ทำเลศักยภาพแห่งใหม่ของกรุงเทพฯส่วนใหญ่เกิดจากการขยายตัวของเมืองและที่อยู่อาศัยรวมทั้งระบบสาธารณูปโภคพื้นฐานที่ทำให้พื้นที่เกิดการพัฒนา “รามคำแหง” ก็เป็นหนึ่งในนั้นด้วยเช่นกัน นอกเหนือจากรถไฟฟ้าสายสีส้ม ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย-มีนบุรี ที่เกิดขึ้นในย่านรามคำแหงแล้ว ยังมีรถไฟฟ้าสายสำคัญอีก 2 สายที่จะเกิดขึ้นตามมาด้วย นั่นคือ รถไฟฟ้าสายสีเหลือง ลาดพร้าว-สำโรง ที่ปัจจุบันมีความคืบหน้า 53.76% (ข้อมูล ณ สิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2563) และ รถไฟฟ้าสายสีน้ำตาล แยกลำสาลี-มีนบุรี ที่ปัจจุบันกำลังอยู่ในขั้นตอนระหว่างศึกษาและทำรายงาน EIA คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างในปี 2565 การเกิดรถไฟฟ้าขึ้นถึง 3 สาย บนทำเลรามคำแหงเป็นปัจจัยที่กระตุ้นให้ราคาที่ดินพุ่งสูงขึ้นอย่างก้าวกระโดด โดยราคาที่ดินบริเวณติดถนนใหญ่มีราคาสูงถึง 300,000 บาทต่อตารางวา ในขณะที่ราคาที่ดินในซอยอยู่ที่ 160,000-200,000 บาทต่อตารางวา นอกจากนี้ย่านรามคำแหงยังรายล้อมไปด้วยแหล่งธุรกิจ อาคารสำนักงาน ห้างสรรพสินค้า พื้นที่ค้าปลีก และคอนโดมิเนียมที่เกิดขึ้นจากศักยภาพของพื้นที่ที่ถูกพัฒนาอย่างต่อเนื่อง

รถไฟฟ้าสายสีส้ม ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย-มีนบุรี ถือเป็นความหวังหนึ่งของชาวรามคำแหงที่ลากยาวไปจนถึงมีนบุรี ที่ในอนาคตจะเป็นตัวเลือกของการเดินทางสายสำคัญที่จะนำพามวลชนเข้า-ออกพื้นที่เมืองกับเขตเชื่อมต่อนอกชานเมืองได้สะดวกยิ่งขึ้น และร่นระยะเวลาการเดินทางให้ลดลง ปัจจุบันการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย-มีนบุรี มีความคืบหน้า 56.86% โดยเร็วกว่าแผนงานที่วางไว้ประมาณ2.57% (ข้อมูล ณ.สิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2563) จะก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 2565 และสามารถเปิดให้บริการได้ในปี 2567 คาดว่าจะมีผู้ใช้บริการราว 400,000 คน/วัน โดยรถไฟฟ้าสายสีส้มฯจะถูกเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินที่สถานีศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย และเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีเหลืองที่สถานีลำสาลี ซึ่งจะทำให้การเดินทางสะดวกมากยิ่งขึ้น และถือเป็นรถไฟฟ้าสายแรกที่เชื่อมโยงกรุงเทพฝั่งตะวันออกสู่ใจกลางเมือง

ถนนรามคำแหงกลายเป็นถนนสายสำคัญจากการมาของรถไฟฟ้าสายสีส้มฯทำให้ราคาประเมินที่ดินในช่วงปี2559-2562 ของถนนรามคำแหง มีราคาประเมินที่ดิน 90,000 – 170,000 บาทต่อตารางวา สำหรับราคาประเมินที่ดินใหม่ในปี 2563 คาดว่าจะมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นราว 10%-20% พื้นที่ในย่านถนนรามคำแหงโดยเฉพาะที่ดินที่ดินกับถนนใหญ่ปัจจุบันหาที่ดินว่างเปล่าได้ค่อนข้างยากเนื่องจากถูกพัฒนาเป็นรูปแบบต่างๆที่กำลังรอต้อนรับการมาของรถไฟฟ้าสายสีส้มฯ รวมทั้งเดอะมอลล์รามคำแหงที่ปัจจุบันอยู่ในช่วงของการปรับปรุงเพื่อให้ทันสมัยมากยิ่งขึ้น รองรับการเปลี่ยนแปลงที่กำลังจะเกิดขึ้นในช่วงระยะเวลาอีก 4 ปี ข้างหน้าที่เชื่อได้ว่า “รามคำแหง” จะถูกพลิกโฉมจากที่เคยเป็นอย่างแน่นอน และจะกลายเป็นทำเลแห่งใหม่ของการใช้ชีวิต รวมถึงย่านไลฟ์สไตล์ที่อาจเกิดขึ้นในบนรามคำแหงแห่งนี้

หากย้อนกลับไปจะเห็นว่าคอนโดมิเนียมบริเวณรามคำแหงมีการปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง ข้อมูลจากไนท์แฟรงค์ ประเทศไทยพบว่าค่าเฉลี่ยสะสมในการปรับตัวในระยะเวลา 5 ปี (Compound Annual Growth Rate: CAGR) อยู่ในอัตรา7.2% ต่อปี

เนื่องด้วยทำเลที่มีศักยภาพส่งผลต่อผู้สนใจเข้าซื้อคอนโดมิเนียมในย่านรามคำแหงเพิ่มมากขึ้น คอนโดมิเนียมในย่านรามคำแหงยังคงเป็นราคาที่ไม่สูงมากนักและสอดรับกับดีมานด์ของกลุ่มผู้บริโภคที่ให้ความสนใจในย่านนี้ เมื่อเปรียบเทียบกับถนนรัชดาภิเษกที่ราคาคอนโดมิเนียมมีราคาขายสูงถึง 150,000 บาทต่อตารางเมตร ทำให้กลุ่มผู้บริโภคเลือกซื้อที่อยู่อาศัยที่ขยับออกนอกเมืองมานิดหน่อยแต่ยังสามารถเดินทางเข้าสู่เมืองได้สะดวก หากรถไฟฟ้าสายสีส้มเปิดให้บริการจะช่วยเติมเต็มการเดินทางและเชื่อมต่อการใช้ชีวิตระหว่างเมืองมากยิ่งขึ้น

จากปัจจัยและการเติบโตของทำเลในย่านนี้ ทำให้ราคาคอนโดมิเนียมในย่านรามคำแหงมีการปรับราคาขึ้นอย่างต่อเนื่องเมื่อรถไฟฟ้าสายสีส้มฯก่อสร้างเสร็จและเปิดให้บริการจะทำให้ราคาขายของคอนโดมิเนียมในย่านรามคำแหงเติบโตขึ้นอีก 4%-10%

KNIGHTSBRIDGE COLLAGE RAMKHAMHAENG

ชื่อโครงการ

Knightbridge Collage Ramkhamheang

บริษัท

บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด  (มหาชน)

ที่ตั้ง

ติดถนนรามคำแหง 100 เมตร จากสถานีหัวหมาก

พื้นที่โครงการ

4-0-11.9 ไร่

รูปแบบ

1 อาคาร จำนวน 25 ชั้น

จำนวนยูนิต

682 ยูนิต + 3 shop

ที่จอดรถ

ที่จอดรถ 1 อาคาร 6 ชั้น 46.52%

ราคาเริ่มต้น

2.49 ล้านบาท

ราคาเฉลี่ย

104,000.บาทต่อตารางเมตร

เริ่มก่อสร้าง

มี.ค. 2561

คาดว่าแล้วเสร็จ

มี.ค. 2563

ด้วยราคาแล้วอาจจะสูงขึ้นมากว่าราคาเฉลี่ยทั้งย่าน แต่อยากให้มองว่า คุณจะได้โครงการระดับ Luxury ซึ่งเป็น Segment สูงกว่าโครงการอื่นๆตัว Product โครงการคุณภาพดีราคาเหมาะสม กับทำเลที่นับวันความเจริญจะวิ่งเข้าหา และเป็นโครงการ Luxury โครงการเดียวบนทำเลรามคำแหง

Hilight ของ Product นอกจากจะได้ High Ceiling ที่สูงถึง 3 เมตร แล้วเรื่องพื้นที่ส่วนกลางก็ยัง Beyond ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ การอยู่อาศัยของคนรุ่นใหม่ครบทั้ง Co kitchen ,Another Home, Fitness, สระว่ายน้ำ Facility ครบครันสมกับเป็นโครงการระดับ Luxury

KNIGHTSBRIDGE COLLAGE RAMKHAMHAENG
โครงการ Luxury หนึ่งเดียวบนทำเลรามคำแหง

Knightsbridge นั้นเป็นชื่อของถนนเส้นสำคัญใน LONDON ที่เรียกว่าเป็น Luxury District แหล่งรวมของ Luxury Residence , Luxury retail shop และ Shopping Plaza อย่างห้าง Harrods และ Harvey Nicols

ทำไมโครงการ KNIGHTSBRIDGE COLLAGE RAMKHAMHAENG ถึงน่าสนใจ?

ตัวโครงการ ตั้งอยู่บนถนนรามคำแหง อยู่ในย่านที่ได้รับความสนใจมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งกลุ่มคนไทยเอง และชาวต่างชาติ ที่กำลังมองหาห้องเช่า หากมองเรื่องการลงทุนปล่อยเช่าต่างชาติได้ดี โดยเฉพาะปัจจุับสนับสนุนหลักแนวรถฟ้าในอนาคต ที่วิ่งเข้าสนามบิทสุวรรณภูมิ และเชื่อม สายสีส้ม และสายสีเหลืองที่วิ่งเข้าสู่กลางใจเมืองได้ดีด้วย และหากมองกลุ่มผู้เช่าคนไทย ที่เป็นพนักออฟฟิส ก็ยังเป็นทำเลที่สะดวก เดินทางด้วยรถยนต์ เข้าสู่สะพานยกระดับมุ่งหน้าพระราม 9 เพชรบุรี เข้าออกได้หลากเส้นทาง ทั้งถนนศรีนครินทร์ รามคำแหง เพชรบุรี หัวหมาก ในราคาที่เหมาะสมและเข้าถึงได้จริง สภาพแวดล้อมของโครงการก็มีห้างสรรพสินค้ารายล้อม

โครงการใกล้รถไฟฟ้า 2 สถานี สายปัจจุบันคือมี Airport Rail link ใกล้กับสถานีหัวหมาก เป็นสายที่ต่อถึงสนามบินสุวรรณภูมิได้เลย และในอนาคต อีก 4 -5 ปีข้างหน้า (คาดว่าแล้วเสร็จสามารถเปิดให้บริการ พ.ศ. 2564) จะมีสถานีที่เป็นจุดตัดของสายสีส้มและสายสีเหลือง คือสถานีลำสาลี และสายสีเหลืองเองจะเชื่อมต่อไปตัดกับ Airport Link ที่สถานีพัฒนาการ สามารถเชื่อมต่อกับสนามบินสุวรรณภูมิได้เลย เหมือนกับสาย Asakusa ของญี่ปุ่นที่วิ่งเข้า Airport เหมือนกัน ทั้งยัง Infrastructure โดยรวมก็มีความเปลี่ยนแปลงมากขึ้นเรื่อยๆ อย่าง The Mall รามคำแหงเป็นห้างสรรพสินค้า พาณิชยกรรมขนาดใหญ่ที่เป็นหัวใจของย่านรามคำแหงเลยก็ว่าได้ กำลังจะมีการรีโนเวท ปรับปรุงอาคาร สร้าง Lifestyle ใหม่ที่มีความทันสมัยมากยิ่งขึ้น หากเทียบๆกันแล้วก็ดูจะคล้ายกับย่านอ่อนนุชเมื่อ 4-5 ปีที่แล้ว ย่านชุมชนเดิม ที่ความเจริญจากทองหล่อค่อยๆขยายเข้าไป เปลี่ยนตัวเองจากย่านชุมชุนบ้านเดี่ยว 1-2 ชั้นจนปัจจุบัน เราจะเห็นภาพของอ่อนนุชเป็นตึกสูงคอนโดมิเนียมเรียงรายทั้งหน้าถนนใหญ่และในซอย..

โครงการ Knightsbridge Collage Ramkhamhaeng จึงนำเสนอแนวคิดแบบ Classic with Modern twist ถ่ายทอดออกมาไม่ว่าจะเป็นรูปแบบของงานสถาปัตยกรรมอาคาร และ งาน Interior Design ให้ออกมาในแนว Collage Art ที่ผสมผสานความทันสมัยและคลาสสิคอย่างลงตัว

โครงการ Knightsbridge Collage Ramkhamhaeng เป็นโครงการ Knightsbridge ที่ได้รับการร่วมทุนและร่วมพัฒนากับ Nomura Real estate Holding พาร์ทเนอร์รายใหม่ที่สำคัญของออริจิ้น ด้วยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมพักอาศัยแบบ High rise มายาวนาน

การพัฒนาที่อยู่อาศัยที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าผู้พักอาศัยได้จริง หรือ การออกแบบด้วยแนวคิด Human Centric design ซึ่งแนวคิดการพัฒนาการออกแบบ เพื่อโดยคำนึงถึงผู้ใช้งานเป็นศูนย์กลาง เป็นแนวทางในการออกแบบ ที่ทางออริจิ้น ได้ผลักดันและนำมาพัฒนาโครงการใหม่ๆในปีนี้ เรียกว่า Project หลังๆที่ออกสู่ตลาด มีการทำ Market Research สำรวจและศึกษาพฤติกรรม และวิธีการใช้ชีวิตของผู้พักอาศัย ความชอบ จนนำมาปรับปรุงให้ Product ดีขึ้นตอบสนองการใช้ชีวิต และการอยู่อาศัยได้ถูกใจลูกค้ามากขึ้น

“เราจึงได้เห็นมาตรฐานความสูงของห้องพักอาศัย Floor to Ceiling 3 เมตร
และ Another home แนวคิดของพื้นที่ส่วนกลางที่ตอบสนองการใช้ชีวิตในคอนโดมิเนียม
ให้เหมือนกับการใช้ชีวิตในบ้าน ”

ทำเลโครงการ Knightsbridge Collage Ramkhamhaeng ตั้งอยู่บนทำเลติดถนนใหญ่ บริเวณปากซอยรามคำแหง 24 ซึ่งเป็นซอยที่ลัดทะลุออกไปยังถนนศรีนครินทร์ – พระราม9 ได้หากการจราจรหนาแน่นบริเวณถนนรามคำแหง ซึ่งจากที่ตั้งโครงการห่างสถานีรถไฟฟ้าสายสีส้ม สถานีหัวหมากไปเพียง 100 เมตร เดินทางเข้าเมืองสะดวกสบาย เพราะรถไฟฟ้าสายสีส้มในอนาคต ก็เชื่อมเข้าสู่ใจกลางเมืองย่าน NEW CBD พระราม9 ได้เลย นับว่าเป็นทำเลที่ตั้งที่สะดวกมีทางเลือกการเดินทางได้ ค่อนข้างครบ

ที่น่าสนใจคือ ทำเลย่านนี้ ยังมีโครงการคอนโดมิเนียมที่เป็น Luxury ไม่มาก การมาของ Knightsbridge Collage Ramkhamhaeng ครั้งนี้ จึงสร้างสีสันให้กับทำเลย่านรามคำแหง ที่เจริญมายาวนาน และกำลังจะกลับมาเป็นทำเลที่ถูกปรับเปลี่ยนให้มีชีวิตชีวากว่าเดิม เราจึงได้เห็น ตอนนี้ ภาพโครงสร้างและสภาพแวดล้อมของทำเลก็เริ่มเปลี่ยนไป ร้านค้า ห้างสรรพสินค้าอย่าง เดอะ มอลล์ ราม2 ที่เปิดมากว่า 20 ปี ก็กำลังมีการ renovate ให้กลายเป็น Mix use Complex ขนาดใหญ่กว่า 30 ไร่ และทันสมัยมากยิ่งขึ้น ซึ่งทาง The Mall เองมีแผนจากพัฒนาทั้งส่วนของ ย่านรามคำแหง และ ย่านบางกะปิ ให้เป็น Shopping district เทียบชั้นใจกลางเมืองกรุงเทพเลยทีเดียว

ความคืบหน้างานก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้มฯ หบริเวณน้าห้างเดอะมอลล์รามคำแหง

Knightsbridge Collage Ramkhamhaeng เหมาะกับใคร ?

โครงการคอนโดมิเนียม ในโซนรามคำแหงตอนกลาง ในตลาดที่ผ่านมายังมีการเปิดตัวใหม่ๆน้อยมาก และยังไม่เป็นโครงการไหนเปิดตัวด้วยรูปแบบโครงการแบบ Luxury จึงเห็นว่า Knightsbridge Collage Ramkhamhaeng นี้มาสร้างสีสันให้กับทำเลรามคำแหงตอนกลางนี้มากทีเดียว

การซื้อลงทุนในระยะสั้น อาจจะยังไม่เห็นได้อย่างชัดเจน ด้วยตลาดย่านนี้กลุ่มลูกค้า ยังไม่คุ้นเคยกับการซื้อลงทุนคอนโดมิเนียมเพื่อปล่อยเก็งกำไรมากนัก และโครงสร้างทางกายภาพของทำเลก็ยังเป็นทำเลที่รอวันเสร็จสมบูรณ์ จากโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม และ การ Renovate ห้าง The Mall รามคำแหง 2

การซื้อเพื่อเป็นไว้เป็นการลงทุนในระยะยาว เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ ถ้าคุณเป็นคนที่มีเงินเย็นพอที่จะซื้อเก็บและรอการปรับราคาขึ้นในอนาคต ซึ่งมีแนวโน้มที่ดี ด้วยรามคำแหงตอนกลางเอง ณ ตอนนี้ไม่ค่อยมีโครงการเปิดใหม่มากนัก ซึ่งที่ผ่านมาตลาดมุ่งไปกันทางถนนรามคำแหงตอนต้น ที่ตัดพระราม 9 กันซะมาก และอย่างที่บอกไว้ตอนต้นว่า โครงการแบบ Luxury ณ ตอนนี้ ไม่มีเปิดมากนัก และทำเลโครงการที่ติดถนนใหญ่ ใกล้สถานีรถไฟฟ้าสายสีส้มสถานีหัวหมากเพียง 100 เมตร ที่น่าสนใจคือ แนวโน้มของรถไฟฟ้าสายสีส้มนี้ เป็นสายที่มีความสำคัญ ไม่ใช่เป็นแค่สาย Feeder แต่เป็นสายที่วิ่งผ่าเข้าใจกลางเมือง จึงเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้ ที่ดินและโครงการที่ขึ้นแนวรถไฟฟ้าสายนี้ มีโอกาสเติบโตได้ไม่ต่างจากสายสีเขียวและสีน้ำเงินในปัจจุบัน

มุมมองด้านการซื้อเพื่ออยู่อาศัย ครั้งแรกที่เห็นรูปแบบโครงการแล้วรู้สึกได้เลยว่า นี่คือรูปแบบโครงการที่น่าอยู่ทั้ง Concept การออกแบบใน Style Collage Art ที่มีความคลาสสิค ไร้กาลเวลา ไม่ Modern จนเกินไปทำให้ไม่ว่าจะผ่านไปนานเท่าไรก็ยังเข้าได้กับทุกยุคสมัย สิ่งที่ออริจิ้นและ Nomura ช่วยกันผลักดันคือการสร้างที่อยู่อาศัยเพื่อการอยู่อาศัยและใช้งานได้จริงๆ ในแนวคิดการออกแบบ Human Centric นี่ก็เป็นปัจจัยที่มั่นใจได้ว่าจะทำให้ผู้ที่ซื้อเพื่อต้องการใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ สะดวกสบายเหมือนที่ได้ระบจากการอยู่อาศัยในบ้าน และห้องที่เพดานสูง 3 เมตรไม่ได้มีมากนักในตลาด ถ้าได้ลองเห็นห้องตัวอย่างจริงๆคุณจะรับรู้ได้ถึงความแตกต่างจากคอนโดมิเนียมทั่วๆไป ในตารางเมตรที่เท่ากัน

????????????? ??????? ????????????
ความรู้สึกมาก ‘’กว่า’’ ที่คุณต้องมาสัมผัส 15-16 ส.ค.นี้

เริ่มเพียง 2.22 ล้านบาท*.
คลิกสัมผัส :bit.ly/38kn8Ra