พฤกษาฯเมินร่วมทุนต่างชาติ มั่นใจฐานการเงินแกร่ง หนี้สินต่อทุนต่ำ เผย 7 เดือนคอนโดฯพรีเมี่ยมยอดขายทะลุเกินเป้า คาดถึงปลายปีฟัน8,000ล้านบาท คาด 2 เดือนสุดท้ายผุดอีก 2 โคนงการใหม่ มูลค่า 3,200 ล้านบาท ฟุ้ง”เดอะรีเซิร์ฟ พหลฯ-ประดิพัทธ์”นำห้องสไตล์ล็อฟท์ขายวันเดียวยอดพุ่ง 50% คาดปิดขายภายในวันที่ 16 ก.ย.60

 

นายประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจพฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด(มหาชน)หรือ PS เปิดเผยว่า จากการที่ปัจจุบันมีกระแสผู้ประกอบการไทยดึงผู้ประกอบการจากต่างประเทศ โดยเฉพาะญี่ปุ่น มาร่วมทุนพัฒนาโครงการมากขึ้น เพราะส่วนหนึ่งผู้ประกอบการไทยบางรายต้องการเงินทุนจากต่างชาติเข้ามาเสริมความแข็งแกร่ง แต่ในส่วนของบริษัทฯไม่มีความจำเป็นต้องร่วมทุนกับใคร เนื่องจากบริษัทมีศักยภาพและแข็งแกร่ง ประกอบกับหนี้สินต่อทุน(D/E) อยู่ที่0.66 เท่า มีเงินรองรับการดำเนินธุรกิจ 20,000-30,000 ล้านบาท ทำให้สถาบันการเงินพร้อมให้การสนับสนุน ขณะเดียวกันด้วยศักยภาพของบริษัท มีผลเรื่องของต้นทุนทางการเงินโดยจะเห็นได้จากหุ้นกู้ที่ออกไปล่าสุด 2,000 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยอยู้ที่ 2.6% ต่ำสุดในอุตสาหกรรม

“โดยส่วนตัวแล้วการร่วมทุนกับชาวญี่ปุ่น พบว่าผู้ประกอบการไทยบางรายต้องการร่วมทุนเพราะเรื่องเงินทุน ขณะที่กลุ่มญี่ปุ่นจะมีความโดดเด่นเรื่องดีไซน์ ซึ่งในส่วนของPS เองในด้านวัตกรรมนั้นก็ไม่น้อยหน้าใครกัน”นายประเสริฐ กล่าว

 

สำหรับในช่วง 6-7เดือนที่ผ่านมา ตลาดคอนโดฯระดับพรีเมียมของPS สามารถทำยอดขายได้ 6,000 ล้านบาท จากทั้งปีตั้งเป้าไว้ที่4,000 ล้านบาท คาดว่าทั้งปีจะสามารถทำยอดขายในส่วนของคอนโดฯระดับพรีเมียมที่ 8,000 ล้านบาท สิ่งที่เป็นจุดขายคือมีการสร้างสรรค์ และมีโมเดลใหม่ๆมาสนองลูกค้าอย่างต่อเนื่อง โดยระยะ 7 เดือนที่ผ่านมา บริษัทมีส่วนแบ่งตลาดระดับพรีเมี่ยม 5% คิดเป็นผู้นำ1 ใน3 ของคอนโดฯระดับพรีเมี่ยม

 

อย่างไรก็ตามในช่วงเดือนพฤศจิกายนและธันวาคม 2560 บริษัทฯมีแผนที่จะเปิดตัวโครงการในกลุ่มพรีเมี่ยมอีกอย่างน้อย 1-2 โครงการ มูลค่ารวม 3,200 ล้านบาท โดยเป็นคอนโดฯทำเลสุขุมวิท 61 จำนวน 1 โครงการ แต่ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้

ส่วนความคืบหน้าโครงการ “เดอะรีเซิร์ฟ พหลฯ-ประดิพัทธ์”ซึ่งตั้งอยู่บนพื้นที่ 1 ไร่เศษ เป็นคอนโดฯสูง25 ชั้น ขนาด 28-48 ตารางเมตร ราคา 4.9-8.5 ล้านบาท หรือราคาเฉลี่ย 160,000-170,000 บาท/ตารางเมตร จำนวน 260 ยูนิต มูลค่าโครงการกว่า 1,600 ล้านบาท และเมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2560 ที่ผ่านมาได้นำห้องสไตล์ลอฟท์(Loft)ห้องรูปแบบใหม่ ขนาด 29.75 เมตรที่มีจำนวน 244 ยูนิต ที่นำมาใช้ในโครงการดังกล่าวเป็นครั้งแรก มีเพดานสูง 4.4 เมตร ที่ต้องการให้ดีไซน์โดดเด่นและเน้นฟังก์ชั่นการใช้งานเป็นหลัก เหมาะสำหรับคนรุ่นใหม่ เปิดขายให้กับลูกค้าเก่าและลูกค้าที่ลงทะเบียนออนไลน์ ปรากฏว่าสามารถทำยอดขายได้ถึง 50% โดยลูกค้าสัดส่วน 80% เป็นลูกค้าที่ซื้อจริง และ 20% เป็นลูกค้าที่ซื้อเพื่อการลงทุน และจะเปิดพรีเซลให้ลูกค้าทั่วไปในวันที่ 16-17 กันยายน 2560 นี้ คาดว่าจำนวนยูนิตที่เหลือจะปิดการขายได้ภายในวันที่ 16 กันยายนนี้ โดยขณะนี้โครงการดังกล่าวผ่านการวิเคราะห์การรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม(EIA)แล้ว และเริ่มการก่อสร้างในปลายปี2560 และเริ่มโอนกรรมสิทธิ์ได้ในปลายปี2562

 

ซัพพลายในย่านประดิพัทธ์มีประมาณ 980 ยูนิต จาก 6-7 โครงการ ราคาเฉลี่ยที่ 160,000 บาท/ตารางเมตร แต่ไม่ค่อยหวั่น เพราะไม่ใช่คู่แข่งและไม่สามารถปรับสินค้าขายได้ทันบริษัทฯ ซึ่งห้องสไตล์ล็อฟท์ เราจะนำไปใช้ในโครงการต่อๆไปด้วย ทั้งนี้ต้องดูความต้องการของลูกค้าในแต่ละทำเลด้วยเนื่องจากมองว่าราคาขายคอนโดฯต่อตารางเมตร มีราคาที่สูงขึ้น จึงต้องการให้ลูกค้าใช้พื้นที่ให้ได้ประโยชน์มากที่สุด ซึ่งการที่เราจะชนะตลาดพรีเมี่ยมได้จะต้องมีความคิดสร้างสรรค์