“ดี-แลนด์ฯ” เผยรายได้ 6เดือนแรกปี 2560 ลดลง10% ชี้อสังหาฯ ยังเผชิญพิษเศรษฐกิจ วางแผนกระจายความเสี่ยงเตรียมรุกทุกเซกเมนต์

 

นายศิริพงษ์ สมบูรณ์ กรรมการผู้จัดการบริษัท ดี-แลนด์ กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่าปี2560 นับเป็นอีกปีที่ที่มีความท้าทายเป็นอย่างมากสำหรับผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ รวมถึงบริษัทฯเองที่ยอมรับว่าผลประกอบการในช่วง6เดือนแรกของปีนี้ (มกราคม-มิถุนายน 2560) กับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา (มกราคม – มิถุนายน 2559) พบว่าบริษัทฯ มียอดขายอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกัน แต่ในขณะที่ยอดรับรู้รายได้ลดลงประมาณ 10% สืบเนื่องมาจากในช่วงไตรมาสสองของปี 2559 ตลาดอสังหาริมทรัพย์ได้รับแรงกระตุ้นจากภาครัฐในเรื่องค่าธรรมเนียมโอนและค่าจดจำนอง 0.1% แต่ในขณะที่ครึ่งแรกปี 2560 กลับได้รับผลกระทบจากหนี้ครัวเรือน รวมทั้งความเข้มงวดและล่าช้าในการปล่อยสินเชื่อลูกค้ารายย่อยของธนาคาร ทำให้บริษัทฯ ต้องหันมาประเมินสถานการณ์โดยตลอดเพื่อให้สามารถตอบรับกำลังซื้อและภาวะเศรษฐกิจได้ทัน

ในปีนี้บริษัทฯได้วางแผนธุรกิจแบบการกระจายการลงทุนในทำเลศักยภาพต่างๆ โดยแบ่งเป็นการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ออกเป็นประเภทที่อยู่อาศัย(Residential)ทั้งแนวราบและคอนโดมิเนียมประมาณ70% อสังหาริมทรัพย์เพื่อการค้าและการลงทุน  (Product For Investment) อีกประมาณ 20 % และอสังหาริมทรัพย์ประเภทเช่าที่สร้างรายได้ประจำ (Recurring Income) อีก 10%

โดยช่วงครึ่งแรกของปี2560 คือการเริ่มกระจายการลงทุนไปยังพื้นที่โซนเศรษฐกิจสำคัญของประเทศอย่างโซนภาคตะวันออกให้มากขึ้น ประกอบด้วย โซนศรีราชา ที่ได้เริ่มเข้าไปตั้งแต่ปี 2558 โดยในต้นปีนี้ได้เปิดตัวโครงการ “ดีคอมเพล็กซ์ ดีทาวน์ 3” ซึ่งเป็นโครงการทาวน์โฮมและอาคารพาณิชย์บนเนื้อที่ 3 ไร่ มูลค่าโครงการ 120 ล้านบาท ซึ่งตั้งอยู่ภายในโครงการมิกซ์ยูส ดีทาวน์-สวนเสือศรีราชา เป็น Product Innovation ใหม่ของบริษัทฯ และนอกจากนี้ ยังได้เริ่มขยายตลาดเข้าไปยังจังหวัดระยอง ซึ่งอยู่ในเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) โดยเริ่มพัฒนาโครงการใหม่ในชื่อ “บ้านดี เดอะวัลเล่ย์ ปลวกแดง” มูลค่าโครงการรวมประมาณ 681 ล้านบาท ชูจุดเด่นในเรื่องของทำเลที่อยู่ใกล้นิคมอุตสาหกรรมอีสเทิร์นซีบอร์ด (Eastern Seaboard) ซึ่งเป็นแหล่งงานขนาดใหญ่และมีการขยายเพื่อรองรับ EEC ซึ่งคาดว่าจะเปิดตัวโครงการดังกล่าวประมาณไตรมาส 3 ของปีนี้

 

ส่วนแผนธุรกิจช่วงปลายปี 2560 นี้บริษัทฯยังยึดทำเลเดิมในโซนพระราม 2 – สมุทรสาคร และเดินหน้าพัฒนาโครงการ “The Proud พระราม 2-พันท้ายนรสิงห์” ในเฟสที่ 2 ในรูปแบบบ้านเดี่ยวสไตล์ใหม่ในราคาที่ใกล้เคียงบ้านแฝดที่อยู่ในทำเลราคาเริ่มต้นที่ 3.99 ล้านบาท รวมทั้งการขยับขยายการลงทุนไปยังพื้นที่โซนกรุงเทพและภาคตะวันออกเพิ่มขึ้นจากช่วงต้นปีที่ผ่านมา ซึ่งขณะนี้ได้มีการซื้อที่ดินที่ศรีราชาและโซนบางบัวทองเพิ่มเติม โดยอยู่ในระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้โครงการ คาดว่าทั้ง 2  แปลงนี้ จะเริ่มเปิดตัวในช่วงไม่เกินไตรมาส 2 ของปี 2561

 

นอกจากนี้บริษัทฯ ยังมีแผนการต่อยอดไลฟ์สไตล์มอลล์ “พอร์โต้ ชิโน่” (Porto Chino) ไปยังพื้นที่อื่นที่มีศักยภาพ โดยตั้งเป้าจะเปิดตัวให้ทันในช่วงปลายปีนี้ รวมถึงได้มีการศึกษาความเป็นไปได้ในธุรกิจใหม่ๆ ที่เป็นรายได้ประจำเพื่อแตกไลน์ธุรกิจซึ่งจะเป็นการสร้างความมั่นคงและยั่งยืนให้กับบริษัทฯ ในอนาคต โดยในปีนี้ได้ตั้งเป้ายอดขายที่ 1,200 ล้าน และเป้ารายได้ที่ 1,000 ล้าน ซึ่งใกล้เคียงกับรายได้ในปีที่ผ่านมาซึ่งอยู่ที่ 900 ล้านบาท