเป้าหมาย ส่งผลให้ราคาที่ดินในซีบีดีปรับเพิ่มขึ้น 7-10% และมีผลต่อราคาขายโครงการคอนโดมิเนียม ที่คาดว่าจะปรับเพิ่มขึ้นประมาณ 5-7%  ในปี2561

 

“ปัจจุบันที่ดินในเมืองมีค่อนข้างจำกัด หากเป็นแปลงใหญ่ๆจะเป็นของหน่วยงานรัฐ ซึ่งจะปล่อยเช่าระยะยาว โดยในส่วนของที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทยนั้น ขณะนี้มีผู้ประกอบการอสังหาฯแสดงความสนใจที่จะเข้าร่วมพัฒนาที่ดินด้วยเช่นกัน เนื่องจากเป็นที่ดินแปลงใหญ่ และในส่วนของภาพรวมตลาดอสังหาฯในปีนี้ คาดว่าทั้งมูลค่าการโอนและจำนวนยูนิต จะเติบโตเฉลี่ย 10% ” นายประเสริฐ กล่าว

 

นายพรนริศ ชวนไชยสิทธิ์ นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย กล่าวว่า นับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2560 เป็นต้นไป ผู้ประกอบการจะหันมาเปิดโครงการที่อยู่อาศัย แต่ตัวเลขโครงการไม่มาก  เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจยังไม่เอื้ออำนวย แต่คาดว่าภาพรวมการเติบโตอสังหาฯในปีนี้จะขยายตัวประมาณ 5% แม้จะเติบโตไม่สูง แต่หากรวมกับตลาดอาคารสำนักงานแล้ว ซึ่งในปีนี้และปีหน้าจะมีการลงทุนจำนวนมาก หากนับรวมเข้าไป จะทำให้ภาคอสังหาฯมีอัตราการเติบโตที่สูงขึ้น สำหรับแนวโน้มในปี 2561  เศรษฐกิจน่าจะดี เนื่องจากภาคการส่งออกดีขึ้น ส่งผลถึงภาคการเกษตร ธุรกิจขนาดใหญ่น่จะดีขึ้น แต่รายเล็กจะค่อนข้างลำบาก

 

นายอดิเรก แสงใสแก้ว  ประธานคณะกรรมการการจัดงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 37 กล่าวว่า

ภาคอสังหาฯของไทยยังคงมีอัตราการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอยู่ในอัตราที่น่าพอใจในระดับ 5-10% เพราะในปีที่ผ่านมายังมีปัจจัยสนับสนุนการเติบโตอยู่หลายประการ ไม่ว่าจะเป็นอิทธิพลจากเศรษฐกิจโลกในครึ่งปีหลังที่มีแนวโน้มขยายตัวดีขึ้น โดยเฉพาะในอเมริกาเหนือและยุโรป ทำให้เศรษฐกิจและการค้าโลกขยายตัวเร่งขึ้น

ส่วนในประเทศไทย ภาครัฐได้มีการลงทุนอย่างต่อเนื่อง โดยเห็นได้จากการเร่งรัดเบิกจ่ายเงินงบ ประมาณรายจ่ายประจำปี 2560 และงบเพิ่มเติม รวมไปถึงงบลงทุนรัฐวิสาหกิจมีแนวโน้มที่ดีต่อเนื่องจากครึ่ง ปีแรก ขณะที่การก่อสร้างภาครัฐก็กลับมาขยายตัวสูง ตามการเบิกจ่ายงบประมาณและโครงการโครงสร้างพื้นฐานที่เดินหน้าดำเนินการต่อ เช่นเดียวกับภาคเอกชนที่ มีปริมาณการนำเข้าสินค้าทุนเพิ่มขึ้น5.3% ในไตรมาส2 และพื้นที่รับอนุญาตก่อสร้างที่อยู่อาศัยกลับมาขยายตัว 16.7% ส่วนภาคการเงิน การปล่อยสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยน่าจะเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น เนื่องจากธนาคารเริ่มผ่อนปรนเงื่อนไขการขอสินเชื่อด้านอัตราดอกเบี้ยนั้นก็ยังคงอยู่ในระดับต่ำ และคาดว่าจะคงอัตรา 1.50% จนถึงสิ้นปี เพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ประกอบกับอัตราเงินเฟ้อของประเทศที่ยังอยู่ในระดับต่ำ จึงมีส่วนช่วยในเรื่องของต้นทุนในการก่อสร้างและค่าเช่า

 

สำหรับการจัดงาน มหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 37 ซึ่งจัดโดย สมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย สมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร และสมาคมอาคารชุดไทย ภายใต้คอนเซ็ปต์การจัดงาน “Living Solution มิติใหม่แห่งพื้นที่ ที่อยู่อาศัย” ระหว่างวันที่ 5-8 ต.ค.นี้ ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยมีผู้ประกอบการเกือบ 200 ราย นำโครงการมากกว่า 1,000 โครงการมาร่วมออกบูธ คาดว่าจะมียอดผู้เข้าร่วมชมงาน 4 วันกว่า  100,000 คน และมียอดขายในงานมากกว่า 4,000 ล้านบาท และยอดขายต่อเนื่องตามหลังงานอีกอย่างน้อย 8,000 ล้านบาท รวมแล้วไม่ต่ำกว่า 12,000 ล้านบาท