คสช.มีมติเห็นชอบชะลอบังคับใช้4มาตราออกไปอีก6 เดือน เอื้อนายจ้าง-แรงงานปรับตัว ดำเนินเอกสารให้ถูกต้อง มีผลตั้งแต่ 23 มิ.ย.60-1ม.ค.61 ย้ำเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนห้ามแสวงหาผลประโยชน์ในทางมิชอบ

พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เปิดเผยภายหลังการประชุม คสช. ว่า ที่ประชุมมีการหารือ เกี่ยวพระราชกำหนดการบริหารการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ. 2560 โดยมีมติให้ใช้อำนาจตามมาตรา44 เพื่อชะลอการบังคับใช้ 4 มาตราในพระราชกำหนดดังกล่าวออกไปอีก 6 เดือน ได้แก่ มาตรา 101 ว่าด้วยการเอาผิดลูกจ้าง, มาตรา102 ว่าด้วยการเอาผิดนายจ้างที่รับคนมาทำงานในอาชีพพิเศษบางอย่างโดยไม่ได้รับอนุญาต,มาตรา122ว่าด้วยการรับคนที่ไม่มีใบอนุญาตมาทำงาน และมาตรา119 ว่าด้วยการทำงานโดยไม่มีหนังสือแจ้งนายทะเบียนทราบ เพื่อให้นายจ้าง และแรงงานต่างด้าวที่ผิดกฎหมาย ได้มีเวลาในการปรับตัว และดำเนินการด้านเอกสารให้ถูกต้อง มีผลตั้งแต่วันที่ 23 มิถุนายน2560-1 มกราคม 2561ส่วนความชัดเจนเรื่องวันประกาศใช้ จะต้องรอการประกาศในราชกิจจานุเบกษาอีกครั้ง

 

นอกจากนี้ในที่ประชุมยังได้เน้นย้ำเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วน ห้ามแสวงหาผลประโยชน์ในทางมิชอบกับแรงงานต่างด้าวที่ผิดกฎหมาย พร้อมทั้งกำชับไปยังผู้บัญชาการทหารบก และผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้ไปหาข้อเท็จจริง กรณีผู้ว่าราชการจังหวัดเมียวดี ของพม่า ได้ส่งจดหมายร้องเรียนเรื่องการเรียกรับผลประโยชน์ของเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทย โดยให้ดำเนินการแก้ไขในทุกพื้นที่ และจะต้องไม่ให้เกิดปัญหาในลักษณะนี้ขึ้นอีก พร้อมยืนยันว่ากรณีดังกล่าวจะไม่ส่งผลให้เกิดปัญหาตามแนวชายแดน

 

ด้านพ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก สตช. กล่าวว่า ขณะนี้ตำรวจรอความชัดเจนและการประกาศใช้มาตรา 44 ในเรื่องดังกล่าว โดยในระหว่างรอความชัดเจนของกฎหมายอยู่นั้น ตำรวจได้พยายามสร้างการรับรู้ให้ลูกจ้างนายจ้างอย่างต่อเนื่อง ไม่ได้ยกเว้นการจับกุมแรงงานต่างด้าว โดยเฉพาะแรงงานที่ทำผิดกฎหมายอย่างชัดเจน